เดือดร้านจิ้มจุ่ม ลูกเจ้าของร้านวัย 17 ทะเลาะกับ พนง.เทศบาล สามีเก่าแม่ คว้ามีดฟันสาหัส
ทะเลาะเดือดร้านจิ้มจุ่ม! พนักงานเทศบาลก๊งเหล้าเสียงดัง ลูกเจ้าของร้านหัวร้อนไล่ทำร้าย ได้รับบาดเจ็บสาหัส เผยคนเจ็บเป็นสามีเก่าของแม่
6 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่าย วันที่ 5 ม.ค. 2568 เกิดเหตุชาย 2 คน ทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายกัน ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณร้านจิ้มจุ่ม ริมถนนเทศบาลเมือง ถนนประจวบศิริ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีผู้บันทึกคลิปเหตุการณ์สยดสยองเอาไว้ได้ จุดเกิดเหตุ เป็นตึกแถวสองชั้น เปิดเป็นร้านอาหารขาย จิ้มจุ่ม
ป้าเล็ก เจ้าของร้านชำฝั่งตรงข้าม เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุชายวัยกลางคน 2 คน ดื่มสุราส่งเสียงดัง จากนั้นได้ยินทะเลาะวิวาทกัน กลับออกมาอีกทีก็เห็นเหตุการณ์ ขณะลูกชายเจ้าของร้านอาหาร กำลังใช้มืดไล่ฟันชายอีกคน หลังจากนั้นชายวัยกลางคนที่ถูกฟันก็เดินโซซัดโซเซมาล้มลงอยู่บริเวณภายในร้านของตน มีรอยถูกฟันต้นแขนข้างซ้ายขาด เลือดนองเต็มพื้น ตนตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก พอตั้งสติได้จึงโทรเรียกรถพยาบาล ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ด้านคุณหนิง อายุ 47 ปี เจ้าของร้านจิ้มจุ่ม เผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายตน อายุ 17 ปี ใช้มีดตัดสับปะรดฟันอดีตสามีของตนแขนขาด โดยเวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 5 ม.ค. 2568 อดีตสามี มานั่งดื่มสุราอยู่บริเวณโต๊ะด้านหน้าร้านกับเพื่อนรวม 2 คน ขณะนั้นตนกำลังจะออกไปจ่ายตลาด เมื่อเห็นตนเขาจึงขอเข้าไปนั่งโต๊ะดื่มต่อภายในร้าน ระหว่างนั้นตนยังไม่เปิดให้บริการ แต่เห็นว่าเป็นลูกค้าเคยมานั่งดื่ม จึงอนุญาตให้เข้าไปนั่งดื่มต่อภายในร้าน จากนั้นพอตนกลับมา ก็เห็นนายต๊ะ ลูกชายมีเรื่อง โดยตนยังไม่ทราบว่าเกิดเหตุอะไร
จากนั้นลูกชายเดินมาบอกว่า “แม่ผมขอโทษ” ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังว่า ระหว่างที่เขานั่งดื่มสุรากันอยู่พูดคุยเสียงดังมาก ลูกชายนอนอยู่บนชั้น 2 มาบอกให้ใช้เสียงเบาๆหน่อย แต่เขากลับด่าทอยั่วยุว่าร้ายเสียหายแก่บิดาของต๊ะ ก่อนจะมีปากเสียงท้าทายกัน เป็นเหตุให้ต๊ะบันดาลโทสะคว้าเอามีดตัดสับปะรด ฟันไปที่แขนขาดกระเด็น ตกลงพื้นกลางถนน หลังทราบเหตุการณ์ตนจึงพาลูกชายซ้อนรถจยย. พร้อมอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเข้ามอบตัวที่ สภ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์
ด้าน นางสมชัย อายุ 56 ปี ชาวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ภรรยาของนายสมชัย อายุ 54 ปี ผู้บาดเจ็บ เผยว่า ทำงานเป็น พนักงานเทศบาล ประจำกองสาธารณสุข เทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้บาดเจ็บ มีอาการใบหูขาด และแขนขาด แพทย์สามารถต่อหูได้ แต่แขนไม่สามารถต่อได้ ต้องพิการไปตลอดชีวิต คิดว่ามาถึงโรงพยาบาลช้าเกินไป ล่าสุดอาการยังสาหัส นอนซมอยู่ในห้องไอซียู
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องโทษผู้ก่อเหตุ ที่่ใช้อาวุธมีดฟันเพียงคนเดียว ที่ผ่านมาถือว่ารู้จักกัน และไม่ควรทำเกินกว่าเหตุเช่นนี้ ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน เพราะถือว่าผู้ลงมือตั้งใจ และทำเกินกว่าเหตุ
ทั้งนี้ ในอดีตสามีของตน เคยเป็นแฟนกับแม่ของผู้ก่อเหตุ หรือเจ้าของร้านจิ้มจุ่ม แต่ได้เลิกรากันมานานแล้ว โดยมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน เป็นคนโต จากนั้นฝ่ายหญิง มีสามีใหม่ และมีลูกอีก 2 คน จนกระทั่งเลิกกับสามีคนที่ 2 และมีสามีคนที่ 3 และมีลูกด้วยกันอีก เป็นผู้ชายที่ลงมือก่อเหตุในครั้งนี้
ส่วนตนมีลูกกับสามี 1 คน ตอนนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.3 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่รู้จะทำยังไงต่อไป เพราะสามี ถือว่าเป็นเสาหลักของครอบครัว ซึ่งเมื่อแขนขาดและต้องพิการ อนาคตในการทำงานจะเป็นอย่างไร ก็ยังไม่ทราบ คงต้องกลับไปปรึกษาหัวหน้าของสามีอีกครั้ง
ขณะที่ พ.ต.อ.ไพทูร พรมเขียน ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ผู้ต้องหา พร้อมกับมารดา เดินทางเข้ามาพบกับพนักงานสอบสวน พร้อมด้วยอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นทางพนักงานสอบสวน จึงได้แจ้งข้อหา ทำร้ายร่างกายได้รับอันตรายสาหัส พร้อมกับปล่อยตัวไปเป็นการชั่วคราว โดยไม่มีการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาเข้ามอบตัว
สำหรับผู้บาดเจ็บ เบื้องต้นทราบจากแพทย์ว่า ยังไม่สามารถให้การได้ เนื่องจากอาการค่อนข้างสาหัส หากผู้บาดเจ็บให้การได้ ทางตำรวจจะเข้าไปสอบปากคำทันที นอกจากนี้ยังได้ให้พนักงานสอบสวน ทำการปากคำแพทย์ที่ให้การรักษาด้วย ว่าผู้บาดเจ็บมีอาการเป็นเช่นไร อันตรายต่อชีวิตหรือไม่ ซึ่งหากแพทย์ระบุว่า บาดแผลของผู้บาดเจ็บเป็นอันตรายแก่ชีวิต ทางพนักงานสอบสวนก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป
ด้าน นายพนดล ทองปุก เจ้าหน้าที่กู้ภัย มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ทางทีมได้รับแจ้งว่า มีผู้ถูกอาวุธมีดฟัน จึงได้รีบเดินทางไปให้การช่วยเหลือ เมื่อไปถึงพบผู้บาดเจ็บนอนไม่ได้สติ โดยที่บริเวณแขนถูกของมีคมฟันจนขาดกระเด็นไปกองอยู่กลางถนน
นอกจากนี้ผู้บาดเจ็บยังมีบาดแผลที่ลำคอ และใบหูขาด ส่วนที่บริเวณศีรษะมีบาดแผลลึกถึงกะโหลก มีเลือดไหลนองไปทั่วบริเวณ โดยทางเจ้าหน้าที่พยายามเรียก แต่ผู้บาดเจ็บไม่ได้สติ ซึ่งขณะนั้นพบว่า ผู้บาดเจ็บมีอาการสาหัสมาก จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
ช่วงขณะเจอผู้บาดเจ็บ มีอาการช็อกอยู่ เพราะเสียเลือดมาก ที่ผ่านมาช่วยเหลือผู้บาดเจ็บมาเยอะ แต่ในลักษณะแขนขาดแบบนี้ เพิ่งเคยเจอเป็นเคสแรก
----------------
ร่วมเสนอชื่อ คมชัดลึก อวอร์ด ครั้งที่ 21 (18.12.2024 - 09.01.25)
- FB : คมชัดลึก อวอร์ด (komchadluek award) https://www.facebook.com/KomChadLuekAward/
- Web : คมชัดลึก (http://awards.komchadluek.net)