เบื้องหลังแก๊งชาวจีน หลอกแลกเงินคริปโต 2 คดี “5 ล้าน-8 ล้าน” ตัวการคนเดียวกัน | คมชัดลึก

10 ม.ค. 2568 ความคืบหน้าเหตุชายชาวจีน ถูกเพื่อนร่วมชาติแก๊งชาวจีนหลอกแลกเงินคริปโตรวม 2 คดี ในท้องที่ สน.ห้วยขวาง คดีแรก เป็นคดีวิ่งราวทรัพย์ 5 ล้านบาท เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในซอยประชาราษฎร์บำเพ็ญ 12 แขวงและเขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ และคดีที่ 2 เป็นคดีฉ้อโกงทรัพย์ 8 ล้านบาท เหตุเกิดที่อาคารแห่งหนึ่ง ย่านพระราม 9 ท้องที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อบ่ายวันที่ 9 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา

 

 

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามเงินสดทั้ง 2 คดีกับคืนมาได้ โดยคดีวิ่งราวทรัพย์ 5 ล้านบาท มีเงินหายไป 2,000 บาท ส่วนคดีฉ้อโกงทรัพย์ 8 ล้านบาท ได้เงินกลับคืนครบทั้งหมด และอยู่ระหว่างติดตามจับกุมคนร้าย พร้อมทั้งขยายผลผู้ร่วมขบวนการนั้น

 

ล่าสุด ที่ สน.ห้วยขวาง พ.ต.อ ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง กรณีผู้เสียหายชาวจีน โดนวิ่งราวทรัพย์ 5 ล้านบาท มีคนกลางในการมานัดทั้ง 2 ฝ่ายมาแลกเงิน (คริปโต) คือ นายเฉิน แต่ผู้เสียหายเจ้าของเงิน 5 ล้านบาท ตรวจสอบพบว่าฝั่งตรงข้ามไม่ได้โอนเงินดิจิตอลมาให้ จึงเกิดการโต้เถียงกัน จากนั้นคนร้ายได้หยิบเงิน 5 ล้านบาท ขึ้นรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า อัลพาร์ด สีขาว ไป

 

 

โดยตำรวจติดตามไปยังตึกแถวเจ้าของรถยนต์ ที่ ถนนเย็นจิต แขวงทุ่งวัดดอน เขตสาทร กรุงเทพฯ และ ตรวจยึดเงินสด 5 ล้านบาทคืนมาได้ ส่วนคนร้ายหลบหนีไป ทั้งนี้พบว่าตึกแถวดังกล่าวมีกลุ่มชาวจีนเช่าไว้ 2 ปีแล้ว นอกจากนี้ ผู้เสียหาย ให้ข้อมูลด้วยว่า เคยทำธุรกรรมทำนองนี้ โดยมีนายเฉิน เป็นตัวกลางมา 3-4 ครั้งแล้ว ที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหา

 

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า นายเฉิน น่าจะเป็นผู้ก่อเหตุหลัก เพราะเป็นตัวกลางที่ทำให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอกัน และพอฝั่งหนึ่งโอนเงินคริปโต ให้ผู้เสียหาย โดยผ่านนายเฉิน แต่นายเฉินไม่ยอมโอนต่อ

 

ส่วนกรณีฉ้อโกงเงิน 8 ล้านบาทนั้น เป็นเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกัน และพบว่าคนกลางในการติดต่อให้ทั้ง 2 ฝ่ายมาเจอกัน คือ นายเฉิน เช่นกัน โดยฝั่งคนถือเงิน 8 ล้านบาท ตรวจสอบไม่การโอนเงินดิจิตอลเข้าบัญชีตนเอง จึงดึงเงินกลับ แต่ฝั่งตรงข้ามบอกว่าโอนเงินไปแล้วจริง

 

 

พฤติการณ์ ของนายเฉิน จัดเป็นตัวการ เป็นแบบเดียวกันทั้ง 2 คดี คือ เป็นตัวกลาง ดีลฝั่งคนแลกเงิน และคนรับแลกเงินมาเจอกัน พอฝ่ายใดโอนคริปโตให้นายเฉิน จากนั้นนายเฉินจะต้องโอนเงินต่อให้กับคนขอแลกเงิน แต่ปรากฏว่า ทั้ง 2 คดีนายเฉินไม่ยอมโอนเงินต่อให้กับคนขอแลกเงิน