บิ๊กเต่า เผยคดีรีสอร์ทหรู รุกที่ ส.ป.ก. – เงิน 10 ล้านหวานใจนักการเมือง อยู่ในอำนาจ ป.ป.ช.
บิ๊กเต่า เผยคดีรีสอร์ทหรู บุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. – เงิน 10 ล้านคนสนิทนักการเมือง อยู่ในอำนาจ ป.ป.ช. เชื่อมีคนทำผิดหลายคน
2 ธ.ค. 2567 เวลา 13.40 น. ที่กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงการบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และ จ.สระบุรี ว่า เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ได้ลงตรวจสอบพื้นที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี และพบว่า น่าจะมีการออกเอกสารสิทธิถือครองที่ดิน ส.ป.ก. โดยมิชอบ และเมื่อมีการตรวจสอบแล้ว ทาง ป.ป.ช. จึงเป็นผู้ถือสำนวนการสืบสวนโดยร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ และได้จัดตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยมี ป.ป.ช. , ป.ป.ท. , บก.ปปป. และ ปปง. ในการตรวจสอบโครงการดังกล่าว
จากข้อมูลของการตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ดังกล่าว มีจำนวน 50-60 ไร่ และถูกบุกรุกในปี 2558 มีการจับกุมผู้ต้องหาไปแล้ว 4 คน โดยศาลสั่งจำคุก 1 คน และอีก 3 คน รอลงอาญา ต่อมาก็มีการออกเอกสารสิทธิคืนที่ดิน ส.ป.ก. ให้แก่จังหวัด จากนั้นก็มีบริษัทภูนับดาวมาทำการเช่า และทำเป็นที่ท่องเที่ยว เป็นสถานที่คล้ายรีสอร์ทหรูที่เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวไว้นอนดูดาว โดยมีประธานบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นประธานกรรมการผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการพื้นที่ตรงนี้ ซึ่งพื้นที่ตรงนี้มีไว้เพื่อการเกษตร การนำมาทำเป็นสถานที่ท่องเที่ยว จึงเป็นการทำผิดวัตถุประสงค์
เมื่อถามถึง เรื่องเส้นเงินจำนวน 10 ล้านบาท ที่เชื่อมโยงไปถึง หวานใจคนสนิทของบิ๊กนักการเมือง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ในการตั้งคณะทำงานคดีนี้ ทุกหน่วยงานต้องส่งข้อมูลไปที่ ป.ป.ช. โดย ป.ป.ช. จัดส่งเพียงหลักฐานบางอย่าง เพื่อให้แต่ละหน่วยงานสืบสวนต่อเท่านั้น ซึ่งในส่วนของ บก.ปปป. จะสืบสวนเฉพาะเกี่ยวกับเรื่องเอกสารและพื้นที่ที่ได้มาโดยไม่ชอบ ส่วนเรื่องเส้นทางการเงิน จะเป็นการดำเนินการของ ปปง. ซึ่งในส่วนของเงิน 10 ล้านบาท นี้ บก.ปปป. ได้เพียงข้อมูลมา แต่ในส่วนของรายละเอียด ว่า เส้นทางการเงินมีที่มาอย่างไร เชื่อมโยงต่อไปที่ไหน บก.ปปป. ไม่ได้ทำการสืบสวน และตนก็ไม่มีอำนาจที่จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ อำนาจทั้งหมดจะอยู่ที่ ป.ป.ช.
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากข้อมูลพบผู้กระทำผิดประมาณกี่คน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ามีหลายคน ก่อนหน้านี้บก.ปปป. เคยเข้าไปค้นที่ภูนับดาว และก็ขอรายละเอียดหลักฐานต่างๆที่เป็นเอกสารสิทธิตัวจริง แต่ทางบริษัทก็ยังไม่ยอมมอบให้
อย่างไรก็ตาม หากต่อไป ป.ป.ช. มีการมอบหมายให้ทำคดีนี้เอง ก็พร้อมทำหน้าที่ตามกฎหมาย ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เชื่อมั่นในทีมงานของตำรวจกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ในเรื่องของความเป็นตำรวจมืออาชีพ ตำรวจไม่ได้มีหน้าที่ไปช่วยใครให้พ้นผิด แต่มีหน้าที่ที่บังคับใช้กฎหมายกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง