รวบแม่บ้านสุดแสบ รับจ้างดูแลคุณยายผู้สูงอายุ แต่กลับทำร้าย 30 ครั้ง ใน 3 สัปดาห์
รวบ “กระต่ายแสนกล” แม่บ้านแสบ รับจ้างดูแลสูงอายุ แต่กลับทำร้ายยายฮวย วัย 83 ปี ป่วยติดเตียง ลูกสาวเช็กกล้องวงจรปิดถึงกับช็อก นับได้กว่า 30 ครั้งใน 3 สัปดาห์
18 ธ.ค. 2567 กรณีมีผู้เสียหายร้องทุกข์เข้ามายังเพจสืบนครบาล ว่า มีบุคคลมีพฤติการณ์ในการก่อเหตุที่มีลักษณะเดียวกัน ไม่ว่าจะทำร้ายร่างกายเด็ก ผู้สูงอายุ พยายามลักทรัพย์ผู้สูงอายุโดยตรวจพบข้อมูลจากหลักฐานการแจ้งความ และกล้องวงจรปิดภายในบ้านของผู้เสียหาย อีกทั้งพบว่า เมื่อวันที่ 12 ก.ค. 2567 เพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้พายายฮวย วัย 83 ปี เข้าพบ ผกก.สน.มีนบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.นภสร หรือกระต่าย แม่บ้านที่ครอบครัวจ้างมาดูแลผู้สูงอายุ หลังทำร้ายยายฮวยจนได้รับบาดเจ็บ โดยใน 3 สัปดาห์ ทุบตีประมาณ 30 ครั้ง
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ นำกำลัง ชุดปฏิบัติการที่ 2 เข้าจับกุม น.ส.นภสร หรือ กระต่ายแสนกล อายุ 49 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กาย ได้ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่งใน ซอยรัฐขจร แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
พฤติการณ์ จากการสอบถามผู้เสียหาย เมื่อวันที่ 10 มิ.ย. 2567 ระบุว่าได้โพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มหนึ่ง เพื่อจัดหาคนมาดูแลมารดา(ยายฮวย) ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากผู้เสียหายต้องทำงานประจำ จึงมีผู้สนใจติดต่อเข้ามา ตามเบอร์โทรศัพท์ที่แจ้ง
ต่อมาผู้ต้องหา พยายามขอเข้าทำงาน จึงรับเข้าทำงาน ภายหลังจากพูดคุย ซักถามถึงประสบการณ์ในการดูแลผู้สูงวัย จึงให้เริ่มงาน วันที่ 11 มิ.ย. 2567 เป็นต้นมา จนในวันที่ 1 ก.ค. 2567 ตนและภรรยาสังเกตเห็นว่า แม่มีรอยฟกช้ำตามใบหน้า และลำตัว จึงได้เฝ้าดูพฤติการณ์ของผู้ต้องหาอย่างใกล้ชิด มาโดยตลอดจนถึงวันที่ 5 ก.ค. 2567 และเก็บรวบรวมหลักฐานผ่านกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งภายในห้อง
จึงพบพฤติการณ์สะเทือนใจ พบว่า น.ส.นภสร ได้ทุบตีแม่อย่างรุนแรงและต่อเนื่อง ตั้งแต่รับเข้าทำงาน จนถึงวันที่ 5 ก.ค. 2567 เบื้องต้นจากการสอบถาม น.ส.นภสร ยอมรับกับตนและครอบครัว ว่าเป็นผู้กระทำตามภาพที่ปรากฎในวงจรปิด จากนั้นไม่ได้สำนึกในการเข้ามาขอโทษ อีกทั้งมีพฤติการณ์แสดงท้าทายไม่ยำเกรงต่อผู้เสียหายและครอบครัว
นอกจากนี้ผู้เสียหายตรวจสอบไปยังสมาชิกในกลุ่ม “นายจ้าง หาคนดูแลผู้สูงอายุ” พบผู้เสียหายให้ข้อมูลจำนวนมาก ในพฤติการณ์คล้ายคลึงกันของผู้ต้องหารายนี้ จึงเข้าแจ้งความในวันที่ 12 ก.ค. 2567 และเข้าไปรัองทุกข์กับ เพจสายไหมต้องรอด เพื่อให้การช่วยเหลือและรับเป็นคำร้องทุกข์ที่เป็นภัยอันตรายต่อสังคม ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง
จากการซักถามผู้ต้องหาในชั้นจับกุม ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ให้การยอมรับ ว่า บุคคลดังกล่าวในภาพและชื่อสกุล เป็นตนเองตามหน้าหมายจับ แต่ปฏิเสธการทำร้ายร่างกาย และ ยังให้การว่า ตนไม่ทราบเลยว่ามีหมายเรียก และหมายจับส่งไปยังบ้าน เพราะตนเองไม่เคยกลับเข้าไปบ้านอีกเลย นับตั้งแต่ทำงานรับดูแลผู้สูงอายุตามบ้าน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง อาศัยว่านายจ้าง ว่าจ้างให้ไปที่ไหน ก็จะขอดูแลกับเคสที่มีที่พักอาศัย รวมทั้งไม่เคยมีพฤติการณ์ทุบตี ทำร้ายใคร ตนรักผู้สูงอายุ และรักเด็ก เป็นคนธรรมะเข้าวัดฟังธรรมมาโดยตลอด
.
แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจ เนื่องจากการมีข้อมูล หลักฐาน และผู้เสียหายร้องทุกข์ รวมทั้ง ยังพบว่ามีผู้เสียหายบางราย ที่ถูกผู้ต้องหารายดังกล่าวนี้ ก่อเหตุในลักษณะคล้ายคลึงกัน อีกทั้งยังมีข้อมูลยืนยันจากใบแจ้งความฯ และได้ลงบันทึกประจำวัน การทำร้ายร่างกายและลักทรัพย์ อันก่อให้เกิดความเสียหายทั้งร่างกาย และจิตใจแก่ญาติ และผู้สูงอายุตามบ้านที่ผู้ต้องหาเข้าไปดูแลอีกหลาย
จากนั้นจึงส่งตัวผู้ต้องหา ให้พนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
.
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า การหาคนดูแลผู้สูงอายุ ควรมีปัจจัยหลายข้อด้วยกันก่อนเลือกใช้บริการ ควรดูความน่าเชื่อถือและมาตรฐาน ไม่ควรคำถึงเรื่องราคาถูกเพียงอย่างเดียว รวมทั้งต้องมีพยาบาลดูแลผู้สูงอายุ หรือบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง มีคุณภาพและมาตรฐานในการดูแลผู้สูงอายุ บริการต่างๆ ที่ครบครัน โดยไม่เพียงแค่ดูแลเรื่องสุขภาพร่างกายเท่านั้น แต่ต้องดูแลรักษาสุขภาพใจได้ด้วย และต้องถูกต้องตามกฎหมาย ตลอดจนควรติดตั้งกล้องวงจรปิดภายในห้องที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
------------
ร่วมเสนอชื่อ "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21" (18.12.2024 - 09.01.25)
- FB : คมชัดลึก อวอร์ด (komchadluek award) https://www.facebook.com/KomChadLuekAward/
- Web : คมชัดลึก (http://awards.komchadluek.net )