ข่าว

จ่าทหาร สุดทนถูกพยาบาลสาวคบซ้อน ดูดเงิน จนต้องเอารถไปจำนำ ที่ดินไปจำนอง

จ่าทหาร สุดทนถูกพยาบาลสาวคบซ้อน ดูดเงิน จนต้องเอารถไปจำนำ ที่ดินไปจำนอง

25 พ.ย. 2567

จ่าทหาร สุดทนถูกพยาบาลสาวหลอกคบซ้อน ดูดเงิน จนหมดตัว ต้องเอารถไปจำนำ ที่ดินไปจำนอง ร้องเพจสายไหมต้องรอดช่วยเหลือ

25 พ.ย. 2567 เวลา 12.00 น. ที่ศูนย์รับร้องเรียนเพจสายไหมต้องรอด เขตสายไหม กรุงเทพฯ นายวิชาญศิทย์ (สงวนนามสกุล) จ่าทหาร อายุ 50 ปี เข้าร้องเรียนต่อ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ว่า ถูกพยาบาลสาว อายุ 41 ปี โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.สุพรรณบุรี หลอกคบซ้อน หลอกลงทุน และหลอกเอาเงิน สูญเงินกว่า 6 แสนบาท ล่าสุดมีชายปริศนาโทรมาหา อ้างเป็นสามีอีกคนของพยาบาลสาว แต่ฝ่ายหญิงปฏิเสธ บอกว่าอย่าไปเชื่อ เป็นแก๊งคอลเซนเตอร์

 

นายวิชาญศิทย์ เล่าว่า คบกับพยาบาลสาวรายนี้ หลังจากเจอในแอปหาคู่ คุยกันได้ประมาณ 2 สัปดาห์ พยาบาลสาวได้เริ่มชักชวนทำธุรกรรม ชวนบริจาคเงินให้เด็กทุรกันดาร และร่วมลงทุนทำธุรกิจ ขณะนั้นมีการคืนเงินบ้าง คืนเป็นก้อน ๆ ตัวเองก็รู้สึกเชื่อใจตามปกติ และเชื่อว่าพยาบาลสาว มีวิชาชีพและมีคลินิก

แต่หลังจากนั้นมีการกล่าวอ้างเรื่อยๆ เพื่อหลอกให้ตัวเองโอนเงิน ทีแรกก็ขอยืมทีละน้อยๆ  หลักพันบาท จนลามไปหลักหมื่นบาท จนไปถึงการจำนำรถ และการจำนองที่ดิน แบ่งเป็นหลายๆ เรื่อง อาทิ อ้างว่าพ่อป่วยเป็นมะเร็ง ต้องให้คีโม มีค่าใช้จ่ายสูง ขอยืมเงินโดยให้ตนเองกดออกจากบัตรให้ หลักพันถึงหลักหมื่นบาท , อ้างว่าพ่อป่วยเป็นโรคหัวใจ ขอยืมเงินอ้างว่าต้องเอาหมอมาจากกรุงเทพฯ ,

 

อ้างว่าเรียนจบปริญญาโท และต้องชำระค่าจบการศึกษา 25,000 บาท ขอยืมเงินในบัตรก่อนแล้วจะกดคืนให้ แต่เงียบไป , อ้างว่ามียาและอุปกรณ์ทางการแพทย์มาส่งที่คลินิก ขอยืมเงินอีก , อ้างว่า บัญชีโดนล็อก มีเงินฝากประจำอยู่กว่า 400,000 บาท ขอยืมทองไปจำนำ โดยจำนำไป 2 ครั้งในเดือนเดียวกัน  จากนั้นยังอ้างว่า พ่อผ่าตัดหัวใจอีกขอยืมเงิน 25,000 บาท เดี๋ยวจะให้น้องคืนให้ แต่ถึงเวลาก็ไม่ได้คืน

จ่าทหาร สุดทนถูกพยาบาลสาวคบซ้อน ดูดเงิน จนต้องเอารถไปจำนำ ที่ดินไปจำนอง

 

นอกจากนี้ ยังอ้างเรื่องพ่อเจ็บป่วยและตัวเองเจ็บป่วยเป็นมะเร็งปากมดลูกอีกหลายครั้ง  จนต้องนำ รถจยย. รถยนต์ไปจำนำ เอาที่ดินไปจำนอง แต่สุดท้ายไม่ได้เงินคืน

 

จนกระทั่งความแตก เมื่อมีผู้ชายคนหนึ่งโทรมาหาตน ขณะกำลังไปทำงาน และตนเองได้บันทึกเสียงเอาไว้เพื่อเป็นหลักฐาน โดยพยาบาลสาวไปบอกกับผู้ชายคนดังกล่าวว่า ตนเป็นทนายความช่วยเรื่องปัญหาฉ้อโกง พอคุยรายละเอียดจึงทราบว่ามีการคบซ้อน

 

ทั้งนี้ หากพยาบาลสาว ดูอยู่ อยากให้มาใช้หนี้และให้เอาที่ดินมาคืน ครอบครัวตนลำบากมาก เงินก็ไม่เหลือแล้ว ต้องยืมคนอื่นมาใช้ เงินคนแก่ที่แม่ได้ก็เอามาใช้

 

อย่างไรก็ตาม นายเอกภพ ระบุว่า ในส่วนของคดีนั้น จะให้ฝ่ายกฎหมายดูแลเรื่องคดีต่อ ในส่วนเงินหรือที่ดิน ที่นำไปจำนอง หนี้สิน ฝากให้พยาบาลสาวนำมาคืน รวมถึงเงินนอกระบบ ให้ทยอยมาคืน