สจ.จอย ให้ปากคำครั้งแรกที่กองปราบ ทนายชี้ รู้ข้อมูล สจ.โต้ง มากที่สุด | คมชัดลึก

2 ม.ค. 2567 จากเหตุยิง สจ.โต้ง นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ เสียชีวิตในบ้านพักของ โกทร นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี เมื่อกลางดึกวันที่ 11 ธ.ค. 2567 ที่ จ.ปราจีนบุรี หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายธนศรัณย์ อายุ 32 ปี หรือกอล์ฟ มือยิง นายศักดิ์สิทธิ์ อายุ 34 ปี หรือตูน มือยิง , นายธนภัทร อายุ 18 ปี , นายอภิสิทธิ์ , นายสิทธิชัย , นายภัทรนนท์ และ โกทร รวมทั้งให้โอนคดีมาให้กองปราบ ดำเนินการนั้น

 

ล่าสุด วันนี้ เวลา 11.00 น. น.ส.ภาภัช อัญชสาณิชมน หรือ สจ.จอย ภรรยาของ สจ.โต้ง พร้อม นายนิติศักดิ์ มีขวด ทนายความ  เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.2 บก.ป. เพื่อให้ปากคำครั้งแรก ที่กองปราบ หลังจากมีการโอนคดีมา

 

โดยนายนิติศักดิ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนกองปราบได้นัด สจ.จอย มาสอบปากคำในฐานะญาติของผู้เสียชีวิต หลังจากรับมอบสำนวนคดีมาจากท้องที่เกิดเหตุแล้ว คาดว่าช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา น่าจะมีการตรวจสำนวนเรียบร้อยแล้ว และน่าจะเห็นว่ามีประเด็นไหนบ้างที่จะสอบปากคำเพิ่มเติม  จึงเรียกตัว สจ.จอย มาสอบปากคำ ทาง สจ.จอย ก็ได้เดินทางมาจากจังหวัดปราจีนบุรีเพื่อเข้ามาพบพนักงานสอบสวน ส่วนประเด็นที่จะสอบปากคำเพิ่มเติมมองว่าเป็นเพราะ สจ.จอยมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับ สจ.โต้ง เนื่องจากเป็นภรรยา น่าจะรู้รายละเอียด ข้อมูลในคดีมากกว่าคนอื่น

 

เมื่อถามว่า ประเด็นในการสอบปากคำวันนี้จะมุ่งเน้นไปในเรื่องไหนเป็นหลัก ทนายนิติศักดิ์ บอกว่ายังไม่ได้คุยรายละเอียด หลักๆ น่าจะเป็นประเด็นทั้งหมดของรูปคดี ว่ามีเหตุจูงใจในการฆ่าหรือไม่ หรือ สจ.จอย เป็นคนใกล้ชิดรู้เห็นในส่วนของการตายของ สจ.โต้ง ในเรื่องไหนบ้าง และต้องดูว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจติดใจในประเด็นไหนบ้างเพิ่ม ทั้งบุคคลที่โดนดำเนินคดี หรือมีบุคคลอื่นเข้ามาเกี่ยวข้องหรือไม่ ก็จะต้องรอทางเจ้าที่กองปราบสรุปคดีให้ชัดเจนก่อน

 

ส่วนประเด็นที่ สจ.โต้ง อยู่กับ สจ.จอย ภายในรถและมีโทรศัพท์เข้ามาหา สจ.โต้ง นั้น บุคคลดังกล่าวคือใคร ทนายนิติศักดิ์ กล่าวว่า คงต้องดูรายละเอียดทั้งหมดทั้งก่อนเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ ว่ามีส่วนรู้เห็นในประเด็นไหนบ้าง ในฐานะพยาน

 

ตนได้พูดคุยกับ สจ.จอย เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้คลายความกังวลลงไป หลังจากที่กองปราบรับคดีมาดูแล เนื่องจากมั่นใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กองปราบปราม ว่าจะสามารถ สรุปสำนวนคดีว่าในคดีนี้ใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง ตอนนี้ สจ.จอย มุ่งเน้นไปที่การลงพื้นที่หาเสียงในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในจ.ปราจีนบุรี

 

 

เมื่อถามว่า ยังติดใจในประเด็นไหนหรือไม่ ทนายความ ระบุว่า ให้อยู่ในสำนวนคดีดีกว่า ซึ่งในเบื้องต้น สภ.เมืองปราจีนบุรี ได้สอบปากคำ สจ.จอย เป็นที่เรียบร้อย แต่เป็นการสอบปากคำในเบื้องต้นเท่านั้น ไม่ได้ลงรายละเอียด

 

ทั้งนี้ สจ.จอย จะให้ปากคำทุกประเด็นที่กองปราบ เพื่อให้สำนวนครบถ้วน เบื้องต้นกองปราบยังไม่ได้มีการขอพยานหลักฐานอะไรเพิ่มเติมจาก สจ.จอย เพราะก่อนหน้านี้กองปราบได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุแต่ละจุด จึงเชื่อว่าข้อมูลน่าจะครบถ้วนแล้ว

 

นอกจากนี้ สจ.จอย ยังคงกังวลอยู่ในเรื่องเดียว คือ อยากได้รับความเป็นธรรม เพราะ สจ.จอย อยากให้บุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ได้รับโทษทางกฎหมายทั้งหมด ทั้งผู้ใช้ ผู้บงการ หรือตัวการร่วม หรือที่แบ่งหน้าที่กันทำ เป็นผู้สนับสนุนที่กระทำความผิด ผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดได้รับโทษทางกฎหมายครบถ้วนทุกคน

 

ในเรื่องของความปลอดภัยเบื้องต้นหลังส่งโอนสำนวนคดีมาที่กองปราบ สจ.จอย ได้มีการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อมาดูแลความปลอดภัยระหว่างที่ดำเนินคดีอยู่ ก็มีความระมัดระวังในเรื่องความปลอดภัยมากขึ้น แต่ถามว่ากังวลหรือไม่ ขณะนี้ สจ.จอย คงไม่กังวล เนื่องจากตอนนี้ยังลงพื้นที่หาเสียงขอคะแนนเสียงจากชาวบ้านพี่น้องจังหวัดปราจีนบุรีเป็นเรื่องปกติ เบื้องต้นยังไม่มีการข่มขู่มาถึงตัว สจ.จอย

 

ส่วนกรณีที่มีบุคคลนำคลิปภาพ และคลิปเสียงออกมาเปิดเผยเป็นภาพที่เกี่ยวข้องกับกล่องเงินสีน้ำตาล รวมถึงประเด็นที่มีการพาดพิงว่า สจ.โต้ง มีส่วนพัวพันกับเว็บพนัน และอ้างว่า สจ.โต้ง เป็นลูกแท้ๆ ของนายสุนทร นั้น ทนายนิติศักดิ์ ระบุว่า เป็นการสร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อที่จะเบี่ยงเบนประเด็น อยากจะให้มุ่งเน้นไปในเรื่องของการสืบสวนสอบสวนว่า ในวันที่เกิดเหตุฆาตกรรม สจ.โต้ง มีใครที่มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้บ้าง คนตายไปแล้วพูดอะไรไม่ได้ ยืนยันว่า สจ.โต้ง ไม่เคยมีส่วนพัวพันกับเว็บพนัน ส่วนจะฟ้องกลับหรือไม่ อยู่ระหว่างพิจารณา และเชื่อว่าทุกเรื่องที่มีการปล่อยข่าวออกมานั้นจะไม่กระทบต่อสำนวนคดี

 

และเชื่อว่าในคดีนี้น่าจะมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ส่วนจะมีการออกหมายเรียกหรือหมายจับใครเพิ่มเติมหรือไม่นั้น เชื่อว่าน่าจะอยู่ในสำนวนการสอบสวน โดยไม่สามารถที่จะฟันธงได้ แต่เชื่อว่าน่าจะมีบุคคลอื่นอยู่ในที่เกิดเหตุ แต่จะต้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจวิเคราะห์จากพยานหลักฐานที่มีอยู่ และหากพบว่ามีบุคคลอื่นเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง เชื่อว่าตำรวจก็น่าจะดำเนินคดีกับทุกคน

 

ส่วน นายกฤษฎ์ กษมพันธุ์ หรือ รองอุ๊ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี จะมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มหรือไม่ ทนายความ ระบุว่า ยังไม่ทราบว่าจะมีการเรียกมาสอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ส่วน “ดาว“ ที่เป็นลูกเขยนายสุนทรที่อยู่ในบ้านได้มีการสอบปากคำไปแล้วพร้อมบอกว่าได้สอบปากคำบุคคลที่เกี่ยวข้องไว้ทั้งหมดแล้ว  เบื้องต้นทางกฎหมายจะต้องสอบไว้ให้เป็นพยานก่อน ส่วนในอนาคตจะเป็นผู้ต้องหาหรือไม่นั้น จะต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่า มีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่

 

----------------------

 

 

ร่วมเสนอชื่อ คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21 (18.12.2024 - 09.01.25)

• FB : คมชัดลึก อวอร์ด (komchadluek award) https://www.facebook.com/KomChadLuekAward/
• Web : คมชัดลึก (http://awards.komchadluek.net)