ข่าว

เปิด จม. บอสพอล ความในใจจากในเรือนจำ ยันคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย พร้อมทิ้งท้ายให้ติดตาม

เปิด จม. บอสพอล ความในใจจากในเรือนจำ ยันคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย พร้อมทิ้งท้ายให้ติดตาม

10 ธ.ค. 2567

เปิดจดหมาย บอสพอล จากในเรือนจำ ระบายความอัดอั้น ยืนยันคดีไม่มีผู้เสียหายแม้แต่คนเดียว พร้อมทิ้งปริศนาให้ติดตาม ทำไมถึงมีคนแจ้งความนับหมื่นคน

10 ธ.ค. 2567 ภายหลัง บอสพอล วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอและผู้ก่อตั้งบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป (The iCon Group) กับบรรดาบอส ดิไอคอน รวม 18 คน ถูกดำเนินคดีฐานร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงิน และ แชร์ลูกโซ่ หรือ พระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และถูกส่งตัวไปควบคุมในเรือนจำระหว่างการพิจารณาคดีตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 2567 จนถึงวันนี้ นับได้รวม 53 วัน หรือเกือบ 2 เดือนกับการอยู่ในเรือนจำ

 

ล่าสุด วันนี้ เพจเฟซบุ๊ก วรัตน์พล วรัทย์วรกุล (บอสพอล) โพสต์ข้อความระบุว่า สารจากเรือนจำฉบับที่ 2 #แอดมิน พร้อมกระดาษมีข้อความคล้ายจดหมาย ระบุว่า  “ผมอยู่ในเรือนจำมาจนถึงวันนี้ ก็เป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้ว การใช้ชีวิตในเรือนจำ "ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย" สำหรับคนที่เชื่อมั่น ในความบริสุทธิ์ของตัวเองแบบผม ผมเฝ้าถามตัวเองทุกๆวันว่า "ผมผิดอะไร".. "ผมทำอะไรผิด" ถึงต้องเข้ามาอยู่ในนี้ อยู่แบบ "ไร้อิสรภาพ" และยังคงรอได้รับการประกับตัวออกไป เพื่อพิสูจน์ให้สังคมได้รับรู้ "ความจริง" จากปากของผมเอง ซึ่งเป็นคนที่ยังคงเชื่อในกระบวนการยุติธรรมและพร้อมต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม

บอสพอล

 

วันนี้ผมต้องถามตัวเองอีกครั้งว่า ผมกำลังสู้กับอะไรกันแน่? ผมต้องสู้อยู่ในนี้ในที่ ที่ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก โดยไม่รู้ข่าวสารต้องเฝ้าถามและรอคอย คำตอบจากคำบอกเล่าของทนายที่เข้ามาเยี่ยมได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งในแต่ละวัน ผมบอกเล่าข้อเท็จจริงฝากทนายความอ๋อง เพื่อไปสู่โลกภายนอก โดยการสื่อสารผ่านไปหลายทอด ซึ่งแน่นอนว่า มันไม่มีทางที่จะได้ข้อเท็จจริงที่ครบถ้วน มันไม่มีทางที่จะเหมือนคำพูดของผมที่ถ่ายทอดเองโดยตรงออกมาจากใจแน่ๆ

 

ผมกังวลในทุกๆ ครั้งที่ต้องสื่อสารอะไรก็ตาม ผ่านการใช้ปากของคนอื่น แต่ผมจะทำได้อย่างไรในเมื่อผมไม่มีทางเลือกอื่น ยังไงผมก็ต้องสู้ ทั้งๆ ที่ความจริงมันเป็นการต่อสู้ที่ยากลำบาก ปากกาซักด้าม กระดาษซักแผ่น มันคือของที่หาได้ยาก เพื่อให้เขียนลำดับเหตุการณ์ แล้วนำไปบอกเล่าให้ทนายความได้เข้าใจความจริงในสิ่งที่เกิดขึ้น คนที่ถูกจำกัดอิสรภาพแล้ว ต้องลุกขึ้นมาสู้ เพื่อทวงความยุติธรรรมให้ตัวเอง มันคือการถูกบีบบังคับ ให้สู้ในขณะที่เสมือนถูกมัดมือ มัดเท้า และปิดหู ปิดตา แล้วบอกว่า "สู้สิ" นี่แหล่ะ ความยุติธรรรมที่ผมกำลังเผชิญ

เปิด จม. บอสพอล ความในใจจากในเรือนจำ ยันคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย พร้อมทิ้งท้ายให้ติดตาม

 

การสู้อยู่ในคุก มันยากเกินกว่าที่คุณจะจินตนาการออกได้ แค่การหาพื้นที่ว่าง สำหรับการหย่อนก้นกันเพื่อนั่งลงให้พันจากผู้คนผู้ต้องขังหรือนักโทษจำนวนมาก ที่แออัดกันอยู่ในนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายแล้ว การจะหาที่เงียบๆ เพื่อเขียนอธิบายสิ่งต่างๆ เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้ แต่ไม่ว่าอย่างไรคุณก็จะได้เห็นข้อความนี้ปรากฏอยู่บน Facebook ของผมแล้ว ผมได้พยายามอย่างที่สุดแล้วจริงๆ ในการกลั่นข้อความบอกผ่านทนายทีละตัวอักษรเพื่อสื่อสารออกมาหาทุกๆ คน ขอให้ทุกๆ คน ตั้งใจอ่านสิ่งที่ผมจะบอกต่อจากนี้ให้ดีๆ นะครับ

 

ความจริงคือ "คดีนี้ไม่มีผู้เสียหายเลยแม้แต่คนเดียว" คำถามที่คุณต้องถามเพื่อค้นหาความจริงด้วยตัวคุณเอง มีใครสักคนไหมที่ซื้อสินค้าจากบริษัทแล้วไม่ได้สินค้า มีใครสักคนไหมที่ขายของมีกำไรในระบบแล้วบริษัทไม่จ่ายเงินให้ มีใครสักคนได้โปรโมชั่นทริปท่องเที่ยวแล้วบริษัทไม่พาไปเที่ยว  แล้วคุณจะพบความจริงที่ว่า "ไม่มีเลยสักคน " ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่บริษัทดำเนินธุรกิจมา และไม่มีปรากฏในคำกล่าวหาของตำรวจในคดีนี่ด้วยครับ นั่นคือความจริงที่สรุปได้ว่า ซื้อสินค้าก็ได้สินค้า ทำงานก็ได้เงินและได้ผลตอบแทนอื่นๆ ตามที่บริษัทสัญญาไว้ แต่ก็ยังถูกกล่าวหาว่า "ผมฉ้อโกงประชาชน" อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คุณสงสัยมั้ยครับว่าแล้วทำไมถึงมีคนออกมาแจ้งความเป็น 10,000 คน เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังในจดหมายฉบับต่อไป..”

 

เปิด จม. บอสพอล ความในใจจากในเรือนจำ ยันคดีนี้ไม่มีผู้เสียหาย พร้อมทิ้งท้ายให้ติดตาม