รวบแก๊งคอลฯเดนคุก หลอกแฟนหนุ่มทำงานประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนลวงแฟนสาวย่ำยี | คมชัดลึก

18 ธ.ค. 2567 เวลา 10.00 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 โดย ตำรวจภาค 7 ชุดสืบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และทีมงานเพจสายไหมต้องรอด พร้อม น.ส.นุช (นามสมมุติ) อายุ 27 ปี ผู้เสียหายที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงชักชวนไปทำงานยังประเทศเพื่อนบ้าน(กัมพูชา) แถลงจับกุม นายมนตรี อายุ 39 ปี ชาว จ.นครปฐม ผู้ต้องหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น , ทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ

 

หลังจากเมื่อวันที่ 15 ธ.ค. 2567 เวลา 17.20 น. น.ส.นุช เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.กำแพงแสน เพื่อแจ้งความว่า เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 เวลา 17.00 น. นายมนตรี ใช้อุบายหลอกลวง ผู้เสียหายให้ไปพบที่หอพักแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม ก่อนลงมือลวนลามและข่มขืนจนสำเร็จความใคร่

 

นอกจากนี้ นายนนท์ (นามสมมุติ) สามีผู้เสียหาย เปิดเผยด้วยว่า เคยหางานในเพจเฟซบุ๊ก พบงานที่หนึ่งมีที่พักฟรี และได้คุยกับเอเยนต์ผ่านช่องทางแชท กระทั่งได้รู้จักกับนายมนตรี ผู้ต้องหา มีการชักชวนกันไปทำงานที่กัมพูชา หลังจากนั้นตนได้ข้ามฝั่งไปประเทศเพื่อนบ้าน พอไปถึงพบเอเยนต์เป็นผู้หญิง ยึดทุกอย่าง เช่น โทรศัพท์ บัตรประชาชน ฯลฯ และพาไปเปิดบัญชีธนาคาร เพิ่มประมาณ 7 บัญชี ทำให้สงสัยว่าผู้ต้องหาเป็นแก๊งคอลฯ

 

พอไปถึงที่ทำงาน เป็นอาคารพาณิชย์ 5 ชั้น ตนขึ้นไปทำงานที่ชั้น 3 เพื่อที่รอสแกนใบหน้าอย่างเดียว และภายในตึกนั้นมีประมาณกว่า 10 ห้อง จำนวนคนกว่า 100 คน อายุราวๆ 20-80 ปี น้องๆ ที่เข้าไปบางคนโอนเงินเข้าบัญชีของตัวเอง เดินทางไปไหนไม่ได้เลย บางคนหายไปเลย ไม่เจออีกเลย หลังจากโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง เพราะภายในห้องต่างคน ต่างต้องเอาตัวรอด เพราะหนีออกไปไหนไม่ได้เลยและไม่รู้ว่าจุดที่ไปทำงานนั้น มันคือที่ไหน ห้องทำงานมีกล้องวงจรปิดหลายตัวติดอยู่ มีประตูเข้าออกหลายจุด ห้องนอนก็มีคนภาคใต้นั่งควบคุมดูแลอยู่ มีการส่งคนเข้าออกตลอดเวลา

 

ส่วนเรื่องบัญชีที่เปิด มีการโอนเงินเข้าออกตลอดเวลาวนกันไปมา เฉพาะบัญชีภายในห้อง จากนั้นผู้ต้องหาได้มีการแจ้งกับแฟนของตนว่า ถ้าอยากจะให้ตนกลับมา ต้องให้แฟนของตนไปด้วย จากนั้นแฟนก็ทำตามที่นายมนตรี บอก กระทั่งถูกหลอกไปกระทำชำเรา แฟนจึงติดต่อผ่านเพจสายไหมต้องรอด จนมีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนจับกุมนายมนตรี ได้

 

 

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตรวจสอบประวัติ นายมนตรี พบว่า เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 2565 เคยถูกดำเนินคดี เมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2551 ข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่น , วันที่ 7 ธ.ค. 2551 ข้อหายักยอกทรัพย์ , วันที่ 10 ธ.ค. 2551 ข้อหาวิ่งราวทรัพย์ , วันที่ 14 ธ.ค. 2551 ข้อหายักยอกทรัพย์ , วันที่ 30 ธ.ค. 2551 ข้อหาชิงทรัพย์ โดยทั้งหมดอยู่ในท้องที่ สภ.กำแพงแสน

 

------------

 

ร่วมเสนอชื่อ "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21" (18.12.2024 - 09.01.25)

• FB : คมชัดลึก อวอร์ด (komchadluek award) https://www.facebook.com/KomChadLuekAward/
• Web : คมชัดลึก (http://awards.komchadluek.net )