ข่าว

"ติ๊ก ชีโร่" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

"ติ๊ก ชีโร่" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

23 ม.ค. 2568

ครอบครัว "ติ๊ก ชีโร่" แถลงชี้แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อถูกชน ยืนยันพยายามไกล่เกลี่ยตัวเลข แต่ไม่ลงตัวอีกฝ่ายเรียก 24 ล้าน เตรียมขายที่ดิน เปิดราคาที่พร้อมจ่าย ทนายเผยคืบหน้าคดี ไม่กล้าก้าวล่วงศาล "รู้อยู่กฏหมายเมืองไทย ค่าของคนมันไม่เท่ากัน"

23 ม.ค. 2568 นายมนัสวิน นันทเสน หรือ "ติ๊ก ชิโร่" ศิลปินชื่อดัง แถลงเปิดใจคดี เมาแล้วขับรถชนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไปเมื่อช่วงปลายปี 2567 ที่ผ่านมา ทำให้ น.ส.เทียนพร หรือ เมจิ ศิวพรพิทักษ์ อายุ 28 ปี เสียชีวิตในวันที่เกิดเหตุ  ส่วนนายจักรภัคร หรือ จูเนียร์ ศิวพรพิทักษ์ อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปี 2 บาดเจ็บสาหัส และต่อมาเสียชีวิตในวันที่ 18 ม.ค. ที่ผ่านมา

ติ๊ก ชิโร่ ระบุว่า "การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นการพูดคุยเพื่อชี้แจงความเป็นจริง ไม่ใช่เป็นการแก้ต่าง หรือแก้ตัว ครั้งนั้นเป็นอุบัติเหตุที่ไม่มีใครที่อยากจะให้เกิดขึ้น ทั้ง 2 ครอบครัวรู้สึกสูญเสียทั้งร่างกาย และจิตใจ ถ้าตนเลือกได้คงไม่อยากให้เรื่องนี้เกิดขึ้นมา มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะต้านทานได้ แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วเราต้องยอมรับความเป็นจริง และหาทางในการแก้ไขเยียวยา และหาหนทางที่จะให้สองครอบครัวดำรงชีวิตต่อไปได้ และก้าวเดินต่อไป"

 

"ทั้งนี้รู้สึกสูญเสียอย่างมาก แม้ผ่านวิกฤตสถานการณ์มาต่างๆอายุของตนและหน้าที่การงานอาชีพของตน อาจจะไม่ใช่เป็นช่วงเวลาที่จะสามารถบันดาลทุกสิ่งทุกอย่างให้ไปตามความรู้สึกของเราได้ แต่ในวิกฤตก็จะมีบางสิ่งบางอย่างที่สวยงามเสมอ ก็เหมือนกับดอกไม้ที่เกิดขึ้น ท่ามกลางซากปรักหักพังของทั้งจิตใจ มีหลายครั้งที่ไม่สามารถที่จะทนได้ แต่บางครั้งก็เหมือนน้ำฝนชโลมจิตใจ จึงขอขอบคุณพ่อแม่ผู้เสียชีวิต ที่ 2 ครอบครัวพยายามเอาใจใส่ซึ่งกัน และหาแนวทางออก พร้อมเห็นอกเห็นใจกัน"

 

\"ติ๊ก ชีโร่\" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

 

 

ส่วนการร่วมงานศพ น้องจูเนียร์ เมื่อวานนี้ ตนได้เจอ น.ส.จิณห์นิภา อายุ 24 ปี  (ลูกสาวคนกลางที่รอดชีวิต)

"ตนได้เดินเข้าไปและจับมือพร้อมบอกกับน้องว่าให้เข้มแข็ง เราจะอยู่เคียงข้างกันเสมอ ก่อนที่จะรีบปล่อยมือออก เพราะตนจะไม่สามารถกลั้นน้ำตา ซึ่งหลายคนอาจจะเห็นว่าตนมีท่าทีที่เข้มแข็ง แต่จิตใจของตนนั้นแตกสลาย"

 

 

ส่วนการเยียวยา ติ๊ก ชีโร่ ยืนยัน จะมีการพูดคุยกับครอบครัวผู้เสียชีวิต รวมถึงจะมีการแต่งเพลงให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งหากปล่อยเพลงออกไปแล้ว มีรายได้เข้ามา ก็จะนำเงินทุกบาททุกสตางค์ มอบให้กับทางครอบครัว เพื่อเป็นการเยียวยาอีกทาง 

 

\"ติ๊ก ชีโร่\" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

 


ด้าน น.ส.เอ๋ (สงวนชื่อ-สกุล) น้องสาวภรรยาติ๊ก ชิโร่ เล่าว่า "หลังจากเกิดเหตุขึ้น ทางคุณติ๊กได้ให้ข้อมูลกับตำรวจไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเหตุการณ์เป็นอย่างไรบ้าง และไม่เคยกลับคำให้การสักครั้ง พร้อมกับนำหลักฐานกล้องหน้ารถส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และที่มีการยื่นหนังสือรับรองขอความเป็นธรรมไปตามที่เป็นข่าว เป็นเพียงการขอให้สอบพยานเพิ่มเติมที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดี"

 

 

ในส่วนการเจรจาความเสียหาย ที่คุณพ่อของผู้เสียชีวิตออกมาบอกว่า คุณติ๊กไม่เคยไปเจรจานั้น

"ในวันแรกที่เกิดเหตุ ตัวคุณติ๊กเข้าโรงพยาบาล เพื่อตรวจร่างกาย ตนจึงเป็นคนประสานงานให้ตั้งแต่วันแรก และทราบว่าในวันเกิดเหตุมีผู้เสียชีวิตหนึ่งคนคือ น้องเมจิ ทางครอบครัวตนจึงจ่ายให้ไป 100,000 บาท และเมื่อคุณติ๊กออกจากโรงพยาบาลได้ ก็ไปงานรดน้ำศพและสวดอภิธรรมงานศพของน้องเมจิทุกวัน เมื่องานเสร็จสิ้นทางเราก็รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการทำพิธีศพให้กับตัวคุณพ่อผู้เสียชีวิตไปอีก 75,530 บาท" 

 

 

หลังจากนั้นทางฝั่งคุณติ๊กและครอบครัวผู้เสียชีวิตก็มีการนัดเจรจากันครั้งแรกที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งในวันที่ 22 ต.ค.2567 โดยมีผู้ใหญ่ร่วมรับฟังด้วย

"ซึ่งวันดังกล่าวก็ยังหาข้อสรุปการเยียวยาไม่ได้ เนื่องจากน้องจูเนียร์ยังอยู่ในห้องไอซียู จึงไม่สามารถรับรู้ได้ว่าค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ หลังจากนั้นคุณติ๊กและคุณพ่อของผู้เสียชีวิตก็มีการแลกช่องทางติดต่อกัน และมีการติดต่อกันอยู่ตลอด"

 

\"ติ๊ก ชีโร่\" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

 

 

ต่อมาทางฝั่งคุณติ๊กก็มีการนัดเจรจากับครอบครัวผู้เสียชีวิตอีกครั้งที่บ้านของคุณติ๊ก

"ซึ่งวันนั้นทางครอบครัวผู้เสียชีวิตมีการเสนอขอค่าเยียวยา 9 ล้านบาท แต่ในวันดังกล่าวยังมีการพูดไม่ชัดเจนว่า 9 ล้าน คือ แค่น้องเมจิคนเดียวหรือไม่ โดยตนมาทราบภายหลังว่า 9 ล้านบาท คือ ค่าเยียวยาของน้องเมจิคนเดียว ส่วนน้องจูเนียร์ ทางคุณติ๊กก็มีการไปเยี่ยมน้องและซื้อของที่จำเป็นและมีการถามไถ่อาการอยู่ตลอด"

 

\"ติ๊ก ชีโร่\" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

 

 

ต่อมาก็มีการนัดหมายอีกครั้งที่ สน.คันนายาว ในวันที่ 29 ต.ค. ตนจึงเข้าไปเจรจาแทนคุณติ๊ก โดยระหว่างพูดคุยกันก็มีการประสานกับประกันภัย

"ในวันนั้นบริษัทประกันยินยอมจ่ายให้จำนวน 500,000 บาท ซึ่งทางประกันภัยแจ้งว่าวงเงินที่จะจ่ายเยียวยา สำหรับคนเจ็บและผู้เสียชีวิตนั้นสูงสุดคนละ 1 ล้านบาท แต่หากทางคุณติ๊กเป็นฝ่ายผิด ก็จะจ่ายเพิ่มอีกคนละ 500,000 บาท ทำให้ญาติเข้าใจผิดว่า ทางเราจะเยียวยาเพียงแค่ 3 ล้านบาท"

