"ลิลลี่ เหงียน" แจ้งจับคนแอบอ้างนามสกุลดัง หลอกซื้อพลอย 40 ล้าน
"ลิลลี่ เหงียน" หอบหลักฐาน แจ้งจับสแกมเมอร์ ปลอมตัวอ้างตระกูล "ล่ำซำ" หลอกซื้อพลอย 40 ล้าน แถมพูดจาคล้ายเพื่อนลูกหนี้
9 ธ.ค. 2567 นางสาวลิลลี่ เหงียน นำหลักฐานเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน หลังถูกสแกมเมอร์ปลอมตัวเป็นไฮโซตระกูลดัง ติดต่อซื้อขายพลอยจำนวนเงิน 40 ล้านบาท
คุณเดซี่ ผู้จัดการส่วนตัวของนางสาวลิลลี่ กล่าวว่า เดิม น้องลิลลี่ โพสต์ว่าจะขายพลอย Paraiba Tourmaline ราคา 40-50 ล้านบาท จากนั้นก็มีน้องคนหนึ่งติดต่อมาทางไลน์ แล้วถามว่า "ใช่ผู้จัดการส่วนตัวของน้องลิลลี่หรือเปล่า" ซึ่งตนก็ตอบว่า "ใช่" จากนั้นน้องก็บอกว่า "มีท่านผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง สนใจอยากจะซื้อพลอยที่น้องลิลลี่ขาย" ตนก็เลยบอกว่าให้คุยกับตนได้เลย จากนั้นอีกฝ่ายก็ให้คอนแทคของผู้ใหญ่ท่านนี้มา ปรากฏว่าเมื่อเห็นชื่อไลน์ก็เป็น นามสกุลดัง ตนก็ได้คุยกับบุคคลนี้ในเบื้องต้น เขาก็แจ้งความประสงค์มาว่า อยากจะคุยกับน้องลิลลี่ เพราะว่าจำนวนเงินค่อนข้างเยอะ ตนจึงได้ให้ช่องทางการติดต่อของน้องลิลลี่ไป ก่อนที่จะโทรบอกเจ้าตัวว่าคุยกับคนนี้หน่อย เพราะว่าเขานามสกุลดัง เขาน่าจะอยากได้พลอยจริงๆ หลังจากนั้นลิลลี่ก็เป็นคนพูดคุยรายละเอียดทั้งหมด
เมื่อคุยเสร็จแล้วลิลลี่ก็บอกตนว่า บุคคลนี้น่าจะเป็นสแกมเมอร์ ตั้งใจจะมาหลอกลวง เพราะว่าการตกลงซื้อขายมันค่อนข้างง่ายเกินไป และ ให้โอนผ่านแอพพลิเคชั่น ซึ่งเป็นการโอนจากต่างประเทศเข้ามาในเมืองไทย ลิลลี่จึงรู้สึกเอะใจ ก็รู้สึกโชคดีที่ไม่โดนหลอกง่ายๆ
ด้าน ลิลลี่ เหงี่ยน กล่าวว่า เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีมิจฉาชีพคนหนึ่งอ้างชื่อ อรพันธุ์ ล่ำซำ เป็นนามสกุลดัง ซึ่งสาเหตุที่ตนออกมา เพราะอยากจะปกป้องสิทธิ์ของคุณแป้ง ล่ำซำ เนื่องจากตนก็เป็นแฟนคลับ นอกจากนี้ยังอ้างชื่อลูกหนี้ของตนที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในช่วงนี้ด้วย จึงอยากจะออกมาปกป้องทุกฝ่าย เนื่องจากมิจฉาชีพคนนี้ เดิมทีมาขอซื้อพลอยในราคา 40 ล้านบาท ซึ่งตนตั้งเป้าขายอยู่ที่ 50 ล้านบาท อีกฝ่ายบอกว่า เตรียมเงินไว้เรียบร้อยแล้ว ตนจึงรู้สึกเอะใจ เพราะว่า เพิ่งจะคุยกับอีกฝ่ายเป็นครั้งแรก แต่เขาก็พร้อมที่จะโอนเงินให้เลย ซึ่งขอต่อรองเหลือราคา 40 ล้านบาท
จากนั้นตนจึงถามอีกฝ่ายว่า จะมาดูพลอยอย่างไร เพราะว่าเขาอยู่ต่างประเทศ จึงเสนอให้ทนายเป็นคนมาดูให้ดีหรือไม่ ซึ่งอีกฝ่ายบอกว่า ไม่มีปัญหา แล้วบอกว่า พร้อมโอนเงินให้เลย ตนก็สอบถามจะโอนเงินมาอย่างไร เพราะถ้าหากโอนเข้ามาให้ตนจำนวน 40 ล้านบาทเลย มันจะต้องเสียภาษี 35% ซึ่งอีกฝ่ายก็ตอบว่า ยินดีที่จะเสียค่าภาษีให้ทั้งหมด ตนจึงรู้สึกเอะใจ เพราะว่ามันเป็นการซื้อขายที่ง่ายและดีเกินไป ตนจึงได้ให้ผู้ใหญ่ของตนพูดคุยกับอีกฝ่ายเรื่องรายละเอียดการซื้อขาย
ซึ่งผู้ใหญ่ก็บอกว่า ถ้าหากคุณบริสุทธ์ใจที่จะซื้อจริงๆ เราขออนุญาตบันทึกเสียงเอาไว้ หลังจากนั้นฝั่งนั้นก็โกรธและโมโหมาก บอกว่าตนและผู้ใหญ่ดูถูกเขา และจะแจ้งความดำเนินคดีตนให้หนักกว่าลูกหนี้คนอื่นๆเลย ตนก็พยายามขอโทษอีกฝ่าย แต่กลับโดนด่าว่า อีต่างด้าว กระ... เป็นพลเมืองชั้นต่ำ เธอนอนกับต่อฉัน ลักษณะการพูดของเขาเหมือนกับลูกหนี้ของตนที่บินออกไปนอกประเทศ
ตนสงสัยว่าคือใคร จึงได้ถามไปว่า เป็นเพื่อนของลูกหนี้ตนหรือเปล่า ซึ่งอีกฝ่ายพยายามพูดจาแบล็คเมล์ตนตลอด ทั้งนี้ตนเองก็ไม่ได้ปักใจเชื่อทั้งหมด แต่ยอมรับว่าการพูดคุย คำพูดต่าง ๆ ทำให้ตนสงสัยลูกหนี้ของตนเอง
นอกจากนี้อีกฝ่ายบอกว่า ตนจะเป็นข่าวใหญ่แน่นอน จึงได้โพสต์ข้อความต่าง ๆ ที่ได้พูดคุยกับเขาลงในโซเชี่ยลของตัวเอง แล้วบอกอีกฝ่ายว่า ได้เป็นข่าวแน่นอน จากนั้นอีกฝ่ายก็ตอบกลับมาว่า "โนสน โนแคร์ ฉันได้ค่าจ้างมาแล้ว" ตนจึงพยายามพูดดีอยู่ตลอดว่า ให้อภัย ไม่โกรธ แต่อย่าแบบนี้เลย อีกฝ่ายก็ตอบว่า "ก็ไม่ได้อยากทำ เพราะติดตามเธออยู่ แต่ได้ค่าจ้างมาแล้ว ฉันไม่มีทางเลือก ก็เลยต้องทำ เขาบอกให้พี่มาเอาพลอยของหนู น้องหงส์ฟ้า"
จากนั้น อีกฝ่ายก็มาขอร้องตนว่า อย่าแคปรูปเลย จะให้ความร่วมมือทุกอย่าง แต่ด้วยความที่ตนใจร้อนเกินไป จึงได้แคปและโพสต์ลงโซเชี่ยลไปแล้ว ปัจจุบันจึงไม่สามารถติดต่ออีกฝ่ายได้
ลิลลี่ เหงี่ยน ยังอ้างชื่อของลูกหนี้ตนที่มีสามีเป็นนักการเมืองด้วย วันนี้ตนจึงได้นำหลักฐานทั้งหมดมามอบให้กับตำรวจ เพื่ออยากจะปกป้องชื่อเสียงของตนและคนอื่นที่เสียหายจากเรื่องนี้ด้วย ตนไม่ทราบเลยว่า ใครเป็นคนจ้างมาและเรื่องจริงเป็นอย่างไร แต่ขอวอนให้หยุดการกระทำดังกล่าว ตนไม่ได้อยากมีดราม่าหรือมีปัญหากับใคร ตนอยากทำงานเลี้ยงชีพของตัวเองตามปกติ และตั้งแต่ที่เกิดเรื่องดังกล่าว ยังไม่ได้พูดคุยกับมาดามแป้ง ล่ำซำ เนื่องจากว่า ไม่ได้รู้จักกันเป็นการส่วนตัว จึงขออนุญาตใช้ช่องทางนี้ในการบอกข่าวสาร