ข่าว

"วัชรินทร์" เผยสาเหตุเรียกสอบ "เจ๊อ้อย" เพิ่มคดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน

"วัชรินทร์" เผยสาเหตุเรียกสอบ "เจ๊อ้อย" เพิ่มคดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน

07 ม.ค. 2568

"วัชรินทร์" เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" เพิ่มคดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เเย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม พร้อมเร่งสรุปสำนวนส่ง อสส. 15 ม.ค.

7 ม.ค. 2568  นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักร พร้อมด้วยคณะทำงานอัยการเเละพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ประชุมคดีที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย เจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กับพวก ในความผิดฐาน ฉ้อโกงฯร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง 

 

โดย เจ๊อ้อย เศรษฐินี พร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือ คุณน้อย เลขานุการส่วนตัว เดินทางมาตามนัดสอบสวนเพิ่มเติม

\"วัชรินทร์\" เผยสาเหตุเรียกสอบ \"เจ๊อ้อย\" เพิ่มคดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน

นายวัชรินทร์ เปิดเผยว่า หลังจากได้ร่วมประชุมพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้ดูสำนวนแล้ว ก็ยังมีประเด็นที่จะต้องสอบถามเจ๊อ้อย ซึ่งเป็นผู้เสียหายเเละเป็นผู้เริ่มคดี เราอยากจะถามข้อเท็จจริงบางอย่างที่การสอบสวนในชั้นกองปราบยังไม่ปรากฏชัด วันนี้จึงเชิญเจ๊อ้อยพร้อมด้วยเลขานุการมาให้การเพิ่ม นอกจากนี้ก็ยังมีพยานบางปากที่ยังไม่ได้สอบสวน เราก็เรียกมาสอบสวนด้วยไม่ใช่เฉพาะเจ๊อ้อยและเลขาฯเท่านั้น ยังดูข้อเท็จจริงด้วยว่า หากพยานหลักฐานถึงใคร ก็อาจจะต้องดำเนินคดีเพิ่มเติมและในอนาคตอาจจะมีผู้ต้องหาเพิ่มด้วย

 

\"วัชรินทร์\" เผยสาเหตุเรียกสอบ \"เจ๊อ้อย\" เพิ่มคดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน

โดยคดีนี้เรามีกรอบระยะเวลาพิจารณา เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักร อำนาจการสั่งคดีเป็นของอัยการสูงสุดแต่เพียงผู้เดียว จึงกราบเรียนเสนอส่งถึงอัยการสูงสุดภายในวันที่ 15 ม.ค. ซึ่งจะทันในช่วงระยะเวลาฝากขังครั้งสุดท้าย ให้คณะทีมงานกลั่นกรองของท่านอัยการสูงสุดได้มีเวลาการกรองสำนวนก่อนส่งให้ท่านอัยการสูงสุดพิจารณาอย่างถี่ถ้วนให้ยังพอมีเวลาเผื่อ หากท่านอัยการสูงสุดมีประเด็นที่อาจจะสั่งสอบสวนเพิ่มเติมอีก
 

ในส่วนทางฝั่งผู้ต้องหาตอนนี้ที่เราเข้ามาร่วมสอบสวน ยังไม่มีการร้องขอความเป็นธรรมเพิ่มเติมเข้ามา แต่ถ้ามีร้องเข้ามาเราก็จะต้องมาดูประเด็นอีกทีว่า มีประเด็นเพียงพอที่เราจะต้องสั่งสอบสวนเพิ่มเติมตามคำร้องหรือไม่ 

 

หลังจากนี้ที่สำนักงานการสอบสวนของเราจะมีการเรียกพยานในคดีมาสอบสวนเกือบทุกวัน และอาจจะมีพยานบางปากที่อัยการจะต้องไปสอบสวนนอกสถานที่ โดยสำหรับพยานที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมจะมีทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นพยานที่เกี่ยวกับเส้นทางการเงินหรือเกี่ยวกับข้อเท็จจริงต่างๆ ที่จะเป็นประเด็นพิสูจน์ได้ว่า ผู้ต้องหามีความผิดหรือความบริสุทธิ์ ยืนยันจะสอบให้หมด ตอนนี้ที่เราทำบัญชีพยานไว้ 15 ปาก แต่ยืนยันว่าจะสอบสวนทันภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ เพราะในวันหนึ่งเราสอบหลายปาก ส่วนพยาน 15 ปากนี้มีบางปากเคยสอบสวนไปแล้วเเต่เราต้องการสอบสวนเพิ่มเติม 

 

นายวัชรินทร์ ระบุว่า ประเด็นที่เราต้องเอาให้เคลียร์เป็นประเด็นของตัวผู้เสียหายกับพยานเเวดล้อมที่เกิดขึ้น เราก็ต้องให้เคลียร์ประเด็นต่างๆ เรื่องนี้มีอยู่ 3 ประเด็น เราจะสอบสวนให้ชัดเจน ที่ต้องเชิญเจ๊อ้อยเเละเลขาฯมา ก็เป็นประเด็นสำคัญ เพราะคนเปิดคดีก็เป็นเจ๊อ้อย ซึ่งเป็นผู้เสียหายก็ต้องการที่จะสอบให้ชัดเจนขึ้นกว่าเดิมไม่ใช่เฉพาะคดี 71 ล้าน เเต่เป็นทุกคดีเพราะเป็นเรื่องเดียวกันหมดเเบ่งเป็น 3 ส่วน“รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนระบุ 


ด้าน เจ๊อ้อย กล่าวว่า ตนเดินทางกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 6 ม.ค. ที่ผ่านมา เพื่อมาให้การสอบสวนเพิ่มเติมตามที่พนักงานอัยการได้แจ้งมา วันนี้ตนไม่ได้มีหลักฐานมาเพิ่มเติม แต่มาให้ข้อมูลที่ทางพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการเห็นว่า ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเท่านั้น ตนพร้อมจะให้ความร่วมมือในการสอบสวน เพราะเชื่อมั่นในกระบวนการการสอบสวนที่มีความรัดกุมว่า จะทำให้เอาผิดกับทนายตั้มกับพวกได้ถึงที่สุด ขอยืนยันว่าตนจะดำเนินคดีถึงที่สุด ไม่มีการยอมความแน่นอน และได้มอบหมายให้ทางคุณสนธิ ลิ้มทองกุล มาช่วยดูแลในคดีนี้อย่างเต็มที่ หากจะมีการเจรจาต้องไปพูดคุยกับทางคุณสนธิเท่านั้น  
 

\"วัชรินทร์\" เผยสาเหตุเรียกสอบ \"เจ๊อ้อย\" เพิ่มคดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน