เปิดคลิปนาทีมรณะ! CRV อดีตเกษตร จว. เมาแล้วขับ ชนตำรวจดับ นร.เจ็บ (คลิป)
เปิดคลิปวงจรปิดนาทีมรณะ! CRV อดีตเกษตร จว. เมาแล้วขับ ชนตำรวจดับ นักเรียนเจ็บอื้อ สุดช็อกแทบไม่เบรค ตำรวจจราจรกำลังไปปฏิบัติหน้าที่ ถูกเสยท้ายกระเด็น (คลิป)
24 ธ.ค. 2567 จากกรณีเกิดอุบัติเหตุชายเมาขับรถยนต์พุ่งชนตำรวจจราจร ประชาชน และเด็กนักเรียน ที่กำลังเลิกเรียน บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านดอนขวาง ถนนเพชรมาตุคลา ตำบลหัวทะเล อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ทำให้มีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก
ในรถพบคนขับ ทราบชื่อ นายธเนศ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย สภาพมีอาการมึนเมาพูดคุยไม่รู้เรื่อง โดยหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัว นายธเนศ คนขับ ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ผลตรวจแอลกอฮอล์สูงถึง 194 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ขับขี่ไปปฐมพยาบาล และดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่หน้าโรงเรียน คือ ร.ต.ท.วิมุต แท่นสุโพธิ์ รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา อายุ 53 ปี ถูกรถพุ่งเข้าชนเต็ม แรงได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันปฐมพยาบาลทำ CPR แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา
รายงานล่าสุดพบว่า ยังมีเด็กที่บาดเจ็บอาการหนัก(โคม่า) อยู่ 3 ราย โดยทั้ง 3 คน ได้รับความกระทบกระเทือนทางสมองแพทย์ได้เร่งผ่าตัดช่วยชีวิต และยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
ขณะที่วงจรปิดบริเวณหน้าโรงเรียนจับภาพนาทีมรณะ รถยนต์คันดังกล่าวพุ่งชนวินาศสันตะโร นักเรียนบางคนหลบหนีไม่ทัน ถูกรถคนเมาแล้วขับพุ่งชนเต็มแรง ก่อนที่ผู้ปกครองและนักเรียนคนอื่นๆ จะเข้าช่วยเหลือ
วงจรปิดอีกมุมของหน้ารถยนต์ผู้ปกครองที่จอดรถหน้าโรงเรียน จับภาพขณะ ร.ต.ท.วิมุต แท่นสุโพธิ์ รองสารวัตรจราจร สภ.เมืองนครราชสีมา กำลังขับรถจักรยานยนต์มาปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ทันได้จอดรถถูกรถที่เมาแล้วขับพุ่งชนอย่างเต็มแรงจนเป็นเหตุให้เสียชีวิต ขณะที่คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุตกใจและร้องเสียงดัง
ขณะที่ข้อมูลสถานการณ์อุบัติเหตุทางถนนของไทย จากกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าตั้งแต่ปี 2562 - 2566 มีผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บจากดื่มแล้วขับ มากถึง 284,253 ราย เฉลี่ยปีละ 56,850 ราย คิดเป็นมูลค่าความสูญเสียสูงถึง 3.7 แสนล้านบาท
อัปเดตกฎหมายเมาแล้วขับ 2568
การเมาแล้วขับ ถือเป็นพฤติกรรมที่อันตรายและมีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของตัวผู้ขับขี่เองและผู้อื่นบนท้องถนน จึงต้องมีกฎหมายเมาแล้วขับออกมาเพื่อใช้ควบคุมนักดื่มทั้งหลาย มีโทษตั้งแต่การปรับ การถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ และโทษจำคุก
กรณีเมาแล้วขับจะมีโทษ
1. ผู้ที่ปริมาณเแอลกอฮอล์ในเลือด 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จำคุกไม่เกิน 1 ปี
ปรับตั้งแต่ 5,000 - 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
2. ผู้ที่ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ กรณีผู้ขับขี่มีอายุน้อยกว่า 20 ปีบริบูรณ์ หรือ ผู้ขับขี่ที่มีใบอนุญาตขับรถชั่วคราว (ใบอนุญาตแบบ 2 ปี) ถือเป็น "ผู้เมาสุรา"
กรณีปฏิเสธไม่เป่า
ฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงาน ที่สั่งทดสอบ ปรับครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท
ฝ่าฝืนไม่เป่า สันนิษฐานว่า เมาแล้วขับ จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบขับขี่ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะต้องกักตัวผู้ขับขี่ที่เชื่อว่า "เมาแล้วขับ" เพื่อทดสอบในระยะเวลาที่จำเป็นหรือให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
บทลงโทษเมาแล้วขับจนทำให้เกิดอุบัติเหตุ
1. กรณีเมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น "บาดเจ็บ" จำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี ปรับ 20,000-100,000 บาท และถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ
2. กรณีเมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น "บาดเจ็บสาหัส" จำคุก 2-6 ปี ปรับ 40,000-120,000 บาท ระงับใบอนุญาตขับรถไม่น้อยกว่า 2 ปี
3. กรณีเมาแล้วขับจนทำให้ผู้อื่น "ถึงแก่ความตาย" จำคุก 3-10 ปี ปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท และเพิกถอนใบอนุญาตขับรถทันที
4. กรณีทำผิดครั้งแรก จำคุกไม่เกิน 1 หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่
5. กรณีทำผิดซ้ำภายในระยะเวลา 2 ปี กรณีกระทำผิดซ้ำภายใน 2 ปี จะมีโทษหนักขึ้น คือ จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท พักใช้ใบขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือเพิกถอนใบขับขี่