ดีเอสไอ แจงดราม่าพนักงานสอบสวนตบโต๊ะไม่พอใจพยานคดี ดิไอคอน กรุ๊ป
"อธิบดีดีเอสไอ" เผย ไม่เป็นความจริง ปมพนักงานสอบสวนตบโต๊ะไม่พอใจพยานคดี ดิไอคอน กรุ๊ป ส่วนความคืบหน้าคดีเร่งสรุปสำนวนกว่า 3 แสนแผ่น ส่งอัยการก่อน 20 ธ.ค. นี้
จากกรณีที่มีพยานจากคดี ดิไอคอน กรุ๊ป เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ณ อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (อาคารเอ) ชั้น 7 โดยพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วยการลุกขึ้นตบโต๊ะและชี้หน้าพยานทำนองว่า พยานให้ปากคำไม่ถูกใจ นั้น
11 ธ.ค. 2567 พันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ได้นิ่งนอนใจ และสั่งการให้หน่วยงานที่รับผิดชอบสอบสวน รายงานข้อเท็จจริง ดังนี้
1. ในวันที่ 29 พ.ย. 2567 ได้มี นางพัชรี (สงวนนามสกุล) เข้ามาให้ปากคำต่อคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในฐานะพยาน โดยมีคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษสอบปากคำพยานชุดละ 3 นาย เพื่อทำหน้าที่สอบสวนพยานดังกล่าว
2. ระหว่างการสอบสวน คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษมีการซักถามปากคำตามขั้นตอน ที่ต้องลงรายละเอียดให้ได้ข้อเท็จจริงแห่งคดี ไม่มีการข่มขู่ หรือ ตบโต๊ะตามที่ระบุในข่าวแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในห้องดังกล่าว มีคณะพนักงานสอบสวนและพยานรายอื่นรวมอยู่ด้วย และเห็นเหตุการณ์โดยตลอด
3. เหตุที่มีการสอบสวนนานถึง 5 ชั่วโมง เนื่องจากพยานอ่านคำให้การและขอแก้ไขหลายครั้ง ซึ่งพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ได้อำนวยความสะดวกเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย
จากกรณีดังกล่าวจึงไม่เป็นความจริง อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้ผู้บังคับบัญชากำชับให้พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่ตามขั้นตอนกฎหมายและอธิบายให้พยานเข้าใจถึงขั้นตอนตามกฎหมายอย่างแท้จริง เพื่อป้องกันปัญหา ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดขึ้นอีก
ส่วนความคืบหน้าคดี พันตำรวจตรียุทธนา กล่าวว่า อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน ซึ่งต้องเร่งทำสำนวนและเสนอความเห็นต่ออัยการให้ทันก่อนที่จะครบกำหนดฝากขังหลังวันที่ 20 ธ.ค. ขณะนี้สำนวนมีความสมบูรณ์แล้วประมาณ 80% โดยมีเอกสารประมาณ 3 แสนแผ่น มีเอกสารเต็ม 1 ห้องใหญ่ ต้องเรียบเรียงเอกสารและทำบัญชีวิเคราะห์ความเสียหายของแต่ละคนว่าเป็นจำนวนเท่าใด
เมื่อถามถึงจะมีการออกหมายจับผู้ต้องหาล็อตที่ 2 เพิ่มเติมในส่วนของแม่ข่ายอีกหรือไม่นั้น พันตำรวจตรียุทธนา เชื่อว่าน่าจะมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก เพราะจะต้องมีการรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่ม ในส่วนที่จะขยายผลเป็นเรื่องเฟส 2 ต่อไป และฟอกเงินก็จะตามมา
เมื่อถามกรณีนายสามารถ เจนชัยจิตวณิช พันตำรวจจรียุทธนา กล่าวว่า อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน เบื้องต้นคดีนี้พบว่ามีผู้กระทำความผิดเพิ่ม แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีเพิ่มกี่ราย