อธิบดีอัยการ เตรียมตั้งอัยการดู 14 สำนวน แอม ไซยาไนด์ หนากว่า 3 หมื่นแผ่น
อธิบดีอัยการคดีอาญา เตรียมตั้งทีมอัยการพิจาณาสำนวนอีก 14 สำนวน คดี "แอม ไซยาไนด์" ความหนากว่า 3 หมื่นแผ่น
26 พ.ย. 2567 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผบก.ป. นำทีมพนักงานสอบสวน บก.ป. นำสำนวนคดีการสอบสวนผู้เสียชีวิตจากการถูก แอม ไซยาไนด์ วางยาพิษ 14 สำนวน ส่งมอบให้แก่ นายสัญจัย จันทร์ผ่อง อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา
สำหรับคดีลอบวางยาพิษทำให้มีญาติเเละพนักงานสอบสวน ยื่นร้องทุกข่าวโทษ ประกอบด้วย
- นางลัดดา ขาวอินทร์ (ผู้ร้องทุกข์) มีเอกสารสอบสวน 1,806 แผ่น รวม 5 แฟ้ม
- ด.ต.นิติพลธ์ นุชิต (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,942 แผ่น รวม 7 แฟ้ม
- พ.ต.อ.จามร อันดี (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,809 แผ่น รวม 6 แฟ้ม
- นายเกิด แก้วบุบผา (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,616 แผ่น รวม 7 แฟ้ม
- นางพวงแก้ว วงษ์สวัสดิ์ (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,671 แผ่น รวม 6 แฟ้ม
- พระสมเกียรติ ทรพับ (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,169 แผ่น รวม 6 แฟ้ม
- นายเท่ง โตไร่ (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 1,953 แผ่น รวม 4 แฟ้ม
- นายสงกรานต์ ธรรมสังวาลย์ (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 869 แผ่น รวม 3 แฟ้ม
- นายฐิฎิชัยเดช วงศ์ไกรสิณ (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 1,932 แผ่น รวม 4 แฟ้ม
- พ.อ.สายชล พจนารถ (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,716 แผ่น รวม 5 แฟ้ม
- น.ส.นภพรรณ ยรรยงชัยกิจ (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,760 แผ่น รวม 6 แฟ้ม
- นางกานติมา แพสอาด (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,821 แผ่น รวม 6 แฟ้ม
- นายไพบูลย์ สามบุญมี (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 3,479 แผ่น รวม 8 แฟ้ม
- นางสาคร แสนจันทร์ (ผู้ร้องทุกข์) เอกสาร 2,868 แผ่น รวม 6 แฟ้ม
ทั้งหมดกล่าวหา นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์ ในความผิดข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และเพื่อจะเอาหรือเอาไว้ซึ่งผลประโยชน์วันเกิดแต่การที่ตนได้กระทำความผิดอื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดอื่นที่ตนได้กระทำไว้ และปลอมปนอาหาร ยาหรือเครื่องอุปโภคบริโภคอื่นใด เพื่อบุคคลอื่นเสพหรือใช้ หลักการปลอมปนนั้นน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่สุขภาพ โดยเป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย
พล.ต.ท.ธนายุตม์ เปิดเผยว่า คดีนี้ตนได้รับการมอบหมายให้เป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน โดยมีทีมพนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และตำรวจภูธรในพื้นที่จังหวัดที่พบผู้เสียชีวิตเข้าร่วมการสอบสวนรวม ทั้งสิ้น 14 สำนวน สืบเนื่องจากคดีหลักที่ศาลได้พิพากษาคดีแรก เกิดขึ้นในพื้นที่ สภ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดย ผบช.ภ. 7 ได้ทำคดีมาอย่างต่อเนื่อง และนำสำนวนการสอบสวนให้ บช.ก. ทำการรวบรวมพยานหลักฐาน และทำการสืบสวนสอบสวนทั้ง 14 สำนวน มีการประชุมรวบรวมพยานหลักฐาน พยานเอกสาร พยานบุคคล และผู้ชำนาญการ เชื่อมโยงร้อยเรียงสำนวนในแผนประทุษกรรมของแอม ในการกระทำความผิดครั้งนี้มีการไตร่ตรองไว้ก่อน มีมูลเหตุจูงใจวางแผนเชื่อมโยง ทุกสำนวนสอบสวนกองปราบได้ร่วมมือกับทางนครบาล และภูธรติดตามคดีอย่างต่อเนื่อง และมีความเห็นสมควรสั่งฟ้องแอม ทั้ง 14 สำนวน
ผู้ช่วย ผบ.ตร. กล่าวว่า การกระทำความผิดของคนร้ายรายนี้ มีผู้เสียชีวิต 14 คน รอดชีวิตเพียง 1 คน หากไม่สามารถจับกุมได้อาจมีผู้เสียชีวิตมากกว่านี้ พฤติกรรมของคนร้ายมีความโหดเหี้ยม เลือดเย็น ใช้สารเคมีในอาหารและเครื่องดื่มเป็นอันตรายต่อชีวิต เป็นการฆ่าแบบต่อเนื่อง ต้องขอขอบคุณพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ได้ทำงานกันอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ผบ.ตร.คาดหวังว่าจะคืนความเป็นธรรมให้แก่พี่น้องประชาชนและญาติผู้เสียชีวิตทุกคน ศาลและอัยการได้คืนความเป็นธรรมให้แก่ น.ส.ศิริพร หรือก้อย ผู้เสียชีวิตในคดีแรกได้ และทั้ง 14 คดีนี้ เป็นคดีที่สำคัญ ตนจึงเดินทางมามอบสำนวนให้แก่อัยการด้วยตัวเอง
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า การพิจารณาสำนวนตัดสินคดี น.ส.ศิริพร หรือก้อย นั้น ทีมพนักงานสอบสวน ได้นำคำพิพากษามาปรึกษากัน เพื่อเชื่อมโยงและร้อยเรียงการสอบสวน รวมถึงพฤติกรรมแผนประทุษกรรมของคนร้าย และสาเหตุว่ามีมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุอย่างไร แม้ไม่มีประจักษ์พยานเห็นเหตุการณ์ แต่ทีมพนักงานสืบสวนสอบสวนมั่นใจพยานหลักฐานทุกอย่างทั้งพยานบุคคล พยานเอกสาร และพยานนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะพยานด้านนิติวิทยาศาสตร์ ที่ไม่สามารถโกหกหลอกลวงได้ จะยืนยันการกระทำความผิดของผู้ต้องหารายนี้ ขอให้ญาติผู้เสียชีวิตทั้งหมดมั่นใจได้ว่า ตำรวจให้ความสำคัญทั้งหมด รวมถึงในชั้นสืบพยานคดีนี้ด้วย ส่วนคำพิพากษาอยู่ที่ดุลพินิจของศาลว่า จะลงโทษผู้ต้องหาอย่างไร
พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ในส่วนของการอุทธรณ์คดีคำพิพากษาของ น.ส.ศิริพร หรือก้อย นั้น ทางพนักงานสอบสวน ได้ปรึกษาหารือกับทางอัยการมาโดยตลอด และเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการอย่างดีที่สุดในชั้นศาลอุทธรณ์
นายสัญจัย อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา กล่าวภายหลังรับสำนวนว่า วันนี้ได้รับสำนวนคดี เเอม ไซยาไนด์ วางยาพิษ 14 คดี หลังจากนี้จะตั้งอัยการขึ้นมาพิจารณาสำนวน ส่วนจะตั้งใคร จะต้องเป็นคณะทำงานหรือไม่ จะต้องพิจารณาอีกที ส่วนเรื่องกรอบระยะเวลา ตอนนี้ยังไม่ได้กำหนด เท่าที่ทราบตัวถูกควบคุมอยู่
สำหรับคดีนี้ ในสำนวนเเรก ศาลอาญามีคำพิพากษาประหารชีวิต นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือแอม ไซยาไนด์ ในคดีวางยาพิษ ทำให้ น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือก้อย เสียชีวิต และจำคุก พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามี แอม ไซยาไนด์ เป็นเวลา 1 ปี 4 เดือน และจำคุก น.ส.ธันย์นิชา เอกสุวัณวัฒน์ หรือ ทนายพัช เป็นเวลา 2 ปี ในข้อหา ช่วยเหลือผู้กระทำผิดมิให้ต้องรับโทษ หรือรับโทษน้อยลง
โดย พ.ต.ท.วิฑูรย์ และ น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช ได้รับการปล่อยชั่วคราว ศาลตีหลักทรัพย์คนละ 100,000 บาท ต่อมาทนายพัช ได้ยื่นถอนตัวจากการเป็นทนายความของแอม อ้างว่ามุมมองทางการต่อสู้คดีแตกต่างกัน