คำพูด "บิ๊กโจ๊ก" ขอความเป็นธรรม หลัง ปปง. แจ้งเอาผิดฐานฟอกเงิน
"บิ๊กโจ๊ก-เมีย" ย่องเข้าพบตำรวจรับทราบข้อกล่าวหาฐานฟอกเงิน พร้อมขอความเป็นธรรมกับ ผกก.สน.บางรัก ถูกดำเนินคดีซ้ำซ้อน
กรณีสำนักงานป้องกันและปราบปราบการฟอกเงิน (ปปง) แจ้งความเอาผิด พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. และนางศิรินัดดา หักพาล ภรรยา ในความผิดฐานฟอกเงิน หลังตรวจสอบพบว่า กรมธรรม์ประกันชีวิต บริษัทแห่งหนึ่งของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ และ นางศิรินัดดา จำนวน 8 กรมธรรม์ มีการโอนเงินจากบัญชีเงินฝากธนาคาร (บัญชีม้า) ซึ่งเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ มาชำระค่างวดเบี้ยประกันชีวิตของบุคคลทั้งสองบางส่วน รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 1,793,649 บาท
เมื่อวานนี้ (13 ม.ค.) ช่วงค่ำประมาณ 21.30 น. มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ และ ภรรยา พร้อมด้วยทนายความ แอบเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.บางรัก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา โดยทั้งคู่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ขอยื่นคำให้การภายใน 30 วัน ตำรวจไม่ได้ควบคุมตัว เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาแสดงตัวพบเจ้าพนักงานก่อนออกหมายเรียกหรือหมายจับ ก่อนทั้งคู่หลบผู้สื่อข่าวที่มาดักรอออกไป
นอกจากนี้มีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ พล.ต.อสุรเชชษฐ์ เข้าพบ พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.บางรักและพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ได้บอกว่า ขอความเป็นธรรมให้ตนเองด้วย ยืนยันว่า คดีนี้ ป.ป.ช. ดำเนินคดีกับตนไปแล้ว ไม่ทราบว่า ทำไม ปปง. จะต้องดำเนินคดีด้วย เพราะตนชี้แจงให้ทราบแล้ว รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น
ส่วนสาเหตุที่ ปปง. เดินทางแจ้งความเอาผิดนั้น เนื่องจากพบว่า ห้วงเดือน เม.ย.67 พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์และภรรยาเวนคืนกรมธรรม์ประกันชีวิตทั้งหมดก่อนถอนเป็นเงินสดไป เป็นการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด เพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อนขณะหรือหลังการกระทำความผิดมิให้ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้งการจำหน่าย การโอน การได้สิทธิใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้น สำนักงาน ปปง. จึงดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษ