ข่าว

เปิดใจพ่อมือยิง ประธานสภา อบต.โพนจาน ไม่ติดใจตำรวจ วิสามัญลูกชาย

เปิดใจพ่อมือยิง ประธานสภา อบต.โพนจาน ไม่ติดใจตำรวจ วิสามัญลูกชาย

03 ธ.ค. 2567

เปิดใจพ่อ "นายยุทธ" ไม่ติดใจตำรวจ วิสามัญลูกชาย ขณะที่แพทย์เข็น ประธานสภา อบต.โพนจาน ผ่าตัดรอบ 2 ล่าสุดอาการปลอดภัย

จากกรณีนายยุทธพล หรือยุทธ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ใช้อาวุธปืนยิงนายวินัย มณีรัตน์ อายุ 55 ปี ประธานสภาอบต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนหลบหนีไปกบดานในป่าอ้อย พื้นที่ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ระหว่างตำรวจปิดล้อมนายยุทธพล ได้ขัดขืนต่อสู้ จึงถูกวิสามัญเสียชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

3 ธ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านนายยุทธพล (ผู้เสียชีวิต) ได้พบกับนายท่อน (สงวนนามสกุล) อายุ 85 ปี และนางแจ่ม (สงวนนามสกุล) อายุ 79 ปี พ่อและแม่นายยุทธพล รวมถึงญาติๆ กำลังจัดเตรียมสถานที่เพื่อรอรับร่างนายยุทธพล ซึ่งถูกส่งไปชันสูตรที่ สถาบันนิติเวช รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น คาดว่าจะนำศพกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.)
 

เปิดใจพ่อมือยิง ประธานสภา อบต.โพนจาน ไม่ติดใจตำรวจ วิสามัญลูกชาย

นายท่อน กล่าวว่า ไม่ติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย ยอมรับในการตัดสินใจ และเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าลูกชายจะมีอาวุธปืนสงครามไว้ในครอบครอง และไม่เคยคิดเลยว่าจะก่อเหตุลักษณะนี้ เนื่องจากคนถูกยิง มีความผูกพันรักใคร่กับครอบครัว เสมือนญาติพี่น้องบ้านใกล้กัน และลูกชายก็สนิทสนมกับคนเจ็บ ไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันมาก่อน เชื่อว่าสาเหตุสำคัญคือเสพยาบ้าจนหลอน เพราะรู้มาตลอดว่าลูกชายเสพยา พัวพันกับขบวนการค้ายาเสพติด แต่ที่ผ่านมาไม่เคยทำร้ายใคร ยังสงสัยว่าทำไมต้องก่อเหตุ ส่วนตนเองได้แต่สวดมนต์ภาวนาทำใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ใครก่อกรรมอะไรไว้ต้องรับเอา หากเจ้าหน้าที่เมตตาไม่ขอเรียกร้องอะไร นอกจากช่วยค่าทำศพเท่านั้น

เปิดใจพ่อมือยิง ประธานสภา อบต.โพนจาน ไม่ติดใจตำรวจ วิสามัญลูกชาย

ด้าน นางใส มณีรัตน์ อายุ 60 ปี ภรรยาของประธานสภา อบต.โพนจาน ให้ข้อมูลว่า สามีอาการดีขึ้นตามลำดับ วันนี้แพทย์ส่งเข้าห้องผ่าตัดเป็นครั้งที่ 2 หลังออกจากห้องผ่าตัดสามีปลอดภัยดี แต่ยังไม่ฟื้นจากยาสลบ และต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ตนขออโหสิกรรมให้กับคนก่อเหตุที่เสียชีวิต เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ที่สูญเสีย และไม่ได้เรียกร้องอะไร เพราะเป็นเสมือนญาติพี่น้อง ดูแลกันมาตลอด เชื่อว่าทุกคนยอมรับในการตัดสินใจของตำรวจ