เดือด ด.ต. ยกพวกรุมตื้บ ร.ต.อ. ใส่กุญแจมือ ในร้านเหล้า ไม่สนผู้บังคับบัญชา
เดือดร้านเหล้า ด.ต. สุดกร่าง ยกพวกรุมตื้บ ร.ต.อ. จับใส่กุญแจมือ ไม่สนเป็นผู้บังคับบัญชา ลั่น “มึxอ่ะเป็นเด็ก xอ่ะเป็นเจ้าพ่อ”
18 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 17 พ.ย. 2567 ร.ต.ท.หญิง จิดาภา เกิดมีโภชน์ รองสว.(สอบสวน) สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุตำรวจทำร้ายร่างกายกัน ที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 122 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กทม. โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 12 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
สอบสวน ร.ต.อ.เกียรติคุณ อายุ 44 ปี รองสว.สส.สน.โคกคราม ผู้เสียหาย ให้การว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย. 2567 เวลา 19.00 น. ผู้เสียหายแวะไปที่ร้านอาหารกึ่งผับแห่งหนึ่ง เพื่อไปหาพี่ชายของผู้กล่าวหาซึ่งเป็นเจ้าของร้าน และได้นั่งเล่นพูดคุยกับพนักงานในร้าน เนื่องจากรู้จักกัน แต่ไม่ได้มาเพื่อดื่มเหล้า โดยระหว่างนั้นผู้กล่าวหาได้พกพาอาวุธปืนขนาด 9 มม. ติดตัวมาด้วย โดยเหน็บที่เอว
ต่อมาเวลา 02.00 น. ร้านกำลังจะปิดร้าน และมีพนักงานเริ่มทำความสะอาด และเคลียร์พื้นที่ จากนั้นได้มีชาย นายบ่าว ซึ่งผู้เสียหาย เคยเป็นพนักงานที่ร้าน และเคยก่อเหตุสร้างความวุ่นวายภายในร้านมาก่อน และผู้เสียหายเห็นว่านายบ่าว ได้พากลุ่มเพื่อน 10 ราย มาเที่ยวที่ร้านตอนที่ร้านใกล้จะปิด จึงเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์อันตราย จึงสังเกตเห็นว่านายบ่าว กับกลุ่มเพื่อน ได้หลีกเลี่ยงการตรวจค้น จากเจ้าหน้าที่ภายในร้าน
และเห็นว่าภายในกลุ่มเพื่อนนายบ่าว มี ด.ต.กิตติ เป็นตำรวจ ฝ่ายปราบปราม สน.โคกคราม สน.เดียวกันกับผู้เสียหาย เดินเข้ามาพร้อมๆกัน ผู้เสียหายจึงได้เดินไปทักทาย หลังจากนั้นจึงได้นั่งร่วมวงที่โต๊ะเดียวกัน ที่บริเวณด้านหลังสุดของร้าน ต่อมาผู้กล่าวหาจึงได้คุยกับ ด.ต.กิตติ และปรึกษาเรื่องนายบ่าว ว่าเหตุการณ์ที่ผู้กล่าวหาได้เห็นตอนที่นายบ่าวและกลุ่มเพื่อนได้เข้ามาภายในร้าน อาจจะสร้างความวุ่นวายอีกครั้ง ผู้กล่าวหาจึงเป็นกังวล แต่ ด.ต.กิตติ เกิดความไม่พอใจผู้กล่าวหา อย่างมาก เนื่องจาก ด.ต.กิตติ ได้มาพร้อมกับกลุ่มเพื่อนของนายบ่าว จึงพูดกับผู้เสียหายว่า “บ่าวคือน้องชายพี่ มากับพี่ ก็ต้องกลับกับพี่ ไม่วันพรุ่งนี้ ไม่แกมายิงพี่ ก็ต้องให้พี่มายิงแกให้ตายกันไปข้าง..พี่ไม่ได้ใช้คำว่าจะขอ แต่บ่าวต้องกลับกับพี่”
จากนั้น ด.ต.กิตติ จึงได้ลุกขึ้นทุบโต๊ะ ผู้เสียหายจึงได้ลุกขึ้นตาม เพื่อปรับความเข้าใจ แต่แฟนของ ด.ต.กิตติ ไม่ทราบชื่อสกุลจริง สวมเสื้อสีขาว ได้ลุกขึ้นตามมาทุบตีทำร้ายผู้กล่าวหา
จากนั้นผู้เสียหายจึง ได้ยกมือป้องกันตัว แต่กลุ่มเพื่อนของนายบ่าว เห็นเหตุการณ์แล้ว จึงเข้ามารุมทำร้าย ล็อกแขน และล็อกตัวผู้กล่าวหา จากนั้น ด.ต.กิตติ สั่งให้กลุ่มชายประมาณจำนวน 10 ราย กดตัวผู้กล่าวหาลงที่พื้น โดยผู้กล่าวหาพยายามขัดขืน และกลุ่มชายทั้งหมดจำนวน 10 ราย รวมถึง ด.ต.กิตติ ได้รุมต่อยผู้กล่าวหา จากนั้นมีชายคนหนึ่งในกลุ่มชายจำนวน 10 คน เจอปืนที่ผู้กล่าวหาเหน็บไว้ ที่เอว และได้แจ้งกับกลุ่มเพื่อนว่าผู้กล่าวหามีปืน จากนั้นจึงได้ชิงเอาปืนของผู้กล่าวหาไป ซึ่งผู้เสียหายไม่ทราบชื่อคนที่เอาปืนไป แต่จดจำตำหนิรูปพรรณของคนร้ายได้ มีลักษณะตัวโต ผิวคล้ำดำ หน้าคล้ายกับแขก คาดว่าเป็นคนใต้ เป็นคนสนิทกับ ด.ต.กิตติ จากนั้นผู้กล่าวหาได้ป้องกันตัวและขัดขืนตลอด และรู้สึกว่าตนถูกลากไป เมื่อสังเกตเห็นอีกที ก็เห็นกุญแจมืออยู่ที่บริเวณข้อมือฝั่งซ้าย
และผู้เสียหายเห็นว่ามีชาย 1 ราย ลักษณะตัวเล็ก พยายามใช้กุญแจมือล็อกแขนผู้กล่าวหาอีกข้างหนึ่ง คือข้างขวา แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากผู้กล่าวหาต่อสู้ขัดขืน โดยระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ได้มีกลุ่มชาย ประมาณ 10 ราย ร่วมกันล็อก และทำร้ายร่างกายผู้กล่าวหาอยู่ตลอด
หลังจากนั้น ด.ต.กิตติ ได้บังคับให้ผู้กล่าวหานั่ง โดยมีลูก ด.ต.กิตติ ยืนอยู่บริเวณด้านขวาของผู้กล่าวหา และใช้ปืน สแตนเลสสีดำ ไม่ทราบยี่ห้อ ฟาดที่ใบหน้าด้านขวาของผู้กล่าวหา 2 ครั้ง และชายที่นั่งบริเวณด้านซ้าย ลักษณะผิวดำคล้ำ ไว้หนวด สูงประมาณ 170 ซม. เตะผู้กล่าวหา และเอาเก้าอี้มาทุบตีหลายครั้ง โดยคนในกลุ่มชายคนร้าย 10 ราย รุมกันทุบตีผู้กล่าวหา ใช้แก้ว และเก้าอี้ทุบตีผู้กล่าวหาหลายครั้ง เป็นระยะเวลาประมาณ 10 นาที
ระหว่างนั้น ด.ต.กิตติ พูดกับผู้กล่าวหาว่า “มึงอ่ะเป็นเด็ก กูอ่ะเป็นเจ้าพ่อ กูยิงคนตายมากี่คนแล้ว กูก็ไม่ติดคุก” จากนั้น นายบ่าว ก็ได้เตะเสยที่หน้าของผู้กล่าวหา และได้ต่อย ตบและทุบที่บริเวณกลางศีรษะของผู้กล่าวหา
จากนั้น ได้มีผู้กองอาร์ ซึ่งเป็นฝ่ายสืบสวน สน.ลาดพร้าว ได้มาห้ามเหตุการณ์ไว้ ผู้เสียหายจึงได้หลุดออกมาจากสถานการณ์ดังกล่าว และจึงมีคนมาช่วยผู้เสียหาย แต่ไม่สามารถจำได้ว่าเป็นผู้ใด จากนั้นผู้กล่าวหาจึงไปโรงพยาบาลลาดพร้าวเพื่อรักษาตัว โดยแพทย์ได้ลงความเห็นไว้เบื้องต้น ว่ากระดูกโหนกแก้มซ้ายร้าว มีเลือดออกในตาขาวทั้งสองข้าง มีอาการฟกช้ำที่หน้า และศีรษะ
ผู้กล่าวหาจึงเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายดังกล่าว จนถึงที่สุด ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนได้อบคำให้การผู้กล่าวหาส่งตัวผู้กล่าวหา ไปตรวจชันสูตรบาดแผลยังโรงพยาบาลตำรวจ ประสานฝ่ายสืบสวนดำเนินการตรวจสอบกล้องวงจรปิดยังสถานที่เกิดเหตุ
จากการตรวจสอบ ด.ต.กิตติ หรือ ด.ต.ชนันท์กิตติ์ อายุ 42 ปี ผบ.หมู่ ป. สน.โคกคราม เคยถูกชุดสืบสวนนครบาลจับกุมดำเนินคดี เมื่อปี 2553 ที่ผ่านมา ในคดี ร่วมกันฆ่าเสี่ยค้าไม้ ขณะขับรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ สีบรอนซ์เงิน บริเวณถนนนิมิตใหม่ ฝั่งขาออก ใกล้ปากซอยนิมิตรใหม่ 36 แขวงสามวาตะวันออก เขตคลองสามวา กทม. เมื่อเวลา 22.30 น.วันที่ 30 เม.ย. 2567 ที่ผ่านมา แต่หลุดคดีมาได้ จนกระทั่งเกิดเหตุดังกล่าว