ไล่สกัดจับวุ่น อดีตตำรวจฉี่ม่วง ลักพาตัวแฟนสาว
ไล่ล่าระทึก อดีตตำรวจ ติดยาเสพติด ลักพาตัวแฟนสาว อ้างจะพาไปเคลียร์ใจ หลังมีเรื่องระหองระแหงกัน
14 พ.ย. 2567 ตำรวจทางหลวง นำโดย ร.ต.ต.ธวัชชัย ใจห้าว รอง สว.(ป.) ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. , ด.ต.นพดล สุขสวัสดิ์ , ด.ต.นิราช บุญประกอบ และ ส.ต.อ.สรายุทธ์ ศักดา ผบ.หมู่ ส.ทล.5 กก.2 บก.ทล. ร่วมกันสกัดจับ นายภาสกร อายุ 27 ปี อดีตตำรวจ ผู้ต้องหาหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ,
ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเองหรือของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น , เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย และ เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย โดยจับกุม ได้บริเวณริมถนนสุราษฎร์ธานี-นครศรีธรรมราช หน้าเทศบาลตำบลท่าทองใหม่ ต.ท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ต่อเนื่องศูนย์ปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ต.ตลาด อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี และโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง ได้นำรถวิทยุออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ และได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เหตุลักพาตัว โดยคนร้ายได้ขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า ซีวิค สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เป็นยานพาหนะหลบหนี จากพื้นที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี
จากนั้นรถวิทยุ ได้พบรถยนต์คันดังกล่าว บนถนน ทล.4009 บริเวณแยกซอย 10 จึงได้ติดตามไปจนถึง ต.ทุ่งเตา อ.บ้านนาสาร ผู้ก่อเหตุได้กลับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ธานี โดยใช้เส้นทาง ทล.4009 ขวา ทล.4143 หลบหนี จนไปถึง ทล.44
จากนั้น รถวิทยุคันดังกล่าว ได้ประสาน รถวิทยุอีกคัน ให้ช่วยสกัดจับรถต้องสงสัยคันดังกล่าว โดยให้สังเกตการณ์บนถนน ทล.44 กม.114 ต.ทุ่งรัง อ.กาญจนดิษฐ์ และพบรถคันดังกล่าวได้กลับรถมุ่งหน้า อ.กาญจนดิษฐ์ จึงไล่ติดตามไปถึงปั๊มน้ำมันในพื้นที่ ทุ่งรัง
โดยรถวิทยุ ใช้ไมโครโฟนให้คนร้ายในรถคันดังกล่าวลงจากรถ แต่คนร้ายไม่ยอมลงจากรถและได้ขับหลบหนีย้อนศรไปยัง ทล.44 และคนร้ายได้เลี้ยวหลบหนีไปทางถนนทุ่งรัง กระทั่งสามารถสกัดจับได้บริเวณสี่แยกท่าทองใหม่ อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี รวมระยะทางหลบหนี 50 กม. ใช้เวลาการติดตาม 40 นาที จนควบคุมคนร้ายเอาไว้ได้
จากการตรวจสอบพบ นายภาสกร คนขับ ผู้ต้องหา และ น.ส.สุธีมาสน์ ผู้เสียหาย แฟนสาว จากนั้นได้นำตัว นายภาสกร มายังศูนย์ปฏิบัติการสืบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เพื่อจัดทำบันทึกจับกุม
ในระหว่างพูดคุยกับ นายภาสกร มีอาการคล้ายกับผู้เสพยาเสพติด เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เชื่อว่าได้เสพยาเสพติดมาก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน
สอบสวน นายภาสกร รับว่า เสพยาบ้ามาก่อนหน้านี้จริง จึงตรวจปัสสาวะพบสารเสพติด ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ นายภาสกร รับว่า เคยเป็นตำรวจ แต่โดนไล่ออกจากราชการ เมื่อปี 2566 และได้กลับมาอยู่บ้าน ที่อ.ถ้ำจากการสอบถามนายภาสกรฯ พบว่าเคยเป็นข้าราชการตำรวจ แต่ได้โดนไล่ออกจากราชการเมื่อปี พ.ศ.2566 และได้กลับมาอยู่บ้านที่ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช
เมื่อต้นปี 2567 และได้มีปัญหาระหองระแหง กับ น.ส.สุธีมาสน์ จึงตัดสินใจไปหา น.ส.สุธีมาสน์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ใน อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นที่ทำงานของ น.ส.สุธีมาสน์ และ ได้อุ้มตัว น.ส.สุธีมาสน์ เพื่อจะพาไปพูดคุยที่ อ.ถ้ำพรรณรา จ.นครศรีธรรมราช แต่ทาง ญาติของ น.ส.สุธีมาสน์ ได้โทรไปแจ้งความ จนถูกสกัดจับดังกล่าว