พ่อเฒ่าวัย 71 ปี กลั้นใจจบชีวิตในถังน้ำ ทิ้งจดหมายให้ลูกอ่าน บอก อย่าคิดมาก | คมชัดลึก

18 ธ.ค. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี รับแจ้งมีเหตุมีชายเสียชีวิตด้วยการเอาศรีษะจุ่มลงถังน้ำเสียชีวิต เหตุเกิดตึกแถว 3 ชั้น ซอยนนทบุรี 48 ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงประสานแพทย์เวรจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางไปตรวจสอบ 

ที่เกิดเหตุตึกแถว 3 ชั้น ที่ห้องน้ำชั้นล่างใต้บันได พบศพ นายจำเริญ (สงวนนามสกุล) อายุ 71 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ นั่งอยู่บนโถชักโครก ศรีษะเอนอยู่ข้างถังน้ำขนาด 100 ลิตร ส่วมมือขวาอยู่ภายในถังน้ำ กู้ภัยได้นำร่างออกมาให้แพทย์ชันสูตรเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายใดๆ เสียชีวิตมาประมาณ 7-8 ชั่วโมง หลังตรวจสอบร่างของผู้เสียชีวิตเสร็จสิ้นแล้วได้ให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อทำการผ่าชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง 

น.ส.จัน ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า วันนี้ตนได้ออกไปทำธุระแล้วกลับเข้ามาบ้านประมาณ 01.00 น. หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จแล้วจะขึ้นมานอนกับพ่อที่ห้อง ก็แปลกใจทำไมพ่อไม่เปิดพัดลม ตนจึงเปิดไฟในห้องแต่พ่อไม่ได้นอนอยู่ในห้อง ตนก็ใจไม่ดีแล้ว ยิ่งมาเห็นจดหมายที่พ่อเขียนไว้ล่าสุด ตนเลยลงมาดูข้างล่างว่าอยู่ไหน และเปิดประตูห้องน้ำพบว่าศรีษะของพ่อจมอยู่ในถังน้ำ ตนเลยยกศรีษะพ่อขึ้นจากน้ำและพบว่าตัวแข็ง จึงได้รีบโทรหา 1669 เพื่อขอความช่วยเหลือว่าจะทำอย่างไรได้บ้างเพราะพ่อตัวแข็งแล้ว ตนก็เสียใจก็ยังคิดอยู่ว่าพ่อยังสู้ไหวเพราะพึ่งได้ยามา และก็ให้กำลังใจและอยู่กับพ่อตลอดตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา พ่อป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและอีกหลายโรค 

น.ส.ดาว ลูกสาวผู้เสียชีวิต กล่าวว่า พ่อได้เขียนจดหมายไว้ฉบับแรกเมื่อวันจันทร์ พ่อได้บ่นให้ฟังว่าเขาจะไม่ไหวแล้วถ้าเห็นจดหมายนี้ ให้รู้ว่าพ่อจะไปพรุ่งนี้ตอนบ่ายๆ และพ่อยังบ่นว่าตั้งแต่โควิดมันมาขายของก็ไม่ดี มันไม่เหมือนเดิมแล้วร่างกายก็ไม่ดีเหมือนก่อนแล้วก็บ่นน้อยใจ เพราะเมื่อวันก่อนไปหาญาติใกล้ๆแถวนี้ เห็นญาติอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว พ่อก็เลยมีอารมณ์น้อยใจตรงนั้นด้วยอยากให้ลูกสู้ และมีชีวิตที่ดีพูดถึงทั้งหนูกับน้อง และญาติอีกคน และยังพูดถึงเงินก้อนสุดท้ายได้มาจากญาติที่พึ่งเสียไป เป็นเงินต่อชีวิตนะ เอาไว้ทำศพทำพิธี และก็บ่นว่าไม่ยากเป็นภาระใคร แต่ก็เป็นห่วงลูกๆว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ขายของอย่างไงมันก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว และก็บ่นหลายๆเรื่อง เรื่องสุขภาพ เรื่องสังคม ซึ่งก่อนหน้านี้พ่อมีอาชีพขายของอยู่ที่ตลาดนัดจตุจักร 

แต่หลังจากโรคโควิดระบาดทำให้ต้องหยุดขายของ เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นได้กลับไปขายของแต่ก็ขายไม่ดีเหมือนเดิน พ่อเลยเลิกขายเหมือนเออรี่ตัวเองแล้วก็อยู่แต่บ้าน ส่วนจดหมายที่ผู้ตายเขียนไว้มีใจความว่า ป๋าขอลาก่อนหลับสบาย ชีวิตต้องสู้จิตใจเข้มแข็ง เกิดแก่เจ็บตายของธรรมดา อย่าคิดมาก อยู่ต่อไปมันทรมานทั้งเจ็บทั้งทรมาน ชีวิตต้องสู้ ป๋าขึ้นสวรรค์แล้ว ขอให้ลูกโชคดี

ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะเกิดความเครียดหรือสภาวะจากโรคซึมเศร้า จึงตัดสินใจฆ่าตัวตายด้วยนั่งที่ชักโครกก่อนจะใช้ศรีษะจุ่มลงไปในถังน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กันจนเสียชีวิต