ดีเอสไอส่งสำนวนคดีดิไอคอนล็อตแรก 161 ลัง หนา 3.4 แสนแผ่น อัยการนัดฟังคำสั่ง 8 ม.ค. 68
ดีเอสไอ ส่งสำนวนคดีดิไอคอนล็อตแรกให้อัยการ ดำเนินคดี 19 ผู้ต้องหา 161 ลัง หนา 3.4 แสนแผ่น ผู้เสียหาย 7.8 พันคน ความเสียหายกว่า 1.6 พันล้าน ขณะที่อัยการนัดฟังคำสั่ง 8 ม.ค. 68
23 ธ.ค. 2567 ที่ ห้องรับรอง ชั้น 2 อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ท.อนุรักษ์ โรจน์นิรันดร์กิจ ผู้อำนวยการกองคดีคุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ ในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าว ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รับสำนวนการสอบสวน คดีกล่าวหา บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ จากกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มาดำเนินการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ ที่119/2567 ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 2567
กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ทุ่มเทสรรพกำลังในการสืบสวนสอบสวน โดยได้บูรณาการการทำงานร่วมกับ 7 หน่วยงาน ซึ่งในคดีนี้มีพยานเอกสารถึง 348,209 แผ่น พยานบุคคล 8,071 ปาก มีผู้เสียหายจำนวน 7,875 ราย มูลค่าความเสียหาย จำนวน 1,644 ล้านบาท ปรากฏตัวผู้ต้องหา จำนวน 19 ราย ซึ่งเป็นนิติบุคคลจำนวน 1 ราย คือ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด และผู้ต้องหาซึ่งเป็นบุคคลธรรมดา จำนวน 18 ราย ได้แก่ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล กับพวก ได้ดำเนินการอายัดทรัพย์สิน ในคดีฟอกเงิน จำนวน 747,640,000 ล้านบาท อาทิ อาคารและที่ดิน
หลังจากเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษในคดีดังกล่าวได้มีการประชุมมีมติเห็นควรเสนอให้พนักงานอัยการสั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 19 ราย ในความผิดฐาน 1. ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน (แชร์ลูกโซ่) อันเป็นความผิดตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 และที่แก้ไขเพิ่มเติม , 2. ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงประกอบธุรกิจตลาดแบบตรง ในลักษณะที่เป็นการชักชวนให้บุคคลเข้าร่วมเป็นเครือข่ายในการประกอบธุรกิจ โดยตกลงว่าจะให้ผลประโยชน์ตอบแทนจากการหาผู้เข้าร่วมเครือข่ายดังกล่าวซึ่งคำนวณจากจำนวนผู้เข้าร่วมเครือข่ายที่เพิ่มขึ้น ,
3. ร่วมกันประกอบธุรกิจขายตรงโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ.2545 , 4.ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ 5.ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550
โดยในวันนี้อธิบดีกรมสอบสวนคีดพิเศษได้ลงนามในหนังสือส่งสำนวนการสอบสวน คดีดิไอคอน พร้อมพยานหลักฐานทั้งหมด มอบหมายให้ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และคณะพนักงานสอบสวน เป็นผู้นำสำนวนการสอบสวน จำนวน 161 ลัง รวมจำนวน 348,209 แผ่น ไปส่งมอบที่สำนักงานคดีพิเศษ เพื่อให้พนักงานอัยการมีความเห็นทางคดีต่อไป รวมระยะเวลาในการสอบสวนคดีนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้วเสร็จในระยะเวลา เพียง 54 วัน
พ.ต.ต.ยุทธนา อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ขอขอบคุณ สำนักงานอัยการสูงสุดที่ได้มอบหมายให้พนักงานอัยการมาเป็นที่ปรึกษาในคดี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานแรกที่รับเรื่อง และประสานความร่วมมือด้วยดีตลอดมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งสนับสนุนในการเก็บและตรวจพิสูจน์พยานหลักฐาน และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ในการดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์เพื่อนำไปเฉลี่ยคืนให้กับผู้เสียหาย ตลอดถึงขอขอบคุณ คณะที่ปรึกษาคดีพิเศษทุกท่าน และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษทุกท่านที่ได้ร่วมแรงร่วมใจในการทำงาน จนสามารถทำให้คดีนี้ส่งพนักงานอัยการ เพื่อให้มีความเห็นทางคดีตามกรอบระยะเวลาของกฎหมาย ซึ่งเป็นการอำนวยความยุติธรรมให้เกิดแก่ผู้เสียหายอย่างมีประสิทธิภาพ และในส่วนของการดำเนินการในคดีฟอกเงินของกรณีบริษัท ดิไอคอนฯ ยังคงมีการดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ การบูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วน (Strong Collaboration) เป็นนโยบายหลักประการสำคัญของ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงยุติธรรม เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการป้องกันปราบปรามสืบสวนสอบสวนคดีในความรับผิดชอบเพื่อให้การบริหารองค์การมีความยั่งยืนตามหลักธรรมาภิบาลต่อไป
ที่ สำนักงานอัยการสูงสุด นางเยาวลักษณ์ นนทแก้ว อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ พร้อมคณะประกอบด้วย นายสรกฤช งามวงษ์วาน อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 1 และ นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ต.ท.ปัณณฑัต บุญอินทร์อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ร่วมรับสำนวนคดีดิไอคอน
โดย นางเยาวลักษณ์ กล่าวว่า ภายหลังรับสำนวนคดีนี้ จะพิจารณาตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาสำนวน เบื้องต้นคาดว่าจะใช้พนักงานอัยการในสำนักงานคดีพิเศษประมาณ 5-6 คน โดยจะมอบหมายให้อัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นผู้รับผิดชอบสำนวน ส่วนกรอบระยะเวลาการพิจารณา ขณะนี้เหลือระยะเวลาฝากขังอีก 1 ฝากเศษๆไม่เกิน 20 วัน ก็เร่งพิจารณาสั่งคดีให้ทันกำหนดฝากขังทั้งหมด 7 ครั้ง
โดยช่วงวันหยุดปีใหม่ ก็จะเร่งพิจารณาโดยไม่หยุด เพื่อให้ทันเวลา ในส่วนที่หากทางทนายผู้ต้องหายื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ขอให้สอบพยานเพิ่มจนอาจจะสั่งคดีได้ไม่ทันนั้น เรื่องนี้ไม่กังวล เพราะทางเรากำหนดกรอบและประเด็นไว้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องสอบพยานทุกปากตามที่ร้องขอความเป็นธรรม ในส่วนพยานที่อาจจะไม่ได้สอบนั้น ทางผู้ต้องหาสามารถนำไปสู้คดีในชั้นศาลได้
เมื่อถามว่า คดีนี้มีคนดังเเละมูลค่าความเสียหายสูง ถือเป็นคดีใหญ่จะหนักใจหรือไม่นั้น นางเยาวลักษณ์ กล่าวว่า เนื่องจากสำนักงานอัยการคดีพิเศษของเราเป็นสำนักงานคดีสำคัญเป็นคดีใหญ่ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงอยู่เเล้ว ตนไม่ได้รู้สึกหนักใจ เรื่องนี้ทางอัยการจะให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายอย่างแน่นอน
ด้านนายนาเคนทร์ กล่าวเสริมว่า ทางอธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษจะนัดฟังคำสั่งภายในวันที่ 8 ม.ค. 2568 อีกครั้ง โดยขอให้มั่นใจว่าอัยการสำนักงานคดีพิเศษ จะเร่งทำสำนวนคดีนี้อย่างรอบคอบเเละทันกรอบเวลา
------------
ร่วมเสนอชื่อ "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21" (18.12.2024 - 09.01.25)
• FB : คมชัดลึก อวอร์ด (komchadluek award) https://www.facebook.com/KomChadLuekAward/
• Web : คมชัดลึก (http://awards.komchadluek.net)