เปิดวิธี แก๊งตำรวจนอกรีต อุ้ม 7 คนจีนเรียกค่าไถ่ 2 ล้าน
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เผย วิธีแก๊งตำรวจนอกรีต อุ้ม 7 คนจีน ใช้แอปฯแปลภาษขู่เรียกเงิน แลกปล่อยตัว ขณะที่ ผบ.ตร. สั่งเด็ดขาดดำเนินคดีทั้งอาญาและวินัย
ความคืบหน้าเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายความมั่นคง 5 คน พลเรือน 3 รวม 8 คน ก่อเหตุอุ้ม 7 ชายชาวจีน พร้อมกักขังเรียกค่าไถ่ จำนวน 2 ล้านบาท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ได้รับการประสานจากหน่วยข่าวให้เข้าช่วยเหลือชาวจีน
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร ได้รับแจ้งจากบุคคลชาวลาวผ่านทางแอปพิเคชั่นเฟซบุ๊กว่า มีกลุ่มบุคคลชาวต่างชาติ (ชาวจีน) ถูกกลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว และควบคุมตัวเอาไว้บนรถยนต์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ม.ค. 2568 โดยเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการปล่อยตัวชาวต่างชาติทั้งหมด และถูกนำมาควบคุมตัวเอาไว้ภายในห้องพักรีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พิบูลมังสาหาร จึงได้ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง วางแผนเข้าช่วยเหลือเหยื่อชาวจีนได้ทั้ง 7 ราย และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 8 ราย ประกอบด้วย ร.ต.ต.ประทีปฯ รอง สว.(สส.) กก.3 บก.ส.2 , ด.ต.ธีระพงษ์ฯ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ส.2 , จ.ส.ต.จักรกาวุธฯ ผบ.หมู่ กก.ตชด.12 , จ.ส.ต.ธีรวัฒน์ฯ ผบ.หมู่ กก.3 บก.ส.2 , จ.ส.อ.สุมนัสฯ สังกัดกรมทหารพรานที่ 23 , นายอนุวงค์ฯ , นายกฤษรินทร์ฯ และ นายอ่าว จอ มิน สัญชาติเมียนมา พร้อมของกลางยานพาหนะรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ 4 คัน
เบื้องต้นสอบสวนทราบว่า เจ้าหน้าที่ที่ก่อเหตุได้ควบคุมตัวผู้เสียหายทั้งหมดขึ้นรถ แล้วใช้แอปพลิเคชั่นแปลภาษา พูดข่มขู่เรียกเงินจากผู้เสียหาย 5,000,000 บาท แลกกับการปล่อยตัว ภายหลังได้ต่อรองเหลือคนละ 500,000 บาท ก่อนที่ผู้เสียหายจะติดต่อเพื่อนชาวจีนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อนำเงินมาไถ่ตัวจำนวน 3,000,000 บาท และแอบเก็บโทรศัพท์ไว้ เพื่อติดต่อและส่งตำแหน่งให้เพื่อนชาวจีนแจ้งตำรวจชุดจับกุมเข้าช่วยเหลือ
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการเด็ดขาดให้ พล.ต.ต.ปฏิยุทธ สิงห์สมโรจน์ ผบก.กค.ภ.3 รรท.ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการช่วยเหลือ พร้อมขยายผลไปยังตัวการว่ามีผู้ร่วมกระทำผิดอื่นอีกหรือไม่ เนื่องจากคดีนี้มีตำรวจร่วมกระทำผิดหลายหน่วย ได้แก่ ตำรวจสันติบาล 3 นาย และตำรวตระเวนชายแดน 1 นาย ได้เร่งให้ทางหน่วยรายงานพฤติการณ์ พร้อมความเห็นการให้ออกจากราชการ เสนอสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อสั่งการต่อไป
ทั้งนี้การจับกุมดังกล่าวถือเป็นหนึ่งใน 7 มาตรการแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวลักลอบหลบหนีเข้าเมือง ถูกหลอกลวงหรือประกอบธุรกิจผิดกฎหมาย และอาชญากรรมข้ามชาติ โดยหากเจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยว พัวพัน รู้เห็นเป็นใจ หรือแม้กระทั่งเพิกเฉย ปล่อยปละละเลยไม่ใส่ใจในการทำหน้าที่ จะต้องถูกพิจารณาทางปกครอง วินัย และอาญา อย่างเด็ดขาดทุกราย สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเอาจริงเอาจังเรื่องนี้ทุกมิติ ได้กำชับหน่วยให้คุมเข้ม 7 มาตรการให้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว