ตำรวจไซเบอร์ จับเพิ่มคนรวมบัญชีม้าหลอก "ชาล็อต ออสติน" โอนเงิน 4 ล้าน
ตำรวจไซเบอร์ ขยายผลจับเพิ่มอีก 1 ราย หลอก "ชาล็อต ออสติน" โอนเงิน 4 ล้าน พบทำหน้าที่รวบรวมบัญชีม้า ข้ามแดนไปสแกนหน้าที่กัมพูชา
ความคืบหน้าคดี "ชาล็อต ออสติน" ถูกมิจฉาชีพหลอกเอาเงิน 4 ล้านบาท พร้อมบังคับให้วิดีโอคอล 24 ชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านี้ตำรวจไซเบอร์ หรือ สอท. สามารถจับกุมทั้ง นางสาวปาริฉัตต์ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นบัญชีม้าแถวแรก และมีการข้ามแดนไปสแกนหน้า ที่ฝั่งประเทศกัมพูชา และ นายอาทิตญา อายุ 43 ปี ทำหน้าที่เป็นผู้รวบรวมบัญชีม้า
23 ธ.ค. 2567 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท.,พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 และ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ไทยประเสริฐ รอง ผบก.สอท.2 รรท. ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว รวบบัญชีเพิ่มอีก 1 ราย คือ นางจันทร์ทาฯ อายุ 51 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ Samsung Galaxy A06 และซิมโทรศัพท์อีก 2 ซิม ได้ที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.บางศรีทอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นผู้รวบรวมบัญชีม้า และเดินทางข้ามแดนไปสแกนหน้าที่ประเทศกัมพูชา
ในชั้นจับกุม นางจันทร์ทา ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา บอกว่า เคยถูกว่าจ้างให้เปิดบัญชีและไปสแกนหน้าที่ประเทศกัมพูชามาก่อน หลังจากที่บัญชีถูกอายัดแล้ว จึงเดินทางกลับมาประเทศไทย แต่ก็ยังติดต่อกับผู้ร่วมขบวนการที่รู้จักกันที่กัมพูชาอยู่ จึงผันตัวมาเป็นคนกลางผู้รวบรวมบัญชีม้า แล้วส่งต่อไปยังประเทศเพื่อนบ้านแทน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อหาผิด “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ ด้วยการขู่เข็ญ, ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือ ปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยเป็นการกระทำต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใด, เป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการขายบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใดและมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ”
ทั้งนี้ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างเร่งสืบสวนขยายผลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหาในขบวนการที่ยังหลบหนีมาดำเนินคดีเพิ่มเติมและยืนยันว่า ตำรวจไซเบอร์ทุกนายมีความตั้งใจในการทำคดีอย่างเต็มที่ในทุกคดี เพื่อเป็นที่พึ่งและเยียวยาความเดือดร้อนของผู้เสียหายทุกราย ไม่จำเป็นว่า ต้องเป็นคนมีชื่อเสียง บุคคลทั่วไป หรือ กลุ่มเปราะบาง จึงขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจไซเบอร์