ออกหมายจับ "เอก สายไหม" ตาม พ.ร.บ.คอมพ์ฯ ปมโพสต์อ้างบอสดิไอคอนโอนเงินคริปโต | คมชัดลึก

22 พ.ย. 2567 จากกรณี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ให้สัมภาษณ์ว่า ในวันนี้จะมีการเรียกตัว นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอก สายไหมต้องรอด อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้าให้ถ้อยคำเพิ่มเติมกรณี โพสต์ข้อความเท็จ เกี่ยวกับบอสพอล นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ลงในสื่อสังคมออนไลน์ 

 

ล่าสุด เวลา 14.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอท. ได้ขออนุมัติหมายจับ เอก สายไหมต้องรอด ที่ศาลอาญา โดยศาลอาญาได้อนุมัติออกหมายจับ เลขที่ 5661/2567 ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐาน โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่ย่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา 

 

ล่าสุด เวลา 15.00 น. เอก สายไหม เดินทางเข้าให้ถ้อยคำกับพนักงานสอบสวน และเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ที่บก.ปอท. โดยเปิดเผยก่อนเข้าพบพนักงานสอบสวน ว่า ตนเพิ่งทราบข่าวหมายจับจากสื่อมวลชน เพราะในวันนี้ช่วง 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญมาให้ถ้อยคำ จึงเดินทางมาตามคำเชิญ แต่ยังไม่ทราบว่ามีหมายจับจริงหรือไม่อย่างไร 

 

ยืนยันว่าสิ่งที่ทำเป็นการทำเพื่อพี่น้องประชาชน รวมถึงบอสดิไอคอนก็ไม่ได้มีการรู้จักส่วนตัว การนำตัวพยานมาเป็นเพราะตัวพยานมาแจ้งตน ตนจึงนำตัวพยานมาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ในวันนี้ก็นำเอกสารหลักฐานทั้งหมดมาด้วย และก็ได้จัดเตรียมทนายแล้ว แต่ในวันนี้นำมาในส่วนของคดีพยานเท็จ 

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความกังวลใจหรือไม่ นายเอกภพ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่กังวลใจ มองว่าเป็นขั้นตอนของกฎหมาย และเชื่อว่าทาง บช.ก. จะให้ความเป็นธรรมแก่ตน ได้เตรียมหลักทรัพย์ในการประกันตัวไว้แล้ว โดยจะให้ทางทนายความส่วนตัวเป็นคนจัดการ

 

เมื่อถามว่าจะเข้ามอบตัวเลยหรือไม่ นายเอกภพ ระบุว่า หากเห็นหมายจับ ก็ยินดีที่จะมอบตัวกับพนักงานสอบสวน 

 

เมื่อถามต่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการนัดมาแล้วหลายครั้ง เหตุใดถึงปฏิเสธ นายเอกภพ ยืนยันว่า ไม่ได้ปฏิเสธแต่ยอมรับว่าพนักงานสอบสวนติดต่อมา และตนเองแจ้งว่ายินดีที่จะเข้ามาพบในวันนี้ ตามคำนัดหมาย ทั้งนี้ยังมีกำลังใจในการช่วยเหลือประชาชนต่อไป

 

 

ทั้งนี้คดีดังกล่าว เนื่องจาก เอก สายไหมต้องรอด ได้โพสต์ข้อความลงในเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า พบเส้นเงินผิดปกติกว่า 247,911,936 USDT มูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ถูกโอนออกไปก่อนที่ “โค๊ชแล็ป” ดิไอคอน จะถูกจับเพียง 1 ชั่วโมงนั้น