ยิ้มได้แต่ยังไม่สุด! ท่านเปา ชี้ บอสมิน - บอสแซม ยังต้องรอชี้ขาด
บอสมิน - บอสแซม ยิ้มได้แต่ยังไม่สุด ท่านเปา เผยขั้นตอนทางกฎหมาย ยังต้องรอ “อธิบดีดีเอสไอ – อัยการสูงสุด” ชี้ขาดอีกที
10 ม.ค. 2568 เเหล่งข่าวจากจากศาลยุติธรรม ให้ความเห็นกรณีมีบุคคลออกมาโพสต์ถึงการที่ศาลอาญามีคำสั่งปล่อยตัว มิน พีชญา วัฒนามนตรี หรือ บอสมิน และ แซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ บอสแซม โดยใช้คำว่า “ขังฟรี” ว่า กรณีที่ศาลอาญามีหมายปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นไปตามข้อกฎหมายเนื่องจาก พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องคดี และอัยการยื่นคำร้องต่อศาลอาญาขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหา เนื่องจากอัยการมีความเห็นไม่ฟ้อง ศาลก็จะออกหมายปล่อยตัว ในชั้นนี้ผู้ต้องหาทั้งสองจึงถูกปล่อยตัว โดยยังไม่มีการพิจารณาคดีหรือสืบพยานในชั้นศาลว่าได้กระทำผิดหรือไม่
การปล่อยตัวกรณีดังกล่าวเกิดจากดุลพินิจในกระบวนการยุติธรรมขั้นต้น โดยอัยการสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ซึ่งขั้นตอนทางกฎหมายจะมีหลักการทางกฎหมายในการตรวจสอบเพื่อถ่วงดุลอำนาจสั่งไม่ฟ้องของอัยการ โดยอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะพนักงานสอบสวน มีอำนาจทำความเห็นเเย้ง เสนออัยการสูงสุด ให้ชี้ขาดให้ฟ้องคดี
หากอัยการสูงสุดชี้ขาดให้ฟ้องคดี ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนก็จะกลับเข้าสู่กระบวนพิจารณาของศาล และตกเป็นจำเลยเช่นเดียวกับผู้ต้องหาที่อัยการสั่งฟ้อง
คดีของผู้ต้องหาทั้ง 2 คนก็จะยังต้องขึ้นสู่การพิจารณาของศาล จึงอยากให้ใจเย็นๆ เรื่องนี้ จึงไม่ใช่การขังฟรีตามที่มีบุคคลกล่าว
ส่วนกรณีที่บุคคลดังกล่าวระบุว่า “เเม้ศาลชั้นต้นยกฟ้องแล้ว ก็ยังสั่งขังต่อไปได้ ตราบใดที่คดียังไม่ถึงที่สุด” นั้น แหล่งข่าวจากศาลยุติธรรม กล่าวว่า ตรงนี้จะใช้ในกรณีที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์เพราะเหตุสงสัย หรือที่เรียกว่ายกประโยชน์เเห่งความสงสัยให้จำเลย
หากศาลพิจารณาเเล้วเห็นว่า เเม้ยกฟ้องเพราะยกประโยชน์เเห่งความสงสัย เเต่หากปล่อยตัวจำเลยอาจเกิดความเสียหาย จำเลยมีพฤติการณ์ที่หากยกฟ้องโจทก์แล้วให้ปล่อยตัวจำเลยไป จำเลยอาจจะหลบหนี หากคดีมีการอุทธรณ์ ฎีกา กฎหมายจึงให้อำนาจศาลใช้ดุลพินิจ มีคำสั่งขังจำเลยไว้ระหว่างอุทธรณ์ ฎีกาได้ ตรงนี้กฎหมายให้อำนาจไว้ ไม่ใช่การขังฟรี