เปิดยอดรายได้ เก็บภาษีน้ำมัน - ค่าปรับ ปี 67 สูงกว่าปีก่อน 8 หมื่นล้าน
ศูนย์ปราบน้ำมันเถื่อน โชว์ยอดรายได้ เก็บภาษีน้ำมัน-ค่าปรับ ปี 67 สูงกว่าปีก่อน 8 หมื่นล้าน เร่งล่าเสี่ยโจ้ ปัตตานี หนีกบดานกัมพูชา แจงเหตุติดขัดข้อกฎหมาย
22 พ.ย. 2567 พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง(ศูนย์ปราบน้ำมันเถื่อน) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศปนม.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) และผู้แทนจากกรมสรรพสามิต , กรมเจ้าท่า , กรมธุรกิจพลังงาน , สมาคมการประมงแห่งประเทศไทย ร่วมแถลงผลการปฏิบัติของศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง
โดย พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ความคืบหน้าการติดตามจับกุม นายสหชัย หรือ “เสี่ยโจ้ ปัตตานี” พ่อค้าน้ำมันเถื่อนรายใหญ่ของประเทศ ที่ยังคงมีความพยายามติดตามจับกุมตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมีการประสานและพูดคุยกับทางการกัมพูชา เพื่อให้ช่วยกดดัน แต่เนื่องจากติดขัดข้อกฎหมายระหว่างประเทศหลายฉบับ จึงยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ ต้องให้ฝ่ายกฎหมายดำเนินการ แต่ก่อนหน้านี้ทราบว่า เคลื่อนไหวอยู่ในประเทศกัมพูชา โดยยืนยันว่า ไม่ลดละในการนำตัวมาดำเนินคดี
ส่วนเรือบรรทุกน้ำมันขนาดแสนลิตร ที่ลอยกลางทะเลภาคใต้ เพื่อถ่ายน้ำมันให้กับกลุ่มที่ลักลอบขนถ่ายน้ำมัน เจ้าหน้าที่มีข้อมูลแต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะยังมีเรืออีกหลายลำ ที่มีพฤติกรรมลักษณะเดียวกันอยู่ในข่ายกระทำผิด เกรงจะเสียรูปคดีในการสืบสวนขยายผล
สำหรับผลการตรวจสอบในฐานะจเรตำรวจ ที่สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงโดยมี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. เป็นผู้รับผิดชอบ เวลาผ่านไป 2-3 เดือน ก็มีความคืบหน้า แต่ยังไม่รายงานผลมาที่ตนเอง และไม่ทราบว่าก่อนที่ตนจะย้ายไปดำรงตำแหน่ง รองผบ.ตร.หรือไม่ แต่ในทางปกครองทางต้นสังกัด ได้มีการสั่งให้นายตำรวจที่เกี่ยวข้องไปช่วยราชการขณะนี้ก็ยังช่วยราชการอยู่ที่ บช.ก.
ส่วนผลงานการปราบปรามน้ำมันเถื่อน พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า จากการป้องกันปราบปราม และการบูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ และการจัดทำฐานข้อมูลท้องถิ่น เช่น ปั๊มน้ำมัน ปั๊มหลอด คลังน้ำมัน ก๊าซ พบว่ามีผู้ประกอบการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง สถานประกอบการที่มีระบบจัดการน้ำมันไว้ใช้เองในกิจการ จำนวน 21,019 จุด ในขณะเดียวกันก็มีการจัดชุดปฏิบัติการควบคุมและตรวจสอบด่านศุลกากรส่งออก โดยประสานความร่วมมือกับสรรพสามิตพื้นที่ในการร่วมตรวจสอบความถูกต้องของเส้นทางการเดินรถบรรทุกน้ำมันที่ด่านถึง 9,118 ครั้ง ในการลงตรวจทั้ง 20 ด่านปลายทางทั่วประเทศ เพื่อป้องกันการทุจริตลักลอบจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงผิดกฎหมาย
ในภาพรวมสามารถจับกุม ปราบปราม ดำเนินคดีและปรับโทษตามกฎหมายได้กว่า 1,186 คดี โดยมีคดีเปรียบเทียบปรับ 706 คดี ค่าปรับรวมกว่า 34,000 ล้านบาท โดยศูนย์จะเร่งรัดการปฏิบัติปราบปรามเรือประมงดัดแปลงลักลอบขนน้ำมันเถื่อน ที่มีอยู่น่านน้ำไทยจำนวนมากในปีนี้ให้หมด เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายทะเลสีขาว
สำหรับรายได้จากการเก็บภาษีน้ำมัน ในปี 2567 (อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศกรมสรรพสามิต) สามารถจัดเก็บรายได้ภาษีน้ำมันได้ถึง 209,827.35 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อนถึง 81,419 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 63.41