ข่าว

ย้อนไทม์ไลน์คดี "แอม ไซยาไนด์" ฆาตกรต่อเนื่อง จุดเริ่มต้น ถึงประหารชีวิต

ย้อนไทม์ไลน์คดี "แอม ไซยาไนด์" ฆาตกรต่อเนื่อง จุดเริ่มต้น ถึงประหารชีวิต

20 พ.ย. 2567

ย้อนรอยคดี "แอม ไซยาไนด์" ฆาตกรต่อเนื่อง จากจุดเริ่มต้น ถึงวันที่ศาลตัดสินประหารชีวิต เปิดรายชื่อเหยื่อ 15 ราย ล้วนเป็นเจ้าหนี้เงินกู้ ลูกวงแชร์

คดีสะเทือนขวัญ “แอม ไซยาไนด์วางยาไซด์ยาไนด์ ฆ่าคนสนิทอย่างเลือดเย็น เข้าข่ายฆาตกรต่อเนื่อง ฉายภาพความผิดชัดเจน เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 2567 ศาลอาญา ตัดสินประหารชีวิต นางสรารัตน์ หรือแอม ไซยาไนด์ อายุ 36 ปี เป็นคดีแรก

 

ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ อายุ 40 ปี อดีตสามี และ อดีต รองผกก.สภ.สวนผึ้ง จำเลยที่ 2 และ น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช อายุ 36 ปี จำเลยที่ 3 ศาลตัดสินจำคุกคนละ 2 ปี ฐานช่วยเหลือ แอม ไซยาไนด์ มิต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง โดย พ.ต.ท.วิฑูรย์ จำเลยที่ 2 ให้การเป็นประโยชน์ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 1 ปี 4 เดือน เเละให้ชดใช้ค่าเสียหายเเก่โจทก์ร่วม 2.4 ล้านบาทเศษ

 

ในคดีที่วางยาโพแทสเซียมไซยาไนด์(Potassium Cyanide) สังหาร น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย อายุ 32 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี

ย้อนไทม์ไลน์คดี \"แอม ไซยาไนด์\" ฆาตกรต่อเนื่อง จุดเริ่มต้น ถึงประหารชีวิต

 

ย้อนรอยเรื่องราว ไล่เรียงไทม์ไลน์ คดี แอม ไซยาไนด์ ฆาตกรต่อเนื่อง ลวงเหยื่อวางยาพิษ มีผู้เสียชีวิต 14 ราย และมี ผู้รอดชีวิต 1 ราย

 

คดีแรก 14 เม.ย. 2566 น.ส.ศิริพร หรือ ก้อย หายตัวไป โดยพี่สาวและแม่ พยายามตามหาเบาะแสทุกช่องทาง จนพบว่า ก้อย เสียชีวิตริมท่าน้ำใน อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี โดยพี่สาวได้ติดต่อเพื่อนของก้อย คือ แอม ไซยาไนด์ โดยเธอปฏิเสธว่า ไม่รู้เรื่อง เพราะตัวเองอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

 

ต่อมา ปรากฏว่า ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ท่าน้ำ จุดเกิดเหตุ พบว่ามีหญิงสาวเสื้อสีขาวไปกับผู้เสียชีวิต หน้าตาคล้าย แอม

 

15 เม.ย. 2566 ครอบครัวก้อย ตามหาทรัพย์สินของก้อย ที่หายไป มี รถยนต์ 1 คัน กระเป๋าหลุยส์ ราคาประมาณ 4 หมื่น และมือถือ อีก 2 เครื่อง พร้อมโพสต์ภาพ พร้อมข้อความตามหา ผู้หญิงเสื้อสีขาว ที่อยู่กับก้อย เป็นคนสุดท้าย

 

16 เม.ย. 2566  ครอบครัวก้อย ได้ขอความช่วยเหลือจากนายรพี ชำนาญเรือ จนตามไปเจอรถของก้อย จอดทิ้งไว้ที่หน้าบ้านตำรวจนายหนึ่ง มีภาพก้อยเดินไปพร้อม แอม

 

กระทั่ง แอม ติดต่อกลับมายอมรับว่าไปกับก้อยจริง แต่อ้างว่าไม่กล้าบอกเพราะก้อยให้พาไปหาผู้ชายคนหนึ่ง ส่วนทรัพย์สินอ้างว่าก้อยทิ้งไว้ที่บ้านเพื่อน แต่ต่อมากลับบอกว่า เอาไปทิ้งถังขยะ

18 เม.ย. 2566 ตำรวจ สภ.บ้านโป่ง เรียกตัว แอม เข้ามาแจ้งข้อกล่าวหา ฐานลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ แต่ แอม ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และขอประกันตัว จนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว

 

19 เม.ย. 2566  ครอบครัวของก้อย นำหลักฐานเข้าร้องเรียนกับตำรวจกองบังคับการปราบปราม ขณะเดียวกัน มีญาติผู้เสียชีวิตรายอื่น ที่เชื่อว่าเชื่อมโยงกับ แอม ติดต่อเข้ามาเพราะมีข้อสงสัยกับการเสียชีวิตของญาติ

 

20 เม.ย.  2566 มีบุคคลอื่นเสียชีวิตในลักษณะคล้ายกับก้อย และทยอยเปิดเผยข้อมูล ส่วนใหญ่อยู่ใน จ.ราชบุรี กาญจนบุรี และนครปฐม อยู่ในแวดวงตำรวจ ภรรยาตำรวจ และวงแชร์ มีความสัมพันธ์เรื่องเงินกับ แอม

 

และมีจุดน่าสงสัย คือ แอม มักจะอยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย และมักใช้กลอุบายชวนผู้เสียชีวิตไปทำบุญ ไปกินข้าวกันลำพัง บางรายเสียชีวิตระหว่างทาง บางรายกลับถึงบ้านแล้วเสียชีวิต

 

24 เม.ย. 2566 ครอบครัวก้อย นำหลักฐานเข้าร้องเรียนต่อ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(ในขณะนั้น) เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

 

25 เม.ย. 2566 ตำรวจจับกุม แอม ตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน  ที่ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่ง แอม ให้การปฏิเสธ

 

ย้อนไทม์ไลน์คดี \"แอม ไซยาไนด์\" ฆาตกรต่อเนื่อง จุดเริ่มต้น ถึงประหารชีวิต

 

ต่อมา ตำรวจเดินหน้าขยายผลพบพฤติการณ์ แอม ลงมือกับเหยื่ออีก 14 ราย รายชื่อ ดังนี้

 

  1. น.ส.มณฑาทิพย์ ชาว จ.กำแพงเพชร เสียชีวิต เมื่อวันที่ 7 ก.ค. 2558 ที่ กทม. ก่อนเสียชีวิตเธอเดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยมี แอม เป็นคนขับรถไปรับที่สนามบิน
  2. น.ส.นิตยา อายุ 36 ปี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2563 ในบ้านพัก ในพื้นที่ ตำบลโพรงมะเดื่อ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม สาเหตุการตายมาจากระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว โดยพบว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนค้ำประกันเงินกู้ให้กับ แอม  และ พบว่า แอม อยู่ด้วยในคืนสุดท้าย
  3. น.ส.ดาริณี หรือ ฟ้า อายุ 34 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุกล้ามเนื้อหัวใจผิดปกติ เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2563 ที่ ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม มีทรัพย์สินสูญหาย 60,000 บาท
  4. นายสุรัตน์ อายุ 35 ปี เสียชีวิตด้วยสาเหตุหลอดเลือดหัวใจตีบ เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564 ที่บ้านพักในพื้นที่ ตำบลท่าไม้ อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี ช่วงเสียชีวิตพบเงินจากบัญชีธนาคาร ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารของ แอม เป็นเงิน 60,000 บาท
  5. ร.ต.อ.หญิง กานดา หรือ ผู้กองนุ้ย อายุ 36 เสียชีวิตด้วยสาเหตุระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่บริเวณหน้าห้างโกลบอล จังหวัดนครปฐม และพบว่าผู้เสียชีวิตได้ร่วมวงแชร์ 100,000 บาท กับ แอม
  6. น.ส.รสจินทร์ หรือ เจ๊น้อยขายผัก เสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. 2565 ที่ตลาดมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ด้วยสาเหตุเลือดเป็นกรด และพบว่า ได้ร่วมวงแชร์ 100,000 บาทกับแอม
  7. นางจันทร์รัตน์ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2565 ที่บ้านพักในพื้นที่ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี ด้วยสาเหตุโลหิตล้มเหลว และมีประวัติร่วมลงทุนปล่อยเงินกู้ 70,000 บาท
  8. นางมณีรัตน์ หรือ ครูต่าย เสียชีวิต เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 2565 ที่ ตลาดบน-ตลาดล่าง พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม ด้วยสาเหตุเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน ก่อนเสียชีวิต แอม ได้โทรศัพท์ และ มานัดเจอกับครูต่าย
  9. น.ส.กะณิกา อายุ 44 ปี เสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 ก.ย. 2565 ที่ปั๊ม ปตท. บริเวณวงเวียน โพธาราม จังหวัดราชบุรี ด้วยสาเหตุหลอดเลือดในสมอง ในช่วงเสียชีวิต พบว่า เงินในบัญชีธนาคารถูกถอนออกไป 300,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำสูญหายไปอีกอย่างละเส้น
  10. น.ส.ผุสดี หรือ ครูอ๊อด อายุ 39 ปี เสียชีวิต วันที่ 20 พ.ย. 2565 ในบ้านพัก ตำบลลำบัว อำเภอดอนตูม จังหวัดนครปฐม สาเหตุมะเร็งเม็ดเลือด มีภาวะระบบไหลเวียนโลหิตล้มเหลว โดยพบว่า ร่วมวงแชร์ 100,000 บาทกับ แอม
  11. นายสุทธิศักดิ์ อายุ 35 ปี สามีใหม่ พ่อเด็กในท้องแอม เสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. 2566 ที่บ้านพักในพื้นที่ ตำบลสามพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำ และสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนักรวม 8 บาท พระเครื่องมูลค่า 100,000 บาท และเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง
  12. พ.ต.ต.หญิง นิภา แสนจันทร์ อายุ 38 ปี สาเหตุระบบไหลเวียนโลหิตและการหายใจล้มเหลว เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2566 ที่บ้านเลขที่ 196 ถนนเทศา ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม โดยทรัพย์สินที่สูญหายประกอบด้วยเงินสด 10,000 บาท และเงินในบัญชีธนาคารถูกถอนออกไป 140,000 บาท
  13. น.ส.สาวิตรี หรือ หนิม อายุ 40 ปี เจ้าหนี้ แอม หลักแสนบาท เสียชีวิตในพื้นที่ จังหวัดมุกดาหาร หลังกินยาลดความอ้วนตามที่ แอม ชวนกิน

 

ย้อนไทม์ไลน์คดี \"แอม ไซยาไนด์\" ฆาตกรต่อเนื่อง จุดเริ่มต้น ถึงประหารชีวิต

 

ส่วนผู้รอดชีวิต 1 ราย คือ

 

14. นางกานติมา หรือ ปลา อายุ 36 ปี ภรรยาตำรวจ เหตุเกิด เดือน ก.ย. 2565 ที่ ห้างแห่งหนึ่ง จ.กาญจนบุรี โดย แอม ติดหนี้  250,000 บาท (ใช้มาแล้วกว่า 50,000บาท) 
 

ย้อนไทม์ไลน์คดี \"แอม ไซยาไนด์\" ฆาตกรต่อเนื่อง จุดเริ่มต้น ถึงประหารชีวิต

 

30 มิ.ย. 2566 พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(ในขณะนั้น) แถลงสรุปคดี แอม ไซยาไนด์ ผู้ต้องหาวางยาฆ่าเจ้าหนี้ 15 คดี ในพื้นที่ 8 จังหวัด คดีแรกเกิดในปี 2558 ต่อเนื่องปี 2566 มีผู้เสียชีวิต 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย ผู้เสียชีวิตทั้งหมด มีความเกี่ยวพันกับ แอม ในฐานะเจ้าหนี้เงินกู้ นายหน้าขายรถมือสอง และลูกวงแชร์ ตำรวจสอบปากคำพยาน 900 ปาก มีเอกสารเกี่ยวกับคดี 26,500 แผ่น

 

ดำเนินคดี แอม ไซยาไนด์ ฐานพยายามฆ่าผู้อื่น , ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนฯ , ชิงทรัพย์โดยเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอมปนอาหาร ยา หรือเครื่องอุปโภค บริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ , การปลอมปนนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และปลอม และใช้เอกสารปลอมฯ รวมกว่า 75 ข้อหา ส่งให้พนักงานอัยการ

 

18 ก.ค. 2566 อัยการยื่นฟ้อง แอม ไซยาไนด์ กับพวก ต่อศาลอาญา  ในคดีวางยาไซยาไนด์ สังหาร ก้อย

 

20 พ.ย. 2567 ศาลอาญา ตัดสินประหารชีวิต แอม ไซยาไนด์