พิษตากข้าวบนถนน 3 แม่ลูกมองไม่เห็น ชนล้ม เจ็บหนัก แผลเปิดเห็นกะโหลก
พิษตากข้าวบนถนน 3 แม่ลูก ขี่จยย. กลับจากขายของที่ตลาด มองไม่เห็น ชนล้มเจ็บหนัก แผลเปิดเห็นกะโหลก เจ้าของขข้าวประกาศเลิกตากแล้ว
23 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางยุพา อายุ 55 ปี ชาวต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เจ้าของข้าวเปลือกที่เอาไปตากบนถนน ได้เดินทางไปเยี่ยมนางสุกัญญา อายุ 49 ปี นายภูตะวัน อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 และ ด.ช.ภูผา อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 สามแม่ลูก หลังขี่รถจักรยานยนต์ไปชนกองข้าวระหว่างถนนสายบ้านหนองมดแดง-บ่อดิน ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วันที่ 21 พ.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งสามถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล ก่อนจะกลับมาพักฟื้นอยู่บ้าน นายภูตะวัน คนขี่รถจักรยานยนต์ เล่าว่าตนกับแม่และน้องชาย กลับมาจากขายของตลาดจะกลับบ้านซ้อนรถมาด้วยกัน 3 คน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุมันมืดมองอะไรไม่เห็น พุ่งชนกองข้าวอย่างจังหลังจากนั้นไม่ได้สติ จนกระทั่งมีคนมาช่วยเหลือ
นายธีระพงษ์ อายุ 24 ปี เจ้าของรถเกี่ยวและเป็นคนช่วยเหลือหลังเกิดเหตุเล่าว่า ช่วงนั้นตนอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุเห็นรถกระเด็นขึ้นไป จึงรีบวิ่งมาดูและช่วยเหลือเบื้องต้นเพราะตนพอมีความรู้ด้านนี้บ้าง สงสารแต่น้องภูผา อายุ 11 ปี ที่วิ่งมาหาตนเป็นคนแรกบอกว่าให้ช่วยแม่ด้วย ทั้งที่ตัวเองเจ็บหนักกว่าเพื่อนเพราะมีแผลเปิดด้านหลังจนเห็นกะโหลกศีรษะ
ขณะที่นายประมวล อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านสายตรี 16 หมู่ 12 ต.หนองไม้งาม กล่าวว่า ยอมรับว่ายังเป็นปัญหาที่แก้ไขยาก เพราะเกษตรกรเกี่ยวข้าวพร้อมกันจะขายเป็นข้าวสดก็ไม่ได้ราคา จำเป็นต้องตากแต่สถานที่ตากไม่เพียงพอ ด้านนางยุพา สมประโคน เจ้าของข้าวเปลือก เล่าว่า หลังจากเกี่ยวข้าวด้วยรถเกี่ยว ใส่กระสอบถุงปุ๋ยเอามากองไว้บนถนน เพื่อเตรียมเทข้าวเปลือกออกแล้วตาก แต่เอาไปวางไว้ได้ไม่ถึง 1 ชม.กำลังกลับบ้านเพื่อเตรียมออกมา ปรากฏว่าได้ข่าวจากชาวบ้านว่ามีคนมาชนกองข้าว นางยุพา บอกด้วยว่าสาเหตุที่เอาข้าวมาตากบริเวณนี้เพราะเป็นถนนเพิ่งสร้างใหม่ไม่ค่อยมีรถวิ่ง ตนเอามาตากครั้งแรกโดนเลย สงสารผู้บาดเจ็บจึงมาเยี่ยม และเยียวยาได้เพียงเล็กน้อย หลังจากนี้จะไม่เอาข้าวมาตากบนถนนอีกแล้ว อาจจะเอาขอตากที่อื่นที่ไม่ใช่ถนน แต่หากไม่มีจำเป็นต้องขายเป็นข้าวสดถึงแม้จะไม่ได้ราคาก็ตาม