จับ “โก๊ะ ทุ่งครุ” ซิ่งกระบะไล่ชนคู่กรณี ชนหนูน้อยวัยขวบเศษบาดเจ็บสาหัส | คมชัดลึก

วันที่ 13 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 17.30 น.  เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จับกุมตัว นายสุประดิษฐ์ หรือ "โก๊ะ ทุ่งครุ"  จันทร์เปล่ง อายุ 32 ปี ที่อยู่ 115 ซ.ประชาอุทิศ 84 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 960/2567 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2567 กระทำความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น” โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณภายในวัดทุ่งครุ แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ

 

กล่าวคือขณะนั้นผู้เสียหายได้ขับรถ จยย. พาลูกชายวัยขวบเศษ ไปกราบหลวงปู่ที่วัดหัวกระบือ ระหว่างจะเดินทางกลับ ได้มีชายวัยกลางคนวิ่งมาขอความช่วยเหลือในสภาพสะบักสะบอม พอเข้ามาใกล้ๆ จึงเห็นว่าเป็นคนที่เคยช่วยงานอยู่ที่วัด ผู้เสียหายจึงถามว่าไปโดนอะไรมาทำไมสภาพสะบักสะบอมแบบนี้ ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าถูกทำร้าย ขอให้ช่วยพาไปส่งปากซอยหน่อยจะไปหาหมอ จึงให้นั่งซ้อนท้ายรถ จยย. ออกมาด้วย โดยบนรถ จยย.ตนให้ลูกชายวันขวบเศษนั่งเบาะหน้าสำหรับเด็ก ตนเป็นคนขับ และชายคนดังกล่าวซ้อนท้าย 

 

เมื่อตนขับรถออกมาจากวัดได้ไม่ถึง 100 เมตร ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ถือไม้เบสบอลออกมาวิ่งไล่ตีรถ จยย.ของตนโดยไม่ทราบสาเหตุ ตนจึงรีบขับขี่รถออกมา ตั้งใจว่าจะไปแจ้งความ เมื่อขับขี่รถออกมาได้ไม่ไกล จู่ๆได้มีรถกระบะขับไล่ตามมาอย่างกระชั้นชิด ตนจึงพยายามขับหนีแต่ไม่พ้น สุดท้ายถูกรถกระบะคันดังกล่างพุ่งชนท้ายอย่างจัง ทำให้ตนและชายคนที่มาขอความช่วยเหลือได้รับบาดเจ็บ ส่วนลูกชายได้รับบาดเจ็บสาหัส  มีบาดแผลฉีกขาดที่หน้าผากลึกจนถึงกระโหลก มีบาดแผลฉีกขาดที่ศีรษะด้านซ้าย ปากฉีก และมีบาดแผลตามตัวอีกหลายแห่ง  ตนจึงรีบพาลูกนำส่งโรงพยาบาลทันที  

 

หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุ จนพนักงานสอบสวนเสนอศาลออกหมายจับคนร้าย จำนวน 1 คน คือ นายสุประดิษฐ์ หรือ “โก๊ะ ทุ่งครุ” อายุ 33 ปี ตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 960/2567 ลงวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ พยายามฆ่าผู้อื่น ” ขณะนี้ผ่านมากว่า 3 เดือน คนร้ายยังคงลอยนวล ยังไม่ถูกจับกุมมาดำเนินคดีแต่อย่างใด จึงร้องเรียนผ่านเพจ “ สืบนครบาล IDMB ” เพื่อให้ตำรวจสืบสวนนครบาลช่วยทำการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎให้ได้โดยเร็ว  

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เมื่อเห็นถึงความเดือดร้อยของประชาชน จึงสั่งการให้ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. ซึ่งได้รับมอบหมายให้รีบทำการสืบสวนเพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว

 

ในชั้นจับกุม นายสุประดิษฐ์ ให้การภาคเสธ โดยให้การว่า ในวันเกิดเหตุระหว่างที่ตนเขับขี่รถยนต์กระบะอยู่บริเวณเลียบคลองวัดหัวกระบือ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ได้พบเห็นคู่กรณีซึ่งเคยมีเรื่องชกต่อยกันมาก่อนโดยบังเอิญ จึงเกิดความแค้นบันดาลโทสะจึงได้ขับรถกระบะที่ตนขับไล่ชนจนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุกับคู่กรณีในคดีนี้ โดยที่ตนไม่เห็นว่ารถจักรยานยนต์ที่ตนไล่ชนนั้นมีเด็กโดยสารมาด้วย หลังเกิดเหตุตนและคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ จนขาดการติดต่อกัน ประกอบกันตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากคู่กรณีจึงได้หลบซ่อนตัวมาพักอยู่กับบ้านของแม่ซึ่งไม่ใช่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้านระแวกใกล้วัดทุ่งครุ จนมาถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ ที่ผ่านมาตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และขอโทษผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอรับโทษตามกฎหมาย

 

จากการตรวจสอบประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในฐานข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ระบบ Crime) พบข้อมูลประวัติการกระทำความผิด จำนวน 4 คดี ดังนี้ 

 

1) ปี 2558 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “ครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1” ท้องที่ สน.ราษฎร์บูรณะ

2) ปี 2559 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” ท้องที่ สน.ทุ่งครุ

3) ปี 2561 ถูกจับกุมในความผิดฐาน “จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1” ท้องที่ สน.ทุ่งครุ

4) ปี 2567 ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 960/2567 ลงวันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ.2567 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พยายามฆ่าผู้อื่น” ท้องที่ สน.ท่าข้าม คดีที่ถูกจับกุมนี้

 

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัว นายสุประดิษฐ์ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่าคดีนี้ ถือเป็นคดีที่เป็นภัยต่อสังคม ก่อเหตุกลางวันแสก ท่ามกลางชาวบ้านที่ใช้รถสัญจรไปมา ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในสังคม จึงได้สั่งการให้รีบจับกุมมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงย่างกับผู้อื่น และขอเตือนให้ประชาชนทุกท่าน ใช้ชีวิตในสังคมอย่างมีสติ รู้จักระงับอารมณ์ มีน้ำใจให้แก่แก่ เพราะเพียงอารมณ์ชั่ววูบ อาจเปลี่ยนทิศชีวิตของท่านไปตลอด ทำผิดติดคุก ไม่ได้ดูแลหรืออยู่กับคนที่เรารัก เสียทั้งครอบครัว งานการ เงินทอง อีกด้วย สุดท้ายหากมีประชาชนเดือดร้อน ขอให้ท่านติดต่อมาที่เพจ สืบนครบาลIDMB เรายินดีให้คำปรึกษาช่วยเหลือ