ข่าว

ปาราชิก! พระ เมาแอ๋ซิ่งเก๋งแหกโค้งชนห้องน้ำ อ้าง ซดเหล้าขาวกับยาลม เป็นยา

ปาราชิก! พระ เมาแอ๋ซิ่งเก๋งแหกโค้งชนห้องน้ำ อ้าง ซดเหล้าขาวกับยาลม เป็นยา

25 ม.ค. 2568

จับศึก พระเมาแอ๋ ซิ่งเก๋งแหกโค้งพุ่งชนห้องน้ำชาวบ้านพังยับ เป่าแอลกอฮอล์พุ่งสูงปี๊ด อ้าง ซดเหล้าขาวกับยาลม เป็นยารักษาวิตกกังวล

24 ม.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากผู้ที่เสียหาย คือนายธนวัตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี หมู่ที่ 7 บ้านกลางเขา ตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ว่ามีพระรูปหนึ่งซิ่งรถยนต์ ไม่ทราบยี่ห้อเนื่องจากรถนั้นสภาพเก่ามากพุ่งเข้าชนห้องน้ำที่บ้านของตัวเองและจากนั้นได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบจึงทราบชื่อว่า พระสมภาร นากธฺมโม เป็นพระลูกวัดที่วัดหนองพังค่า ตำบลหนองพังค่า อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี 

 

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวนสาเหตุว่าทำไมขับรถไวขนาดนี้เพราะเป็นถนนในหมู่บ้าน ทางพระสมภาร นากธฺมโม หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยช่วยกันนำตัวออกจากรถยนต์คันดังกล่าวมีกลิ่นสุราคละคลุ้งไปหมดแถมพูดจาไม่รู้เรื่องด้วยความเมามาย 

 

แต่หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พยายามสอบถามจึงทราบว่าได้ขับรถออกจากวัดหนองพังค่าเพื่อมาชักชวนพระวัดกลางเขา บ้านกลางเขา หมูที่ 7 ตำบลดอนขวาง อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานีชักชวนเพราะที่เป็นเพื่อนกันดื่มยาลมผสมสุราขาว และหลังจากดื่มเสร็จแล้วก็ขับรถเพื่อจะกลับวัดแต่ด้วยทางที่มีโค้งเยอะจึงพลาด พุ่งเข้าชนห้องน้ำของนายธนวัตร จนรั้วบ้านพังและทะลุห้องน้ำจนเป็นรูพังยับเยิน 

จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นได้ทำการปราชิกหรือศึกออกจากการเป็นพระที่วัดกลางเขาโดยทันที และดำเนินคดีเมาแล้วขับ และทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหายและนำตัวไปดำเนินคดีที่สถานีตำรวจภูธรเมืองอุทัยธานี โดยทางนายธนวัตร(ขอสงวนนามสกุล) นั้นขอให้ซ่อมแซมห้องน้ำให้ในราคา 20,000 บาท โดยประมาณ ส่วนพระสมภารอาการเมาพูดจาไม่รู้เรื่องหรือลิ้นพันกันโดยทางตรวจได้ตรวจวัดแอลกอฮอลวัดได้ถึง 160 มิลลิกรัม และจากการสอบถามจึงรู้ว่าได้มีพระอีกรูปหนึ่งที่นั่งร่วมวงด้วยคือพระสุเทพ สมัครการไถ อายุ 65 ปี บวชมา 3 พรรษาแล้ว จึงได้นิมนต์พระสุเทพมาสอบถาม 

 

ทางพระสุเทพเปิดเผยว่า ทางพระพระสมภาร นากธฺมโม นั้นขับรถยนต์มาที่วัดแล้วก็ชักชวนกันดื่มยาลมผสมกับสุราขาวโดยอ้างว่าเป็นยาตั้งแต่หัวค่ำแล้ว โดยใส่ขวดเครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อหนึ่ง ซี่งตั้งอยู่หน้ากุฎิของพระสุเทพ โดยมีเครื่องดื่มตั้งไว้ที่โต๊ะอยู่หนึ่งขวดแต่ที่โคนกระถางต้นไม้ไกล้กับโต๊ะนั้นมีขวดเครื่องดื่มชูกับลังที่ข้างในใส่สุราผสมยาลมจนหมดแล้วก็ทิ้งไว้อยู่ประมาณ 7-8 ขวด 

 

จากนั้นทางพระพระสมภาร ก็กลับไปวัดแต่ก็ยังไม่ถึงวัดไปพุ่งชนห้องน้ำชาวบ้านเสียก่อนจึงถูกจับศึกดังที่กล่าวมา โดยจากการสอบถามพระสุเทพบอกว่า ที่ดื่มนั้นเป็นยาทั้งนั้น แต่ก็ต้องมีส่วนผสมของสุราขาวเพื่อเป็นยา และตัวเองนั้นต้องฉันเพื่อรักษาตัวเอง เพราะเป็นโรควิตกกังวน หรือเป็นโรคจิตเวชที่รักษาอยู่

ทางด้านของชาวบ้านที่ได้มาดูเหตุการณ์นั้นต่างต่อว่าที่ทำให้วัดเสื่อมชื่อเสียง และชักชวนพระวัดอื่นมาดื่มด้วยอีก ซี่งทางพระพระสุเทพบอกว่า ไม่เคยชวนพระพระสมภาร นากธฺมโม เป็นพระลูกวัดที่วัดหนองพังค่ามาเลยแต่เขาขับรถมาเองก็เลยชักชวนกันดื่ม แต่ชาวบ้านนั้นไม่เชื่อและบอกว่าเห็นหลายครั้งแล้วก็ไม่อยากจะพูดเพราะเกรงว่าวัดนั้นจะเสื่อมเสีย 

 

จากนั้นทางตำรวจได้ตรวจวัดแอลกอฮอลพระสุเทพโดยใช้เครื่องเป่าพบว่ามีปริมาณที่วัดได้ 75 มิลลิกรัม ทางพระสุเทพนั้นทนกดดันจากชาวบ้านที่มามุงไม่ไหวจึงลั่นวาจาออกมาว่าถ้าแบบนี้ก็จะศึกจะได้หมดปัญหากันไปพอได้ยินพระสุเทพพูดแบบนั้นทางชาวบ้านขอให้ทางตำรวจนั้นนำตัวพระสุเทพไปศึกที่วัดคลองหินพัฒนศิริวนาราม ตำบลหนองพังค่า อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี กับพระครูภาวนาสันติธรรม เจ้าอาวาสวัด ซึ่งเป็นพระอุปชาที่บวชให้นั่นเองและศึกจากการเป็นพระโดยทันที โดยไม่มีทางคดีติดตัวเพราะเพียงแค่เอาและผิดกฎของสงค์ดื่มสุราในวัดเท่านั้นแต่ชาวบ้านนั้นมีความรู้สึกว่าโล่งใจมากเพราะไม่อยากให้พระที่มีพฤติกรรมแบบนี้มาอยู่ในวัดหลางเขาเลยด้วยซ้ำไป