ข่าว

"ทนายรณรงค์" แปลกใจ "ทนายตั้ม" มีเงินซื้อบ้านหรู ทั้งที่เพิ่งเปิดสำนักงาน

"ทนายรณรงค์" แปลกใจ "ทนายตั้ม" มีเงินซื้อบ้านหรู ทั้งที่เพิ่งเปิดสำนักงาน

16 พ.ย. 2567

"ทนายรณรงค์" ยอมรับแปลกใจ "ทนายตั้ม" มีเงินซื้อบ้านหรู คาดรับรายได้จากค่าจ้างแสนแพง เชื่อขณะถูกจับ กำลังไปปฎิบัติธรรมจริงวัดตะเข็บชายแดน

16 พ.ย. 2567 ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำในคดีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ฉ้อโกงเงินของ นางสาว จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย ซึ่งยังไม่ทราบว่าสอบประเด็นใด 

 

ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาจำรายละเอียดไม่ได้ว่า ทนายตั้มเคยเล่าให้ฟังเรื่องไหนบ้าง คาดว่าประเด็นที่จะถูกสอบสวนในวันนี้เกี่ยวกับเรื่องของไทม์ไลน์ที่เกี่ยวข้องกับการเงินของทนายตั้ม ยอมรับทนายตั้มเคยชวนตนเองไปกินไวน์ที่บ้าน แต่ตนเองก็ยังไม่เคยไป ส่วนเรื่องเงินที่ซื้อบ้านของทนายตั้ม ตนเองก็ไม่เคยถาม ส่วนตัวรู้สึกแปลกใจเรื่องเงินค่าซื้อบ้าน แต่ก็ไม่เคยถาม เพราะค่าจ้างทนายของทนายตั้มมีราคาแพง 

แม้จะค่าจ้างแพงแต่รายได้ก็ถือว่ากระโดดกว่าทนายทั่วไปที่เพิ่งตั้งสำนักงานขึ้นมา เพราะหากเปิดสำนักงานทนายความไปได้สักสิบปี แล้วมีค่าจ้างราคานี้ก็ไม่แปลกใจ แต่พึ่งมาเปิดและรับราคานี้ก็น่าแปลกใจอยู่ หากดูจากค่าจ้างในการเป็นทนายความก็ยังอยู่ในวิสัยที่ซื้อบ้านราคานี้ได้ "ทนายที่รวยกว่าทนายตั้มก็มี ยากดีมีจน วัดอะไรไม่ได้ คนบางคนทำสุจริต ก็รวยมีตั้งเยอะแยะไป"
 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าทนายตั้มเคยเล่าเรื่องเจ๊อ้อยให้ฟังหรือไม่ นายรณณรงค์ กล่าวว่า จำไม่ได้ว่าเคยพูดให้ฟังหรือไม่ เพราะไม่ได้สำคัญ เป็นลักษณะของการนั่งกินข้าวและไม่เคยเล่าไม่เคยเปรยอะไรเกี่ยวกับเจ๊อ้อยเลย ส่วนตนเองก็ไม่ได้รู้จักมาก่อน เพิ่งมารู้จักพร้อมนักข่าวเช่นกัน 
 

\"ทนายรณรงค์\" แปลกใจ \"ทนายตั้ม\" มีเงินซื้อบ้านหรู ทั้งที่เพิ่งเปิดสำนักงาน

โดยในวันที่ทนายตั้มและภรรยาถูกจับ ตนเชื่อว่า ทั้งคู่ไม่ได้กำลังจะไปปฎิบัติธรรมที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดปราจีนบุรี แต่คาดว่าน่าจะเป็นวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งวัดแห่งนี้อยู่ใกล้กับตะเข็บชายแดน เพราะตนเคยไปปฎิบัติธรรมกับทนายตั้มที่วัดแห่งนี้มาก่อน 

 

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับทนายตั้ม ทนายรณณรงค์ ยอมรับว่า ทำให้วงการทนายความเสื่อมเสีย สังคมและทนายหลายคนด่าก็ไม่ใช่เรื่องแปลกพิสดารแต่อย่างใด ส่วนความสัมพันธ์ของตนเองและทนายตั้มยืนยันว่า เป็นเพื่อนที่เคยสนิทกัน ทั้งที่ความจริงแล้ว ทนายตั้มมีเพื่อนที่เป็นทนายความอยู่หลายคน แต่ตนก็ไม่เข้าใจว่าทำไมพนักงานสอบสวนถึงเรียกตนมาให้ปากคำในฐานะพยาน  

 

ส่วนการจะเข้าไปเยี่ยมทนายตั้มที่เรือนจำหรือไม่นั้น ต้องรอให้สถานการณ์นิ่งก่อนถึงจะเข้าไป ส่วนทนายตั้มจะเจอตนเองหรือไม่นั้นก็เป็นเรื่องของทนายตั้ม