ข่าว

เปิดสาเหตุ ชนกลุ่มน้อยบึ้มงานกาชาดฯ อ.อุ้มผาง

เปิดสาเหตุ ชนกลุ่มน้อยบึ้มงานกาชาดฯ อ.อุ้มผาง

14 ธ.ค. 2567

ตำรวจจับกุม 2 คนร้ายบึ้มงานกาชาดฯ อ.อุ้มผาง ยอมรับเป็นคนสะพายกระเป๋าใส่ระเบิดเข้าไป ขณะที่ ผบ.ตร.สั่งสอบตำรวจพื้นที่ปล่อยปละละเลยหรือไม่

กรณีเกิดเหตุระเบิดงานกาชาด อะเมซิ่งแผ่นดินดอยลอยฟ้า อ.อุ้มผาง จ.ตาก ประจำปี 2567 ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 48 ราย เสียชีวิต 3 ราย

 

14 ธ.ค. 2566 พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 เวลา 23.35 น. เกิดเหตุทะเลาะวิวาทปาระเบิดใส่ผู้มาร่วมงานดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อุ้มผาง ทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอุ้มผาง โดยภายในงานมีประชาชนเข้าร่วมประมาณ 8,000 – 9,000 คน 

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารได้ร่วมกันสืบสวนติดตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้ทั้ง 2 คน ได้แก่ คนไทย 1 คน คือ นายเอ (นามสมมติ) และกองกำลังกะเหรี่ยง KNU 1 คน คือ นายจอริทู มีประวัติเคยถูกจับกุมคดียาเสพติดเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา 

 

เปิดสาเหตุ ชนกลุ่มน้อยบึ้มงานกาชาดฯ อ.อุ้มผาง

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายจอริทู ยอมรับว่า เป็นผู้สะพายกระเป๋าใส่ระเบิด สาเหตุเกิดจากมีเหตุโกรธเคืองกับกลุ่มวัยรุ่นคู่กรณีมาตั้งแต่งานลอยกะทง ครั้งนี้จึงมาก่อเหตุเอาคืน

นอกจากนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชากรตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้แสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ดำเนินการเรื่องนี้เต็มที่ โดยหลังทราบเรื่อง ผบ.ตร. ได้สั่งการตำรวจฝ่ายสืบสวนพื้นที่ และ ภ.6 เร่งจับกุมผู้ก่อเหตุให้ได้ โดยบูรณาการกับหน่วยงานทหารเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย และได้สั่งการให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธํารงค์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบงานสืบสวนสอบสวน กำกับดูแลพื้นที่ ภ. 5 และ ภ.6 ลงไปกำกับติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดแล้ว เพื่อขยายผลดำเนินการทุกมิติ

 

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์

สำหรับตำรวจพื้นที่ ผบ.ตร. สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ก่อนจัดงานได้ประชุมหรือวางแผนดูแลรักษาความปลอดภัยอย่างไรหรือไม่ หากพบว่าเป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นทุกปีและไม่มีการกำหนดแผนหรือมาตรการใดๆ รองรับ ให้พิจารณาข้อบกพร่องทางวินัยและการปกครองทันที รวมทั้งสั่งเพิ่มความเข้มทุกพื้นที่ที่มีการจัดงาน ทั้งด้านการหาข่าวและการปฏิบัติ และการระมัดระวังกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นคู่อริ ต้องไม่ให้เกิดเหตุใดๆ ทั้งสิ้น เพื่อดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน