ไขปม! กระดูกปริศนาข้างทาง หนุ่มโผล่เผยพี่ชายหายสาบสูญนาน 3 เดือน
เร่งไขปม! กระดูกปริศนาข้างทาง หนุ่มโผล่เผยพี่ชายหายสาบสูญนาน 3 เดือน เชื่อถูกอุ้มฆ่าหลัง พยายามติดต่อแต่หาไม่เจอ จนท.เร่งตรวจ DNA ยืนยัน
ความคืบกรณี พบโครงกระดูกมนุษย์ ถูกยัดอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ถูกวางทิ้งในร่องน้ำข้างถนน บริเวณถนนสายห้วยใหญ่ ก่อนถึงแยกถนนสาย 331 ( ฉะเชิงเทรา - สัตหีบ ) ประมาณ 1 กม. หมู่ 6 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี
มีความคืบหน้าล่าสุด ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ มีการชันสูตรร่วมกับทีมแพทย์โรงพยาบาลวัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร ในเบื้องต้นพบว่าโครงกระดูกค่อนข้างจะครบทุกส่วน โดยไม่มีส่วนไหนได้รับความเสียหาย โดยอายุของโครงกระดูกที่พบมีอายุประมาณ 3 เดือน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต้องมีการตรวจสอบดีเอ็นเอและอัตลักษณ์บุคคล เพื่อหาว่าโครงกระดูกคือใคร หลังจากที่พบโครงกระดูกประมาณ 3 ชั่วโมง ต่อมาเวลา 21.30 น. ( 11 ม.ค.68 ) ได้มีครอบครัวหนึ่ง เดินทางมาจาก ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี มายังบริเวณจุดที่พบโครงกระดูกในกระเป๋า
โดยมี นายสุรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 37 ปี ให้ข้อมูลว่า พี่ชายแท้ๆ นายสิริศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี หายสาบสูญไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา รวมเป็นเวลาเกือบ 3 เดือนเต็ม และได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.สัตหีบ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 2567 ที่ผ่านมา นายสุรศักดิ์ เล่าว่า พี่ชาย มีอาชีพเป็นช่างทาสี ได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย และไม่สามารถติดต่อได้ โดยพยายามออกตามหาแต่ก็ยังไม่เจอ และยิ่งไปกว่านั้น เคยมีคนโทรไปบอกพี่เขย ประมาณว่า พี่ชายไปเสียชีวิตที่ต่างจังหวัด ก็รู้สึกแปลกใจ พยายามตามหาก็ไม่เจอ
จนกระทั่งเห็นบนโลกโซเชียล มีการไลฟ์สด เจอโครงมนุษย์ในกระเป๋าเดินทาง จึงรีบเดินทางมาดู นายสุรศักดิ์ ยังเล่าต่ออีกว่า พี่ชาย เป็นคนรูปร่างผอม จนเนื้อหุ้มกระดูก สูงประมาณ 170 ซม. และเป็นคนชอบดื่มเหล้าขาว ส่วนสาเหตุที่พี่ชายหายไปไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด พยายามติดต่อก็ติดต่อไม่ได้ ส่วนตัวเชื่อว่าพี่ชายถูกฆาตกรรม ก็ไม่แน่ใจว่าโครงกระดูกจะใช่ร่างของพี่ชายหรือไม่? ในเบื้องต้น ตำรวจได้เชิญตัว นายสุรศักดิ์ ไปให้ข้อมูลที่โรงพัก สภ.ห้วยใหญ่ แต่ในระหว่างที่กำลังสอบถามข้อมูล ตำรวจมีการประสานสอบถามไปยังนายจ้าง และเพื่อนร่วมงาน ได้รับการยืนยันว่า เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน มีคนเห็น นายสิริศักดิ์ ที่มีการแจ้งบุคคลสูญหาย ขี่รถจักรยานยนต์อยู่แถวย่านกิโล 10 อำเภอสัตหีบ ซึ่งทางญาติๆ ขอกลับไปตรวจสอบอีกครั้งนึงก่อน ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่? และจะกลับมาให้ข้อมูลกับตำรวจอีกครั้ง