ข่าว

รักเมียชาวบ้านถึงขั้นดักเคลียร์ใจ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พกอาวุธมาทำร้ายแต่โดนสวนคาที่

รักเมียชาวบ้านถึงขั้นดักเคลียร์ใจ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พกอาวุธมาทำร้ายแต่โดนสวนคาที่

25 ธ.ค. 2567

อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหลงรักเมียชาวบ้าน ถึงขั้นขับรถมาดักเคลียร์ใจ ก่อนเปิดฉากทำร้าย แต่สุดท้ายโดนสวนกลับ เสียชีวิตคาที่ คู่กรณีบาดเจ็บ

25 ธ.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 24 ธ.ค. 2567 ร.ต.อ.สยาม สวนอินทร์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.คลองท่อม จ.กระบี่ รับแจ้งเหตุแทงกันตาย ริมถนนบ้านทุ่งนุ้ย หมู่ 7 ต.พรุดินนา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ จึงพร้อม พ.ต.อ.ทิวากร คงเพ็ชร ผกก.สภ.คลองท่อม ชุดสืบสวน สภ.คลองท่อม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดกระบี่ และแพทย์เวร รพ.คลองทอม เดินทางไปตรวจสอบ

 

ที่เกิดเหตุ ริมถนน ในสวนปาล์ม พบศพ นายสมพงษ์ อายุ 39 ปี  อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 10 อยู่ในป่าข้างทาง สวมเสื้อยืดคอกลม กางเกงยีนส์ขาสั้น สวมหมวกไหมพรมปิดบังใบหน้า ในมือซ้าย กำมีดปลายแหลมเปื้อนเลือด ยาว 1 ฟุต มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีด เข้าที่หน้าขาทั้งสองข้างฝั่งละแผล ตัดเส้นเลือดใหญ่ ทำให้เสียเลือดมาก จนกระทั่งเสียชีวิต

รักเมียชาวบ้านถึงขั้นดักเคลียร์ใจ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พกอาวุธมาทำร้ายแต่โดนสวนคาที่

 

ในกระเป๋ากางเกง พบเงินสด 11,600 บาท ข้างศพพบอาวุธปืนลูกซองยาว แบบไทยประดิษฐ์ ตกอยู่ 1 กระบอก สภาพด้ามปืนหัก ใกล้กันพบกระสุนปืนลูกซองยังไม่ได้ยิง ตกอยู่ 2 นัด สร้อยข้อมือทองคำตกอยู่ 1 เส้น รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีส้ม ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ 1 คัน ที่ตะกร้าหน้ารถ มีมีดกรีดยางอยู่ 2 เล่ม

 

ห่างจากจุดพบศพไปประมาณ 20 เมตร พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีดำ ไม่ติดป้ายทะเบียน จอดอยู่ข้างทาง ใกล้กันพบรองเท้าแตะ 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่องตกอยู่ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

 

ที่เกิดเหตุ ตำรวจพบ นายจักรภัทร ปานแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 5 ต.พรุดินนา รอให้ข้อมูลกับตำรวจ ว่า มาถึงที่เกิดเหตุ หลังเกิดเหตุได้ไม่นาน เนื่องจากหลานสะใภ้ คือ น.ส.อาภัสรา อายุ 28 ปี ขี่รถไปตามตนที่บ้าน บอกว่า สามีซึ่งเป็นหลานชายตน คือ นายรุจชิโรจน์ อายุ 35 ปี ถูกคนดักทำร้าย จึงรีบมาดู ก็พบผู้เสียชีวิต คือ นายสมพงษ์ และหลานชายตน นอนเจ็บอยู่ข้างทาง

ผู้เสียชีวิต

 

โดยตอนนั้นผู้เสียชีวิตนอนนิ่งหมดสติไปแล้ว จึงรีบพาหลานชายซึ่งได้รับบาดเจ็บ และหลานสะใภ้ ไปส่งที่โรงพยาบาลคลองท่อม

 

สอบถามจากหลาน ในเบื้องต้น ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ขณะหลานชายและหลานสะใภ้ ขี่รถกลับจากไปกรีดยาง กำลังจะกลับบ้าน ถึงจุดเกิดเหตุ เป็นที่มืดและเปลี่ยว พบผู้เสียชีวิตสวมหมวกไหมพรม ขับรถกระบะมาจอดดักรออยู่ หลานจึงคิดว่าเป็นคนร้ายมาดักทำร้าย จึงเข้าไปต่อสู้กอดรัดฟัดเหวี่ยงกัน แต่พอได้ยินเสียงพูดคนร้ายก็จำได้ว่าเป็นนายสมพงษ์ เพราะเป็นเพื่อนกับหลาน

 

แต่ตอนนั้นนายสมพงษ์ ถูกมีดแทงเข้าที่ขาเลือดทะลักออกมาจำนวนมาก และเสียชีวิตไปแล้ว หลานสะใภ้ จึงขี่รถไปตามหาตนที่บ้าน

 

รักเมียชาวบ้านถึงขั้นดักเคลียร์ใจ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พกอาวุธมาทำร้ายแต่โดนสวนคาที่

 

ส่วนสาเหตุ คาดว่ามาจากปัญหาชู้สาว เนื่องจากก่อนนี้ ผู้เสียชีวิตชอบพอหลานสะใภ้ จนทั้งคู่เริ่มจะมีปัญหากัน เมื่อประมาณ 1 สัปดาห์ จึงเรียกทั้งคู่มาพูดคุยตกลงกันแล้ว ซึ่งผู้เสียชีวิตก็รับปากว่า จะไม่มาข้องเกี่ยวกับหลานสะใภ้อีก กระทั่งมาเกิดเหตุดังกล่าว

 

ทั้งนี้ ตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตน่าจะตั้งใจมาดักรอทำร้าย ทำให้ฝ่ายคนเจ็บลงมาต่อสู้ โดยผู้เสียชีวิตพกอาวุธมีดติดตัวมาด้วย จึงน่าจะเกิดการแย่งชิงอาวุธมีดกัน ทำให้มีดพลาดไปแทงที่ขาผู้เสียชีวิตทั้งสองข้างตัดเส้นเลือดใหญ่จนเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนอาวุธปืน ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของฝ่ายไหน

 

ด้าน พ.ต.อ.ทิวากร คงเพ็ชร ผกก.สภ.คลองท่อม เผยว่า จากการพูดคุยกับฝ่ายคนเจ็บในเบื้องต้น ช่วงเกิดเหตุ นายรุจชิโรจน์ และ น.ส.อาภัสรา ขี่รถจยย.และซ้อนท้ายกัน ออกจากสวนยางพารา ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. โดยนายรุจชิโรจน์ เป็นคนขี่ มี น.ส.อาภัสรา นั่งซ้อนท้าย ที่เกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตสวมหมวกไหมพรมคลุมศีรษะ สวมไฟฉายคาดศีรษะ ยืนถือปืนยาวดักรออยู่ นายรุจชิโรจน์ เห็นรถกระบะที่จอดอยู่ จำได้ว่าเป็นรถของผู้เสียชีวิต และจำเสียงผู้เสียชีวิต ตอนพูดข่มขู่ให้ทั้ง 2 คน ให้ลงจากรถ

 

รักเมียชาวบ้านถึงขั้นดักเคลียร์ใจ อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน พกอาวุธมาทำร้ายแต่โดนสวนคาที่

 

เมื่อทั้ง 2 ลงจากรถ ผู้เสียชีวิตใช้เท้าถีบ น.ส.อาภัสรา และใช้ปืนทุบนายรุจชิโรจน์ เข้าที่แขนซ้าย ใบหน้า และศีรษะ 3-4 ครั้ง น.ส.อาภัสรา พยายามห้าม ผู้เสียชีวิตจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่นายรุจชิโรจน์ 1 นัด แต่กระสุนพลาดเป้า จากนั้นผู้เสียชีวิต กำลังจะเปลี่ยนกระสุนใหม่ น.ส.อาภัสรา จึงเข้าไปยื้อยุดฉุดกระชากแย่งปืนกัน จนไปล้มอยู่ข้างถนน โดย น.ส.อาภัสรา นั่งทับผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าอก

 

จากนั้น นายรุจชิโรจน์ จึงวิ่งตามไปทับส่วนขาท่อนล่างของผู้เสียชีวิตไว้ ผู้เสียชีวิตจึงชักมีดพกจากเอวจ้วงแทงใส่นายรุจชิโรจน์ แต่นายรุจชิโรจน์ ปัดป้องไว้ และยื้อแย่งกันจนมีดไปถูกที่ต้นขาผู้เสียชีวิตทั้งสองข้าง ข้างละ 1 แผล เป็นเหตุให้ผู้เสียชีวิตถึงแก่ความตายดังกล่าว

 

ส่วนปมเหตุ คาดว่ามาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตชอบไป ตามตอแยภรรยาของคนเจ็บ จนคนเจ็บทราบเรื่อง และเคยมีการนัดเคลียร์ปัญหากันแล้ว แต่ฝ่ายผู้เสียชีวิตยังไม่ยอมจบ จึงมาดักรอทำร้ายดังกล่าว หลังจากนี้ต้องรอสอบปากคำฝ่ายคนเจ็บอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ ต้องรอตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างละเอียด เพราะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

 

--------------

 

ร่วมเสนอชื่อ "คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21" (18.12.2024 - 09.01.25)

• FB : คมชัดลึก อวอร์ด (komchadluek award) https://www.facebook.com/KomChadLuekAward/

• Web : คมชัดลึก (http://awards.komchadluek.net)