ลูกผู้เสียชีวิต เล่าชนวนเหตุ ฟ้องขับไล่พ่อเฒ่า 80 ปี ก่อนแม่ถูกรัวกลางวงข้าว
ลูกผู้เสียชีวิต เล่าชนวนเหตุ ฟ้องขับไล่พ่อเฒ่า 80 ปี ก่อนแม่ถูกรัวกลางวงข้าว ด้าน มือยิง ปฏิเสธทำแผน หวั่นโดนประชาทัณฑ์
จากกรณี นายสวาสต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 80 ปี ใช้อาวุธปืนยิง นางทองมี อายุ 71 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว เสียชีวิต และยิงหลานสะใภ้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยสาเหตุมาจากมือยิง คับแค้นใจปมถูกฟ้องร้องเรื่องที่ดินมรดก และล่าสุดนางทองมี ได้ยื่นคำขาดให้นายสวาสต์ ออกจากบ้านที่อาศัยภายใน 60 วัน ตามคำสั่งของศาล ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
24 พ.ย. 2567 ชาวบ้านและญาติๆ เดินทามาที่บ้านเกิดเหตุ กลังทราบว่าตำรวจจะนำตัวนายสวาสต์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แต่เวลาต่อมาได้รับแจ้งจากตำรวจ สภ.คง ว่าผู้ต้องหาไม่ประสงค์ทำแผน เพราะเกรงว่าจะถูกชาวบ้านรุมประชาทัณฑ์ เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ก่อเหตุเพราะความเจ็บแค้นใจที่ถูกผู้ตายฟ้องขับไล่ จนศาลตัดสินให้ออกจากบ้านที่เคยอาศัยอยู่มานาน ไม่รู้ว่าจะไปอยู่ที่ไหน จึงตัดสินใจก่อเหตุสลดครั้งนี้ ซึ่งผู้ต้องหายินดีรับโทษที่ตนเองกระทำลงไปทุกประการ
น.ส.ดวงใจ ใจบุญนอก ผู้ใหญ่บ้านโนนตาแก้ว หมู่ 18 ต.คูขาด อ.คง จ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ช่วงเกิดเหตุนางมะปราง ที่โดนยิง วิ่งกระโดดลงน้ำแล้วว่ายน้ำข้ามคลอง มาขอความช่วยเหลือจากตนเอง โดยบอกว่าถูกนายสวาสต์ ไล่ยิงมา ได้รับบาดเจ็บบริเวณแขนซ้าย จึงให้เพื่อนบ้านนำส่งโรงพยาบาล แล้วแฟนของนางมะพรางก็วิ่งอ้อมไปหาที่หลังบ้าน บอกถูกไล่ยิงมาเหมือนกัน ตนเองจึงได้โทรศัพท์แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คง มาระงับที่เกิดเหตุ ขณะนั้นยังไม่ทราบว่ามีคนถูกยิงเสียชีวิต พอตำรวจมาถึงและเข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่ามีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 1 คน
นายศรัญญู (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี ลูกชายผู้ตาย เล่าว่า ก่อนหน้านี้มีเรื่องขัดแย้งระหว่างครอบครัวของตน กับผู้ก่อเหตุอยู่หลายประเด็น โดยครอบครัวของตนได้ฟ้องขับไล่ผู้ก่อเหตุ จนศาลมีคำตัดสินให้ผู้ก่อเหตุนั้นออกจากที่ดินของตนที่ปลูกบ้านอยู่ หลังจากศาลตัดสิน ทางผู้ก่อเหตุก็ขู่ฆ่าครอบครัวของตนมาตลอด เป็นระยะเวลานานกว่า 6 เดือน และไม่ยอมออกจากบ้าน จนตนเองต้องไปคัดลอกคำสั่งศาลมาให้ดู เพื่อให้ผู้ก่อเหตุนั้นออกจากที่ดิน
เมื่อช่วงเช้าตนเดินไปบอกผู้ก่อเหตุอีกครั้งว่าให้ออกไปจากที่ดิน พร้อมกับบอกผู้ก่อเหตุว่าเดี๋ยวจะโดนศาลสั่งบังคับคดี ซึ่งตนก็ไปบอกดีๆ ผู้ก่อเหตุก็เงียบเฉยพร้อมกับถือมีดและเหน็บปืนที่เอว มาถึงบริเวณที่แม่ของตนนั่งกินข้าว ก็โยนมีดทิ้งพร้อมกับยกปืนขึ้นมายิง โชคดีที่ตนและญาติที่ยืนอยู่ด้วยกันนั้นหลบทัน จากนั้นผู้ก่อเหตุก็เริ่มยิงกราด จนไปโดนแม่ของตนที่อยู่ในบริเวณนั้น กับหลานสะใภ้อีก 1 คน หลังจากได้ยินเสียงปืนดังขึ้นก็วิ่งหนีกันกระเจิง จนตำรวจมาระงับเหตุ
ส่วนสาเหตุที่ไม่อยากให้ผู้ก่อเหตุนั้นอยู่ที่บ้าน เนื่องจากถูกขู่ฆ่าอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะตนซึ่งเป็นเป้าหมายหลักของผู้ก่อเหตุที่ต้องการที่จะฆ่าทิ้ง ปีที่แล้วนั้นตนกับผู้ก่อเหตุเคยมีเรื่องทะเลาะวิวาทกันจนถึงขั้นขึ้นศาลมาแล้ว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์หลายอย่างขึ้น ทำให้ตอนนี้ตนไม่มองว่าผู้ก่อเหตุนั้นเป็นญาติอีกต่อไป