มีเงื่อนงำ? ผู้ใหญ่ใหม่ป้ายแดง ดับปริศนาหลังเพิ่งรับตำแหน่งไม่ถึงเดือน | คมชัดลึก

22 ม.ค. 2568 เวลา 23.50 น.   ร.ต.อ.สิริชัย สีนิล รองสารวัตรสอบสวน สภ.แสวงหา ได้รับแจ้งเหตุ มีผู้เสียชีวิตที่บริเวณริมรั้ว หน้าบ้านเลขที่ 70 หมู่ที่ 10 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง หลังได้รับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรีบรุดไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กิตติ สกุณี รรท.ผบก.ภ.จว.อ่างทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลแสวงหา และเจ้าหน้าที่อาสามูลนิธิร่วมกตัญญู 

ในที่เกิดเหตุบริเวณประตูรั้วหน้าบ้านหลังดังกล่าว พบผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมา นายสามารถ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านป้ายแดง หมู่ที่ 10 ต.แสวงหา ที่เพิ่งได้รับเลือกตั้งมาไม่ถึงหนึ่งเดือน สภาพศพนอนคว่ำหน้าเสียชีวิต มีเลือดไหลนองออกมาบริเวณใบหน้า ส่วนบริเวณปลายเท้าพบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกมีกระสุนค้างอยู่ในรังเพลิง จำนวน 1 นัด และบนถนนหน้าบ้านห่างจากศพผู้เสียชีวิตประมาณ 8 เมตร พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ จำนวน 4 ปลอก 
 

เบื้องต้นเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งดื่มสุรากันแล้วแยกย้ายกันกลับ ต่อมาได้ยินเสียงปืนแล้วจึงออกมาดู ก็พบผู้เสียชีวิตนอนจมกองเลือด จากการสอบถาม นางสาวคารมณ์ (สงวนนามสกุล) ภรรยา วัย 50 ปี เล่าให้ฟังว่า สามีเคยเป็นอดีตสมาชิกสภาเทศบาล และเพิ่งได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้านมายังไม่ถึงเดือน เมื่อคืนได้ไปดื่มสุรากับทางญาติ กลับมาบ้านเข้านอนได้ประมาณ 1 ชั่วโมง จนมาได้ยินเสียงหมาเห่าบริเวณหน้าบ้าน จึงหยิบปืนเดินออกไปดูคนเดียว 

สักครู่ได้ยินปืนดังขึ้นมาประมาณ 4 นัด จึงออกมาดูพบว่าสามีนอนคว่ำหน้า เสียชีวิตอยู่บริเวณหน้าประตูรั้วบ้าน เบื้องต้นจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในบ้าน พบว่าช่วงดังกล่าวนั้นมีจักรยานขับขี่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ส่วนทางผู้เสียชีวิตนั้น กล้องวงจรปิดจับภาพได้เพียงบริเวณขาของผู้เสียชีวิต 

ตรวจสอบเบื้องต้นนั้นภายในร่างกายของ นายสามารถ ไม่พบร่องรอยคมกระสุนปืน มีเพียงบริเวณใบหน้าที่มีบาดแผลและมีเลือดไหลออกมาทางปาก ด้าน พล.ต.ต.กิตติ สกุณี รรท.ผบก.ภ.จว.อ่างทอง กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่พบบาดแผลจากกระสุนปืนในร่างของผู้เสียชีวิต มีเพียงบริเวณแผลที่บริเวณใบหน้า แต่อย่างไรก็ตามยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไปได้  พร้อมสั่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดชืบสวน ติดตามหาภาพจากกล้องวงจรปิดและหาพยานหลักฐาน เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต พร้อมนำศพไปส่งสถาบันนิติเวช กระทรวงยุติธรรม เพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริงตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป