จับกุมแก๊งมิจฉาชีพ แอบอ้างนักการเมืองดัง ตุ๋นเหยื่อเทรดคริปโต
ตำรวจไซเบอร์ จับกุมแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างนักการเมืองดัง ชวนเทรดเหรียญคริปโต หลอกเหยื่อสูญเงิน 22 ล้านบาท
หลังจากมีผู้เสียหายถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกแอบอ้างตัวเองเป็นนักการเมืองดัง เพื่อความน่าเชื่อถือ และชักชวนลงทุนเทรดเหรียญคริปโตในเว็บเทรดปลอม
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 มอบหมายให้ พ.ต.อ.กฤษดา มานะวงศ์สกุล ผกก.1 บก.สอท.5 สืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิด โดยเจ้าหน้าที่ กก.2 บก.สอท.2 สืบทราบว่า หนึ่งในผู้ร่วมขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์แอบอ้างนักการเมืองดังชวนเทรดเหรียญคริปโตดังกล่าว คือ นายปรัชญา ซึ่งทำหน้าที่เปิดบัญชีม้า หลบหนีมาทำงานในจังหวัดภูเก็ต จึงได้สืบสวนเพื่อเข้าจับกุม
ต่อมาวันที่ 9 ม.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ กก.1 บก.สอท.5 พร้อมชุดสืบสวน นำกำลังจับกุมนายปรัชญา ได้ที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 ตำบลเกาะแก้ว อำเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต ตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ที่ 1026/2567 ลง 18 ธ.ค.68 และจากการตรวจสอบพบหมายจับเพิ่มเติมอีก 2 หมาย เป็นหมายจับในคดีของ สน.แสมดำ และ สภ.เมืองปทุมธานี
จากการสอบถามเบื้องต้น นายปรัชญาให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมว่าเมื่อประมาณปี 2566 ตนได้ออกจากเรือนจำมาในคดีอื่น แล้วยังหางานทำไม่ได้ ต่อมามีคนรู้จัก มาชักชวนให้ตนเปิดบัญชีธนาคารไปให้ เพื่อใช้กับเว็บพนันออนไลน์ โดยได้รับค่าตอบแทนบัญชีละ 800 บาท ตนจึงไปเปิดบัญชีให้ประมาณ 7 บัญชี หลังจากส่งมอบบัญชีไปให้กับเพื่อนแล้ว ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ, โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่คอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือ เปิดหรือยินยอมให้บุคคลใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้อง หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี”