"เจ๊หนิง" ผัว ตร.-หลาน มอบตัวสู้คดี เผยปมไม่ให้ใบเซอร์ทอง จะเก็บไว้ใช้ในศาล
เจ๊หนิง พร้อม ผัวตำรวจ-หลาน เข้ามอบตัว สู้คดี หลังเมียบิ๊กโจ๊ก ฟ้องกลับ เชื่อถูกแกล้งออกหมายจับ ทั้งที่เป็นผู้เสียหาย
27 พ.ย. 2567 เมื่อเวลา 08.00 น. ที่ สน.พระโขนง นางสาว ธณัฏฐา ยอดเยี่ยม หรือ เจ๊หนิง อดีตอาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน และนายกัณตเมศ (สงวนนามสกุล) ที่ปรึกษาทางกฏหมาย เดินทางเข้าพบพันตำรวจเอก ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผู้กำกับการ สน.พระโขนง และพนักงานสอบสวน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายศาลอาญากรุงเทพใต้ ในข้อหาร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนเพื่อจะแกล้งให้บุคคลต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น
นางสาวหนิง เปิดเผยว่า ได้รับหมายจับส่งไปยังภูมิลำพร้อมกับ พันตำรวจเอกภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามี เพียง 2 คน ส่วนหลานชายที่มีกระแสข่าวว่าถูกออกหมายจับด้วยนั้น ยืนยันว่าขณะนี้ หลานชายยังไม่ได้รับหมายจับตามที่ปรากฏเป็นข่าว ซึ่งการออกหมายจับครั้งนี้ ตนถูกกลั่นแกล้ง โดยที่ผ่านมายังไม่ทราบเหตุผลว่า ทำไมจึงถูกออกหมายจับ ทั้งที่คดีนี้แรกเริ่มตนเองเป็นผู้เสียหาย ถูกคู่กรณีลักทรัพย์เงินสดจำนวน 600,000 บาท ทองรูปพรรณและทองแท่งรวม 120 บาท ไปจากคอนโดมิเนียมย่าน สุขุมวิท 101 พร้อมกับยืนยันว่ามีหลานชายอยู่ในที่เกิดเหตุ และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ส่วนที่ตำรวจมีพยานหลักฐานว่าหลานชายไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งเกิดจากการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ มองว่าเป็นการละเมิดสิทธิ์หรือไม่ โดยการมารับทราบข้อกล่าวหาก็จะมาสอบถามว่าใช้เหตุผลนี้ในการขออนุมัติศาลออกหมายจับหรือไม่
ส่วนกรณีที่ตนแจ้งว่าทองคำหาย แต่กลับไม่ได้มอบใบเซอร์ทองให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อยืนยันจำนวนของกลางที่หายไป เนื่องจากต้องการยื่นเป็นหลักฐานในการต่อสู้คดีในชั้นศาล
ทั้งนี้หลังจากมีคดีความกับคู่กรณีตนเองถูกคุกคามมาโดยตลอดลักษณะการถูกติดตามตัว จนทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิตประจำวัน วันนี้จึงต้องแอบมารับทราบข้อกล่าวหา
ที่ผ่านมา ตนเองไม่เคยมีความขัดแย้งกับผู้กำกับการ สน.พระโขนง เพราะไม่เคยพูดคุยกัน ซึ่งก็ให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายมาโดยตลอด แต่ที่มีปัญหาคือร้อยเวรเจ้าของคดี เนื่องจากรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในคดีนี้
ส่วน พันตำรวจเอก ภีมพจน์ น้อมชอบพิทักษ์ สามี ได้เข้าพบพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ไปก่อนหน้านี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้
ทางสามีถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง และถูกพักงาน ไม่ให้สอนที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
ด้านนาย กัณตเมศ (สงวนนามสกุล) ที่ปรึกษาทางกฏหมาย เปิดเผยว่า วันนี้ได้เตรียมหลักทรัพย์มายื่นประกันในชั้นสอบสวน คนละ 1 แสนบาท ซึ่งคาดว่าพนักงานสอบสวนจะพิจารณาให้ประกันตัว
โดย พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน. พระโขนง เปิดเผยเกี่ยวกับคดีดังกล่าวว่า ก่อนหน้านี้ได้ออกหมายเรียกไป ต่อมามีการขอศาลอนุมัติหมายจับ การที่ผู้ต้องหาออกมาให้ข่าวต่างๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์ของหลานชายว่าไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุนั้น ถือว่าเป็นข้อมูลในสำนวน ตำรวจไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้
การออกหมายจับตามกฏหมาย ต้องมีหลักฐานตามสมควร จากนั้นก็ต้องมีการสอบสวนกันต่อไป
ส่วนจะมีการลักทรัพย์กันจริงหรือไม่ ไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นข้อมูลในสำนวน อยู่ระหว่างการสอบสวน การแจ้งความเท็จอย่างไรนั้น ก็เป็นข้อมูลในสำนวนเช่นเดียวกัน ที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ สุดท้ายศาลจะเป็นผู้ตัดสินว่าใครผิดใครถูก
การที่ผู้ต้องหารู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้ ก็เป็นสิทธิ์ที่จะกล่าวหาได้ ที่ผ่านมาตำรวจไม่เคยมีโอกาสได้ชี้แจง แต่ยืนยันว่าการทำคดีนี้ เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ส่วนการให้ประกันตัวนั้นเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะสามารถยื่นกับพนักงานสอบ แม้จะถูกออกหมายจับก็ตาม แต่ผู้ต้องหามาเข้าพบพนักงานสอบสวน ก็จะให้ความเป็นธรรมในการพิจารณาการให้ประกันตัวในครั้งนี้
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาทั้ง 3 คนนั้น ไม่มีหมายจับค้างเก่าแต่อย่างใด ส่วนการติดตามตัวหลานชาย น.ส.ธณัฏฐา อยู่ระหว่างดำเนินการ จะมามอบตัวหรือไม่นั้น ก็เป็นสิทธิ์ผู้ต้องหาเอง
อย่างไรก็ตาม จะไม่นำประวัติการก่อคดีในอดีต มาเป็นบรรทัดฐานในการดำเนินคดีปัจจุบัน เพราะเป็นคนละส่วนกัน