รวบ "ชาคิต" คนพา "จ่าเอ็ม" ส่งชายแดนหนีข้ามไปกัมพูชาสำเร็จ
ตำรวจจับกุม "ชาคิต" คนขับกระบะพา "จ่าเอ็ม" หนีข้ามแดนไปกัมพูชา สืบพบติดต่อกันก่อนลงมือเพียง 4 ชม. ปฏิเสธไม่รู้ไปก่อเหตุมา
ความคืบหน้า “จ่าเอ็ม” นายเอกลักษณ์ แพน้อย บุกยิงนายลิม กิมยา อดีต ส.ส.ฝ่ายค้านกัมพูชา เสียชีวิต ล่าสุดชุดสืบนครบาล และ ตำรวจ สน.ชนะสงคราม ร่วมกันจับกุมตัว นายชาคิต หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี ชาวจันทบุรี คนขับรถพา "จ่าเอ็ม" หลบหนีข้ามพรมแดน
โดยพล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. สั่งการขยายผลรวบเพิ่ม ผู้สนับสนุนจ่าเอ็ม หลังจากที่มีการสืบสวนสอบสวนขยายผลการจับกุม “จ่าเอ็ม” อย่างละเอียดจนวินาทีสุดท้ายก่อนส่งตัวฝากขังต่อศาล ขณะที่พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พบพยานหลักฐานถึง “ผู้สนับสนุน” รายหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุ และยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 23.45 น.
จากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต บัวปลี หรือ “ชำนาญ” อายุ 47 ปี พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม นำชุดพนักงานสอบสวนขอหมายจับต่อศาลอาญาในทันที และชุดสืบนครบาลออกติดตามตัว โดยสืบทราบว่า นายชาคิตหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ จ.ชลบุรี
กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ของเมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) พล.ต.ต.ธีรเดช นำกำลังชุดสืบนครบาลเข้าจับกุมตัว นายชาคิตได้ที่บริเวณหน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี โดยขณะจับกุมชุดจับกุมพบรถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทาหมายเลขทะเบียน 3ขก 83XX กรุงเทพฯ จอดอยู่บริเวณหน้าที่กบดาล ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่ามีตำหนิรูปพรรณตรงกับภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่จ่าเอ็มกำลังหลบหนีข้ามชายแดนด้วยช่องทางธรรมชาติ
จากการสอบปากคำ นายชาคิต ยอมรับว่า เป็นรถที่ใช้ขับพาจ่าเอ็มไปที่ชายแดนในวันเกิดเหตุจริง และชายเสื้อเขียวในภาพจากกล้องวงจรปิดก็คือตัวเองจริงๆ และจากการขยายผลพบข้อมูลในโทรศัพท์ของนายชาคิต พบว่ามีการติดต่อสื่อสารกับจ่าเอ็มตั้งแต่เวลา 13.54 น. ซึ่งเป็นเวลาเกือบ 4 ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุ ชุดสืบนครบาลจึงทำการจับกุมตัวตามหมายจับ
ในชั้นจับกุม นายชาคิตฯ ให้การ “ภาคเสธ” โดยให้การว่า ตนเองรู้จักกับจ่าเอ็มมาได้ประมาณ 2 ปี ตั้งแต่สมัยที่จ่าเอ็มยังรับราชการอยู่ ตนเองทำอาชีพขับรถรับจ้าง โดยจะรับผู้โดยสารไปๆมาๆ ส่งระหว่างชายแดน เขาดิน , บ้านแหลม และ ผักกาด โดยคดีนี้ตนเองยอมรับว่าเป็นคนไปส่งจ่าเอ็มจริง และชายเสื้อเขียวที่เห็นในภาพกล้องวงจรปิดก็คือตนเองจริง ส่วนรถกระบะคันที่ขับไปส่งนั้น ตนได้ยืมมาจากพวกละแวกบ้าน ส่วนที่จ่าเอ็มไปก่อคดีมานั้นตนเองไม่ทราบ
ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ในวันเกิดเหตุหลังยิงนายลิม คิมยา ตนเป็นคนรับจ่าเอ็มจาก จ.ชลบุรี ไปส่งที่ด่านชายแดนจ.สระแก้ว นายชาคิตอ้างว่าเข้าใจว่าจ่าเอ็มไปรับตำแหน่งใหม่ และนัดกินสุรากับเพื่อน
เมื่อถามว่านายชาคริตรู้หรือไม่ว่าจ่าเอ็มหลบหนีจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวว่า ไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากอยู่ในสำนวนคดี พนักงานสอบสวนกำลังสืบสวนสอบสวนขยายผลอยู่ ทาง ผบช.น. สั่งการให้ขยายผลให้ถึงที่สุด และการติดตามจับกุมนายชาคิต เนื่องจากมีหลักฐานภาพกล้องวงจรปิดพบรถกระบะที่ขับผ่านด่านชายแดน จ.สระแก้ว เป็นที่รู้กันดีว่าช่วงเวลากลางคืนนั้นก็ไม่สามารถที่จะออกนอกพรมแดนได้ ถ้าไปบริเวณจุดข้ามแดนช่องทางธรรมชาติ แนวโน้มเป็นการส่งคนข้ามแดนไปผิดกฎหมายอยู่แล้ว
ต่อมาเวลา 10.15 น. ที่สน.ชนะสงคราม ชุดสืบสวนบก.สส.บช.น. นำตัวนายชาคิตมาส่งพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งข้อหาและสอบปากคำอีกครั้ง ก่อนที่ชาวงบ่ายจะส่งศาลอาญาฝากขังผัดแรก เนื่องจากผู้ต้องหาให้ภาคเสธ ไม่มีประโยชน์ควบคุมตัวไว้สอบปากคำ พร้อมคัดค้านการประกันตัวเกรงว่าผู้ต้องหาหลบหนีและไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน