ข่าว

“จ่าเอ็ม” เครียดหนักขอบุหรี่ทั้งคืน ไม่ขอเจอหน้าแม่ ปัดตอบข้อมูลคนบงการ-ชี้เป้า

“จ่าเอ็ม” เครียดหนักขอบุหรี่ทั้งคืน ไม่ขอเจอหน้าแม่ ปัดตอบข้อมูลคนบงการ-ชี้เป้า

12 ม.ค. 2568

สอบเค้น “จ่าเอ็ม” พบเครียดหนักปัดตอบข้อมูล คนบงการ – คนชี้เป้า ยังไม่พร้อมเจอหน้าแม่ ลั่นจะไม่ยื่นประกันตัว

12 ม.ค. 2568 ความคืบหน้าคดีสังหาร นายลิม กิมยา อดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา และนักเคลื่อนไหวทางการเมืองประเทศกัมพูชา กลางกรุง เมื่อเย็นวันที่ 7 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา ต่อมาตำรวจออกหมายจับ นายเอกลักษณ์ หรือ จ่าเอ็ม อายุ 41 ปี อดีตทหารเรือ โดยจ่าเอ็มหลบหนีไปที่ประเทศกัมพูชา จึงมีการประสานกับทางการกัมพูชา กระทั่งมีการจับกุมจ่าเอ็ม และถูกส่งตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทยเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2568 นั้น

 

ล่าสุด วันนี้ เวลา 07.00 น. ที่ สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม สั่งการให้ พ.ต.ท.เอกภณ พุทธิกุล รองผกก.ป.สน.ชนะสงคราม จัดกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปราบปรามรักษาความปลอดภัยผู้ต้องหาอย่างเข้างวด ไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหรือบุคคลภายนอกขึ้นไปบริเวณชั้น 2 ห้องควบคุมผู้ต้องหาของโรงพัก ที่ควบคุมจ่าเอ็มอยู่

 

ทั้งนี้ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลห้องควบคุมขังทราบว่า จ่าเอ็มมีอาการเคร่งเครียดขอบุหรี่สูบแทบทั้งคืน ผู้ต้องหากินอาหารพอได้และนอนหลับได้บ้าง  

 

“จ่าเอ็ม” เครียดหนักขอบุหรี่ทั้งคืน ไม่ขอเจอหน้าแม่ ปัดตอบข้อมูลคนบงการ-ชี้เป้า

 

โดยบริเวณหน้าห้องควบคุมผู้ต้องหามีเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวนเฝ้าบริเวณหน้าห้องตลอดทั้งคืน และมีการจัดหาผ้าห่มให้จ่าเอ็ม เนื่องจากกลางคืนอากาศเย็นมาก เจ้าหน้าที่คอยสังเกตผ่านกล้องวงจรปิดตลอดเวลา ผู้ต้องหาไม่มีทีท่าจะทำร้ายตัวเอง สามารถนอนหลับได้ ตอนเช้าเจ้าหน้าที่นำโจ๊กให้กินเจ้าตัวกินได้เป็นปกติ

 

นอกจากนี้จ่าเอ็ม แจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยว่า ไม่พร้อมที่จะเจอแม่และญาติ เพราะไม่อยากให้แม่ต้องเสียใจร้องไห้ และเมื่อรู้ว่าแม่ตามหาถึงที่ จ.สระแก้ว จ่าเอ็มมีอาการเครียดอย่างมาก

ตอนค่ำวันที่ 11 ม.ค. 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจให้จ่าเอ็ม พูดคุยกับแม่ทางโทรศัพท์ จ่าเอ็มบอกกับแม่ว่า ตอนนี้ยังไม่พร้อมที่จะเจอแม่ และสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป พร้อมจะรับโทษ รวมทั้งจ่าเอ็มแจ้งกับทนายความด้วยว่า จะไม่ยื่นประกันตัว พร้อมที่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ

 

“จ่าเอ็ม” เครียดหนักขอบุหรี่ทั้งคืน ไม่ขอเจอหน้าแม่ ปัดตอบข้อมูลคนบงการ-ชี้เป้า

 

ด้าน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนสอบปากคำจ่าเอ็ม เมื่อคืนที่ผ่านมา ผู้ต้องหามีท่าทีเคร่งเครียด แต่ให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี และแจงรายละเอียดพฤติการณ์สามารถทำคำรับสารภาพประกอบวิดีโอที่เล่าในทางคดีได้ครบถ้วน

 

จ่าเอ็ม ยืนยันว่าเป็นบุคคลตามกล้องวงจรปิดที่จับภาพได้ทั้งหมด แต่เมื่อสอบปากคำเชิงลึกถึงข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลอื่น เช่น ผู้มีพระคุณหรือบุคคลผู้ชี้เป้า ผู้ต้องหาไม่ให้การที่เป็นประโยชน์ประเด็นดังกล่าว ไม่ยอมตอบคำถามและต้องการสูบบุหรี่ แม้ว่าชุดคลี่คลายคดีพยายามที่จะใช้หลักจิตวิทยาพูดคุย ผู้ต้องหาปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลในเชิงลึก บางครั้งมีอาการสับสนมึนงงว่า ทำอะไรลงไป และมีท่าทีวิตกกังวลกลัวว่า บุคคลอื่นถ้าให้การถึงนั้นเขาจะเดือดร้อน

 

“จ่าเอ็ม” เครียดหนักขอบุหรี่ทั้งคืน ไม่ขอเจอหน้าแม่ ปัดตอบข้อมูลคนบงการ-ชี้เป้า

 

โดย พนักงานสวนต้องประเมินอาการร่วมกับทนายความและแพทย์ ลงความเห็นว่า จ่าเอ็มยังมีอาการอ่อนเพลีย อิดโรย และเคร่งเครียด เนื่องจากภาวะพักผ่อนน้อย มีสภาวะที่ยังไม่พร้อมให้ปากคำ ทางพนักงานสอบสวนจึงหยุดการสอบปากคำตอนเวลา 22.00 น. เมื่อคืนวันที่ 11 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา จากนั้นนำตัวไปควบคุมที่ห้องควบคุมผู้ต้องขัง

 

ขณะที่ เวลา 12.00 น. พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. เข้าประชุมติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดี จ่าเอ็ม และร่วมสอบปากคำ