"ทนายวิฑูรย์" เตรียมพาพยานฝั่ง ดิไอคอน กรุ๊ป 2,000 คน ให้การDSI
จันทร์นี้ "ทนายวิฑูรย์" พาพยานฝั่ง ดิไอคอน กรุ๊ป 2,000 คน ให้การDSI ตัดพ้อพนักงานสอบสวนถามชี้นำให้เข้าข้อหาแชร์ลูกโซ่
21 พ.ย. 2567 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความเข้าเยี่ยม นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล และกลุ่มบอส ดิไอคอน กรุ๊ป หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติมไปเมื่อวานนี้และขีดเส้นยุติการสอบสวนภายในวันที่ 3 ธ.ค.
นายวิฑูรย์ ระบุว่า เมื่อวานทีมทนายความมีการปรับเอกสารร่างบันทึกคำให้การ ซึ่งดีเอสไอนำมามอบให้ใหม่ทั้งหมด และส่งให้ตัวแทน 2,000 คน โดยกำหนดระยะเวลา 2 วัน และวันจันทร์จะนำพยานกลุ่มแรก 200 คน เข้าไปให้ปากคำกับดีเอสไอ ส่วนจะสอบได้ครบหรือไม่ ก็เป็นปัญหาของดีเอสไป ยืนยันว่า ไม่ได้เจตนาประวิงเวลา เพื่อให้ส่งฟ้องต่อผู้ต้องหาไม่ทัน ซึ่งทุกฝ่ายก็ทำงานกันลำบาก เพราะกรอบระยะเวลา 84 วัน นั้นรวมในชั้นอัยการด้วยไม่ใช่แค่ชั้นสอบสวนและขณะนี้พยานฝั่ง ดิไอคอน กรุ๊ป มีทั้งตัวแทนที่อยู่ติดตัวบอส ตัวแทนขายที่อยู่กับบริษัท และโปรแกรมเมอร์บริษัทซึ่งเป็นลูกน้องโค้ชแล็ป ได้เข้าไปให้ปากคำแล้ว
ส่วนพยานในกลุ่ม 2,000 กว่าคน เข้าไปให้ปากคำก่อนหน้านี้แล้ว ประมาณ 10-20 คน ซึ่งตนเองมองว่า ดีเอสไอ พยายามถามชี้นำ เพื่อให้เข้าข้อหา พรก.แชร์ลูกโซ่ โดยจะให้การันตีผลตอบแทน ซึ่งข้อเท็จจริงไม่มีตัวแทนก็ได้ตอบไปตามความจริง และพนักงานสอบสวนของดีเอสไอ ในชั้นการสอบสวนมีการถาม ชี้นำให้ตัวแทนดิไอคอนตอบคำถามในสิ่งที่เขาต้องการ
โดยพูดว่า ในลักษณะที่ว่า “ทำไมไม่ให้การแบบนี้ ไม่ต้องปกป้องบริษัทแล้ว บริษัททำธุรกิจไม่ได้แล้ว ตัวแทนบอกยังสั่งของได้ ยังขายของได้อยู่ แต่พนักงานสอบสวนบอกให้ไปสั่งลาซาด้า แบบนี้เป็นการชี้นำ และพอให้การตามความจริงก็เป็นความจริงที่เขาไม่อยากฟัง”
ซึ่งหลักฐานนี้พยานฝั่งดิไอคอน กรุ๊ป เสียงไว้ทั้งหมด และจะส่งไฟล์เสียงนี้ให้อัยการ เพื่อให้พิจารณาการสอบสวนดีเอสไอด้วย ซึ่งจะเป็นหนึ่งในเหตุผลของการร้องขอความเป็นธรรมในชั้นอัยการด้วยและยืนยันว่า ไม่ใช่ช่องของการสู้คดี แต่เป็นเรื่องของการสอบสวนว่าชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายมากกว่า
ทนายวิฑูรย์ ยังบอกอีกว่า พยานผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแชร์ลูกโซ่ 2 คน ก็จะอยู่ในกลุ่มที่จะพาไปให้การกับดีเอสไอในสัปดาห์หน้าด้วย เพื่อนำไปให้ข้อมูล ถ้าไม่ได้ก็จะเก็บไว้ใช้ในชั้นศาล โดยยอมรับว่า พยาน 2,000 คน คงจะไม่ทันภายใน 3 ธ.ค. และพยานข้อเท็จจริงฝั่งของผู้ถูกกล่าวหาไม่ได้เข้าสำนวน ส่วนจะกระทบกับคดีหรือไม่นั้น ก็คงจะกระทบคดี หากตัดพยานแล้วส่งสอบใหม่แล้วไม่ครบอีก ซึ่งการสู้คดีจะต้องใช้พยานกลุ่มนี้ในศาลก็คงจะไม่เป็นธรรมเท่าที่ควร
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ เอกสารที่ให้พยานเซ็นจะถูกมองว่าเป็นการเตี๊ยมคำให้การ ทนายวิฑูรย์ ระบุว่า เอกสารดังกล่าว เป็นเอกสารที่ดีเอสไอส่งมาให้ และอะไรที่ไม่ใช่สามารถเพิ่มเติมได้ แต่ที่เพิ่มเติมก็ต้องเซ็นเอกสารว่า เป็นผู้ให้ข้อมูลเท่ากับยอมรับในสิ่งที่พิมพ์ ถ้าถามว่าเตี๊ยมกันหรือไม่ ตนเองก็อยากทำให้ไวที่สุด ทั้งที่เอกสารนี้ตนเองไม่อยากรับ แต่อยากเอาพยานมาให้ปากคำเองมากกว่า และมองว่า เจ้าหน้าที่คงมีธงในการสั่งฟ้อง เพื่อสรุปสำนวนส่งอัยการ
ทั้งนี้หากทางดีเอสไอ ไม่ได้สอบปากคำพยานฝ่ายดิไอคอน กรุ๊ป ครบทั้งหมด ก็มี 2 ทางที่เตรียมไว้คือ 1. พาพยานที่เหลือไปให้การในชั้นศาล และ 2. ขอให้อัยการตีสำนวนกลับมาดีเอสไอทำใหม่ คงจะต้องเดินตามเกมนี้