 

 

ทางญาติของผู้เสียชีวิตจึงเดินมาบอกว่า

"หากขับรถชนลูกสาวของติ๊กบ้าง แล้ววางเงินให้ 3 ล้านบาทได้หรือไม่" "ตนรู้สึกว่าคำพูดนี้แทงใจ และคิดว่าการเจรจาไม่ควรพูดกันแบบนี้"

 

\"ติ๊ก ชีโร่\" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

 

 

ซึ่งระหว่างนั้นที่น้องจูเนียร์ได้ทำการรักษาพยาบาล ทางคุณพ่อของน้องก็ได้มีการติดต่อมาทางพี่ติ๊กให้ช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในส่วนนี้

"คุณติ๊กยินยอมจ่ายไปตลอดสามเดือนที่เกิดขึ้น โดยจ่ายไป 420,000 บาท ซึ่งหากรวมกับเงินที่บริษัทประกันภัยจ่ายไปแล้ว 500,000 บาท ก็จะอยู่ที่ 920,000 บาท ในส่วนนี้จะมองว่าเป็นเงินเยียวยาหรือไม่ก็สุดแล้วแต่จะพิจารณา นอกจากนี้ในส่วนของ พ.ร.บ.รถยนต์ ได้แจ้งว่าจะไม่สามารถจ่ายเงินให้ก่อนได้ เนื่องจากคดียังไม่สิ้นสุด"

 

 

หลังจากนั้นตนจึงมีการปรึกษาหารือกันภายในครอบครัว และคิดว่าจะนำทรัพย์สินที่ดินใน จ.นครราชสีมา 1 แปลง ออกมาขาย โดยราคาที่ดินขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะโฉนดอยู่ในตู้เซฟ แต่ขณะนั้นพี่สาวหรือภรรยาของคุณติ๊กเป็นผู้เก็บไว้ แต่พี่สาวอยู่ต่างประเทศ คาดว่าราคาจะอยู่ที่ 4-5 ล้านบาท โดยจะนำมาขาย หากขายไม่ได้ก็ยินดีจะโอนให้ครอบครัวผู้เสียชีวิต และค่าใช้จ่ายทั้งหมดฝั่งคุณติ๊กจะเป็นผู้ออก

 

 

กระทั่งวันที่ 13 ม.ค. 2568 ที่เป็นการเจรจากันครั้งสุดท้ายในชั้นของสถานีตำรวจ มีผู้กำกับการ สน.คันนายาว มานั่งร่วมเจรจาด้วย

"ทางฝั่งครอบครัวผู้เสียชีวิตเสนอตัวเลขค่าเยียวยาของน้องจูเนียร์ 18 ล้านบาท และของน้องเมจิ 6 ล้านบาท รวมเป็น 24 ล้านบาท ซึ่งตัวเลขดังกล่าว ฝ่ายตนมองว่ายังไม่สามารถที่จะให้ได้ เนื่องจากยอดเงินสูงและกระชั้นชิดหาให้ไม่ทัน จะต้องมีการปรึกษากับทางครอบครัวก่อน ทำใหิการเจรจานี้ยังไม่ถึงสิ้นสุด แต่ยืนยันว่า ขณะนี้ทางครอบครัวของพี่ติ๊กสามารถเยียวยาทั้ง 2 ชีวิตได้ในวงเงิน 4-5 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขฐานล่าง เพื่อที่จะนำไปเจรจากับตัวเลข 24 ล้านบาทที่อีกฝ่ายเสนอมา เพื่อหาตัวเลขที่ตกลงกันได้ ในอนาคตยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเยียวยาได้สูงสุดเท่าไร"

 

\"ติ๊ก ชีโร่\" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

 


ส่วนความคืบหน้าคดี นายกันตเมธส์ จโนภาส ทนายความ กล่าวว่า "ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจในชั้นสอบสวนที่ต้องเรียกคุณติ๊ก ไปแจ้งข้อกล่าวหาใหม่ เนื่องจากมีผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นข้อหาเมาแล้วขับ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต้องรอจนกว่าจะถึงการสรุปสำนวน เราไม่ขอก้าวล่วง แต่เมื่อทราบผลคดีหรือการสรุปสำนวนของพนักงานสอบสวน และส่งสำนวนให้พนักงานอัยการเป็นอย่างไรนั้น เราก็จะดำเนินการร้องขอความเป็นธรรม เพื่อขอให้ทำคดีให้ออกมาถูกต้องตามความเป็นจริงของกฏหมาย เพื่อรักษาสิทธิ์ของเราเอง"

 

 

ซึ่งในส่วนคลิปหน้ารถที่เราไม่ได้นำมาเปิดเผยเพราะว่าอยู่ในสำนวนของพนักงานสอบสวน และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคุณติ๊กรับสารภาพ และไม่เคยปฏิเสธว่าตัวเองไม่ได้กระทำความผิด

"แต่เรามองว่า เหตุการณ์นี้ เป็นความผิดที่เกิดจากฝ่ายคุณติ๊กฝ่ายเดียวหรือไม่ ซึ่งคงต้องรอผลจากพนักงานสอบสวนก่อน และทางทนายความได้ทำหนังสือไปที่พนักงานสอบสวน เพื่อให้สรุปสำนวนคดีส่งอัยการเป็นไปตามข้อกฎหมาย และขณะนี้ยังไม่ได้มีการนัดวันเคลียร์ค่าเยียวยาอีกครั้ง ต้องรอพนักงานสอบสวนเรียกตัวไปแก้ไขสำนวนแล้วแจ้งข้อกล่าวหาใหม่อีกครั้ง ยืนยันทางคุณติ๊กพร้อมเจรจา หากเจรจาแล้วไม่ได้ผลก็จะเจรจาใหม่"

 

 

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ถ้าครอบครัวไม่ยอมรับในตัวเลขของการเจรจา ทนายความ กล่าวว่า

"ก็เป็นสิทธิ์ของครอบครัว เมื่อคดีขึ้นสู่กระบวนการศาล ศาลก็มีกระบวนการไกล่เกลี่ย ส่วนถ้าไปในชั้นศาลคิดว่าจะเจรจาได้ไหมตัวเลข 20 ล้านหรือไม่ ตนเองไม่ขอก้าวล่วงอำนาจศาล เพราะต้องมีการมาพิจารณาหลายองค์ประกอบ ทั้งการประกอบอาชีพ การเลี้ยงดูบุพการี"
 

"ต้องเข้าใจกฎหมายของประเทศไทยด้วยว่า  ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ค่าของคนมันไม่เท่ากัน ทั้งที่เรารู้ว่าชีวิตเดียวเท่ากัน ตรงนี้น่าจะเข้าใจตรงกัน" 

 

\"ติ๊ก ชีโร่\" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?

 

 


อย่างไรก็ตาม ติ๊ก ชิโร่ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ปกติแล้วเป็นคนที่ระมัดระวังเรื่องกฏจราจรเป็นอย่างมาก ขนาดพาสุนัขไปเดินเล่น ก็จะใส่หมวกกันน็อคทุกครั้ง หรือ ขับขี่รถจักรยานยนต์ก็จะใส่หมวกกันน็อกเสมอ หลายครั้งที่ตนเห็นเยาวชนไม่ใส่หมวกกันน็อค ก็จะเข้าไปเตือนตลอด เพราะชีวิตมีค่า ซึ่งที่ผ่านมาเคยใช้บริการเรียกคนมาขับรถให้ แต่ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตของตนในช่วงวัย 63 ย่าง 64 ที่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงขนาดนี้ แต่ตนก็ไม่ได้ขอให้สังคมให้อภัย" ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุ ปกติแล้วตนเป็นคนที่มีนิสัยเฮฮา แต่หลังเกิดเหตุจะต้องระมัดระวัง เพราะจะกลายเป็นข้อครหาของสังคม"

 


ติ๊ก ชิโร่ ย้ำถึงการเยียวยา น้องจูเนียร์ ก่อนเสียชีวิต ว่า "ตนได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลและได้ฝากฝังให้เจ้าหน้าที่ดูแลน้องจูเนียร์ แต่น้องจูเนียร์จะต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน ซึ่งทางครอบครัวไม่มีที่สำหรับดูแลน้องจูเนียร์ จึงได้ส่งไปที่ศูนย์ผู้ป่วยติดเตียงที่ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเดือนละ 50,000 บาท เดือนแรกตนจ่าย 50,000 บาท เดือนที่สองจ่ายไป 100,000 บาท ซึ่งไม่มีใครคิดว่าน้องจะเสียชีวิต"

\"ติ๊ก ชีโร่\" ใจสลาย แจงปมไร้เยียวยา 2 เหยื่อ 24 ล้าน ค่าของคนไม่เท่ากัน?