ข่าว

ชาวโปแลนด์ ตีก้นสาว แต่กลับอ้างเหตุสุดอึ้ง สืบนครบาลสุดจะทน บุกรวบคาคอนโด

ชาวโปแลนด์ ตีก้นสาว แต่กลับอ้างเหตุสุดอึ้ง สืบนครบาลสุดจะทน บุกรวบคาคอนโด

15 ม.ค. 2568

สืบนครบาล จับชาวโปแลนด์คาคอนโด ใช้มือตีก้นหญิงสาวขณะอยู่ในร้านสะดวกซื้อ ออกหมายเรียกไม่ยอมมา กลับอ้างเหตุผลสุดอึ้ง (มีคลิป)

สืบนครบาลจับกุมนายปิโอเตอร์ (ขอสงวนนามสกุล) (MR.PIOTR) อายุ 31 ปี สัญชาติ โปแลนด์ หลังก่อเหตุภายในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งย่านสาทร 

 

โดยผู้เสียหายเป็นผู้หญิง เธอกำลังเลือกซื้อสินค้าภายในร้านสะดวกซื้ออยู่ จากนั้นผู้ต้องหาเดินมาตีก้นเธออย่างแรง เธอตกใจ จึงหันมองว่าเป็นใคร ในใจคิดว่าเป็นเพื่อนที่รู้จักมาแกล้งเธอเล่น แต่เมื่อมองไปกลับเป็นชายชาวต่างชาติที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อน ขณะนั้นเธอหันไปดูรอบๆ เห็นลูกค้าคนอื่นๆ และพนักงานร้านสะดวกซื้อยืนจ้องมาที่เธอ 

ทำให้เธอรู้สึกถูกดูหมิ่นเหยียดหยามว่า เธอเป็นผู้หญิงไร้ค่า จึงรีบเดินออกจากร้านสะดวกซื้อไปด้วยความอับอาย จากนั้นเธอได้ปรึกษาคนรู้จักจนทราบว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิด จึงเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่เธอไม่ได้ต้องการสิ่งใด นอกจากคำว่า “ขอโทษ” จากผู้ต้องหา 

ชาวโปแลนด์ ตีก้นสาว แต่กลับอ้างเหตุสุดอึ้ง สืบนครบาลสุดจะทน บุกรวบคาคอนโด

 

พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ จึงออกหมายเรียกผู้ต้องหาคนดังกล่าวและแจ้งผ่านเอเจ้นท์ที่ผู้ต้องหาเช่าห้องอยู่ เพื่อให้ชี้แจงและไกล่เกลี่ยให้ผู้ต้องหามาขอโทษเธอตามที่ต้องการ แต่ผู้ต้องหาไม่มา กลับบอกผ่านเอเจ้นท์ว่า “ตนเองไม่ได้ตีแรง และเคยทำแบบนี้มาแล้วหลายครั้ง ตอนไปเที่ยวสถานบันเทิง ไม่เห็นจะมีใครว่าอะไร และคิดว่าตนเองไม่ได้กระทำความผิด การกระทำแค่นี้กฎหมายไม่สามารถเอาผิดอะไรได้ เดี๋ยวตนเองก็บินกลับต่างประเทศแล้ว” 

 

ด้วยคำพูดของผู้ต้องหาที่ไม่ได้สำนึกกับการทำผิด คิดว่าจะทำแบบนี้กับใครก็ได้ ประกอบกับความอับอายที่เธอรู้สึก จึงแจ้งความประสงค์จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหา พนักงานสอบสวนหญิง สน.ทุ่งมหาเมฆ เข้าใจในหัวอกความเป็นผู้หญิงด้วยกัน จะไม่ยอมให้ใครมารังแก ดูหมิ่นศักดิ์ศรีของผู้หญิง จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับผู้ต้องหา 

ชาวโปแลนด์ ตีก้นสาว แต่กลับอ้างเหตุสุดอึ้ง สืบนครบาลสุดจะทน บุกรวบคาคอนโด

 

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาลได้รับประสานให้ช่วยจับกุมตัวผู้ต้องหา จึงสืบสวนและเดินทางไปที่คอนโดแห่งหนึ่งย่านสาทรที่ผู้ต้องหาพักอยู่ จึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นผู้กองโชแปงได้แสดงหมายจับและแจ้งสิทธิผู้ต้องหาเป็นภาษาอังกฤษให้ทราบ จนผู้ต้องหาเข้าใจ จึงควบคุมตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาไม่ขอให้การเกี่ยวกับคดี แต่ยอมรับว่าบุคคลตามภาพกล้องวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดูเป็นตนเองที่เดินไปตีก้นผู้หญิงตามภาพจริง เคยตีก้นลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้งตามสถานบันเทิง แต่ครั้งนี้ที่ไม่ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจตามหมายเรียกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย และไม่ผิดกฎหมาย

 

ด้านพล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ประเทศไทย เป็นเมืองท่องเที่ยว ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกทุกคนที่เข้ามาท่องเที่ยว แต่เมื่อเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยแล้ว ต้องเคารพกฎระเบียบระเบียบบ้านเมือง จารีตประเพณี วัฒนธรรมไทย และกฎหมายของประเทศไทย เพื่อให้คนไทยและนักท่องเที่ยวอยู่รวมกันได้อย่างปลอดภัย การกระทำของผู้ต้องหาถือเป็น การกระทำอนาจารลักษณะหนึ่ง ที่กฎหมายบัญญัติว่าเป็นความผิด มีอัตราโทษสูงสุดถึง 10 ปี ซึ่งไม่ว่าผู้กระทำจะเป็นชาติใด หากกระทำผิดในประเทศไทย ก็จะต้องถูกลงโทษตามกฎหมายไทย หากผู้ใดเคยตกเป็นเหยื่อของผู้ต้องหารายนี้ สามารถแจ้งเบาะแสมาได้ที่เพจ สืบนครบาล IDMB เราจะมีการขยายผลให้ถึงที่สุด แม้ว่าจะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.และ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.

 

เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหา “กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น เกิดต่อหน้าธารกำนัล