เดือดหน้าปั๊มน้ำมัน วัยรุ่น 2 ฝ่าย ยกพวกเอาคืนกัน ยิงดับโจ๋วัย 14 ปี | คมชัดลึก

18 พ.ย. 2567 เวลา 00.19 น. พ.ต.ท.ศิวัช พุ่มนุ่ม รอง ผกก.ป.สน.บางบอน รับแจ้งจากโรงพยาบาลบางปะกอก 8 ว่า มีผู้ถูกอาวุธปืนยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส มารักษาตัวและเสียชีวิตในเวลาต่อมา จึงพร้อมพ.ต.อ.นุกูล ครุฑศิริ ผกก.สน.บางบอน พ.ต.ท.ศุภกร กันทาลักษณ์ รอง ผกก.สส.สน.บางบอน และฝ่ายสืบสวนสน.บางบอน ไปตรวจสอบ

 

ในห้องฉุกเฉิน พบศพ ด.ช.พีรพัฒน์ อายุ 14 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่หน้าอกด้านซ้ายกระสุนตัดขั้วหัวใจ กระสุนฝังใน

โดย นายสุรสิทธิ์ อายุ18 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า เหตุเกิดที่หน้าปั๊มน้ำมันพีที ถนนบางบอน 4 แขวงบางบอนเหนือ เขตบางบอน กรุงเทพฯ ต้นเรื่อง คือ ผู้เสียชีวิตกับมือปืน คือ นายจักรพันธ์ อายุ 18 ปี นายวรากรณ์ อายุ 17 ปี ขี่รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 125 ไอ สีดำแดง และนายชาย ชาวเมียนมา ทั้งหมดเป็นเพื่อนกัน เคยทำงานที่โรงงานเดียวกัน และพักอยู่ห้องเช่าเดียวกัน ย่านบางบอน4

 

ต่อมาในกลุ่มมีเรื่องบาดหมางกัน ทำให้นายจักรพันธ์ นายวรากรณ์ และนายชาย ต้องย้ายไปเช่าห้องพักอยู่ที่ซอยโพธิ์คำนาค แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ ผู้เสียชีวิตเคยยืมเงินและยังค้างเงินนายชาย 1,700 บาท ช่วงขนย้ายของออกจากที่พัก นายชายได้หยิบเอากางเกงยีนส์ของผู้เสียชีวิตติดมือไปด้วย โดยผู้เสียชีวิตทวงถามอยู่หลายครั้ง และโพสต์ทวงทางเฟซบุ๊ก จนเกิดปะทะกันในเฟซบุ๊กอยู่หลายครั้ง

จนกระทั่งมีการนัดเอากางเกงยีนส์มาคืน และเอาเงินมาคืนกัน ในปั๊มที่เกิดเหตุ เมื่อถึงเวลา 22.20 น. วันที่17 พ.ย. 2567 กลุ่มตนมาด้วยกัน 5 คน รถจยย.2 คัน คันแรกมีนายวรากรณ์ เป็นคนขี่และนายจักรพันธ์ เป็นคนซ้อน อีกคันตนเป็นคนขี่ นายชาย นั่งกลาง และนายจักรรินทร์ นั่งปิดท้าย

 

เมื่อถึงที่นัดหมาย สังเกตเห็นผู้เสียชีวิต มากับเพื่อนประมาณ 5 คน ขี่รถจยย.ซุ่มอยู่ในพุ่มไม้ เมื่อผู้เสียชีวิตเห็นกลุ่มตน ได้ใช้ก้อนหินกระหน่ำขว้างใส่กลุ่มตน ถูกนายจักรรินทร์ ได้รับบาดเจ็บ กลุ่มตนแยกย้ายกันหลบหนี

 

 

ส่วนนายจักรพันธ์ ย้อนกลับไปเอาปืนที่บ้านพัก ซึ่งอยู่ใกล้กับปั๊มน้ำมัน โดยมีนายวรากรณ์ เป็นคนขี่ย้อนกลับมาที่ปั๊มอีกรอบ เห็นผู้เสียชีวิตยังอยู่ที่เดิม จึงได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้เสียชีวิตไป 1 นัด กระสุนถูกผู้เสียชีวิตอย่างจัง เพื่อนๆช่วยกันเอาตัวส่งโรงพยาบาลบางปะกอก 8 และเสียชีวิต ในเวลาต่อมา ส่วนมือปืนกับคนขี่รถจยย.หลบหนีไป

 

ต่อมา ร.ต.อ.ชูศักดิ์ เนตรสว่าง รอง สว.สส.สน.บางบอน พร้อมฝ่ายสืบสวน สน.บางบอน ได้เดินทางไปยังบ้านเช่า ภายในซอยโพธิ์คำนาค แขวงหลักสอง เขตบางแค กรุงเทพฯ เป็นที่พักของนายจักรพันธ์ กับน ายวรากรณ์ โดยเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวทั้งคู่ได้ พร้อมอาวุธปืนแบลงค์กันขนาด 9 มม. 1 กระบอก ปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. 1 ปลอก และรถจยย.ฮอนด้า เวฟ 125 ไอ

 

สอบสวน นายจักรพันธ์ รับว่า ก่อเหตุยิง ด.ช.พีรพัฒน์ จริง เพราะแค้นที่ปาหินใส่เพื่อน ได้รับบาดเจ็บ ส่วนอาวุธปืนซื้อมาจากในอินเตอร์เน็ต ราคา 7,000 บาท เอาไว้เพื่อป้องกันตัว จึงแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

 

จากการตรวจสอบประวัติ นายจักรพันธ์ ไม่พบประวัติต้องโทษ ส่วนนายวรากรณ์ เคยต้องคดี ท้องที่.สน.หนองแขม วันที่30 ม.ค. 2566 ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร ถูกจำคุกอยู่ 6 เดือน ก่อนได้รับอภัยโทษออกมา จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป