ข่าว

ตายาย ร่ำไห้ ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท เป็นตอตะโก

ตายาย ร่ำไห้ ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท เป็นตอตะโก

21 ธ.ค. 2567

ตาและยายร้องไห้เป็นลม เงินสด ทองคำ ที่สะสมทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท ไฟไหม้เหลือแต่ซาก ก่อนเกิดเหตุเห็นเด็กๆวิ่งเล่น แต่ไม่อยากเอาเรือง ถือเป็นเวรกรรม

21 ธ.ค. 2567 เวลาประมาณ 09.35 น. เจ้าหน้าที่ดับเพลิง อบต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ รับแจ้งว่า เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 134 ม.3 บ.สนวน ต.ด่านฯและกำลังลามลุกไหม้บ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน จึงประสานดับเพลิงจาก อบต.กาบเชิง, อบต.โคกตะเคียน,อบต.คูตัน, เทศบาล ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง และ รถดับเพลิง อบต.ตาตุม อ.สังขะ รวม 5 คัน ลงพื้นที่ดับเพลิงที่บ้านเกิดเหตุ พร้อมด้วย จนท.อาสากู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.กาบเชิง เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบเพลิงลุกไหม้บ้าน 2 ชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูนอยู่อย่างรุนแรง 


เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำดับเพลิงสกัดกั้นไฟที่กำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง เปลวไฟที่ลุกโหมจึงสงบลง แต่ยังต้องใช้น้ำระดมฉีดดับไฟที่คุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะบ้านไม้ใต้ถุนสูงหลังแรกที่ถูกเพลิงไหม้เป็นตอตะโก ซึ่งมีฟางก้อนจำนวนมากที่ถูกไฟไหม้ ยังคงคุกรุ่นและมีควันพวยพุ่งออกมา 

 

ตายาย ร่ำไห้ ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท เป็นตอตะโก

นายยม บุญเจือ อายุ 59 ปี และนางยี ทองมาก อายุ 62 ปี สองสามีภรรยา เจ้าของบ้านที่ถูกเพลิงไหม้ทั้งสองหลังถึงกับร้องไห้เป็นลมล้มฟุบ ชาวบ้านต้องคอยประคองและให้ดมยาดม พร้อมทั้งปลอบใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น 

 

นายอำนาจ บุญคง ปลัด อ.กาบเชิง เป็นตัวแทนนายสุทธิโรจน์ เจริญธนะศักดิ์ นาย อ.กาบเชิง และร้อยตรีไพบูลย์ โพธิสมัคร เลขานายก อบต.ด่าน เป็นตัวแทนนายก อบต.ด่านฯ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ซึ่งจะได้ร่วมกันหาทางช่วยเหลือเยียวยาต่อไป จากการตรวจสอบทรัพย์สินเสียหายเบื้องต้น

 

ตายาย ร่ำไห้ ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท เป็นตอตะโก

นอกจากจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้า ตู้เตียงที่นอน อุปกรณ์เครื่องนุ่งห่มและเอกสารสำคัญต่างๆที่ถูกเพลิงไหม้หมดแล้ว ที่สำคัญพบซากเงิน ซึ่งเป็นธนบัตรแบงค์พันจำนวนมากถูกไฟไหม้เหลือเพียงซากบางส่วนให้ดูต่างหน้า  ส่วนสาเหตุเกิดเพลิงไหม้ยังไม่ชัดเจน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างสืบสวนสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
 

ขณะที่นายยม เจ้าของบ้านที่ถูกเพลิงไหม้ทั้งสองหลัง กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนอาศัยอยู่กับภรรยา ส่วนลูกหลานไปทำงานที่ กทม.หมด ตอนเกิดเหตุตนเห็นควัยพวยพุ่งและลุกไหม้อย่างรวดเร็วจากบ้านหลังเก่า ซึ่งตนเก็บฟางก้อนไว้ให้วัว ตนจึงนึกขึ้นได้ว่า มีเงินสดประมาณ 9 แสนบาท สร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท และกระปุกออมสินที่เก็บหอมรอมริบไว้ มีทั้งตั้งแต่แบงค์พัน แบงค์ห้าร้อย แบงค์ร้อยต่างๆที่หยอดเก็บสะสมไว้ทั้งชีวิต จากการทำไร่ทำนาและกรีดยาง ประมาณ 5-6 กระปุก อยู่บนบ้านชั้น 2 แต่ไม่ทราบว่า ภรรยาเก็บไว้ตรงไหน เพราะเขาไม่อยู่บ้าน 

 

ตนพยายามขึ้นไปหาตามตู้และที่ต่างๆบนชั้นสอง ระหว่างนั้นเพลิงก็เริ่มลามมาติดตัวบ้านชั้นสอง ก่อนจะมีควันคละคลุ้งเต็มบ้าน ตนหายใจไม่ออก จึงตัดสินใจใช้กำปั้นทุบกระจกหน้าต่าง ออกไปทางหลังคาและกระโดนลงมาเพื่อเอาชีวิตรอด 

 

โดยมีเพื่อนบ้านยกแคร่มารองให้ตนกระโดดลงมา มือตนก็บาดเจ็บ ตนเสียใจมาก ไม่เหลืออะไรแล้ว เงินทองที่เก็บมาทั้งชีวิตวอดหายไปกับตา เงินสดก็เตรียมไว้ไปจ่ายค่ารถไถที่จองไว้แล้วแสนกว่าบาท ไม่รู้จะดำเนินชีวิตยังไงต่อ แต่ก่อนเกิดเหตุเพลิงไหม ตนเห็นเด็กๆหลายคนวิ่งเล่นออกมาจากบ้านเก่าหลังรกที่เก็บฟาง ไม่นานก็เห็นควันพวยพุ่งออกมา ตนไม่อยากเอาเรื่องเด็กๆถือเป็นเวรเป็นกรรมของตนเอง

 

ตายาย ร่ำไห้ ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท เป็นตอตะโก ตายาย ร่ำไห้ ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท เป็นตอตะโก ตายาย ร่ำไห้ ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท เป็นตอตะโก ตายาย ร่ำไห้ ไฟไหม้บ้านวอด 2 หลัง เงินเก็บทั้งชีวิตกว่า 1 ล้านบาท เป็นตอตะโก