เดือดร้อนหนัก "ดาราเด็ก" สูดควันจากเผาอ้อย เลือดกำเดาไหลไม่หยุด | คมชัดลึก

จากกรณี Facebook ชื่อว่า ปลาทู อัญญาริณ โพสต์ข้อความว่า "เผาอีกแล้วตอนนี้เลยสงสารลูกมากแต่ละวัน แค่ฝุ่นก็หนักแล้ว #เผาอ้อยบ้านบึง และมีคลิปวิดีโอไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ป่าอ้อยอย่างรุนแรงมีทั้งควันและเศษซากสร่างอ้อยลอยคุ้งในอากาศ และมีรูปเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบนั่งใช้กระดาษทิชชูกำลังซับเลือดกำเดาที่ไหล ออกจากจมูกจำนวนมาก" 

หลังเรื่องราวดังกล่าวโพสต์ลงบนโซเชียล จนทำเอาชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และแห่แชร์เรื่องราวออกไปเป็นจำนวนมาก ต่อมาวันที่ 11 ก.พ. เวลา 22.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งใน อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี พบกับ น.ส.ปองอายุ 32 ปี และ น้องปลาทู หรือเด็กหญิง อัญญาริณ นักแสดงเด็กและนางแบบโฆษณาสินค้าชื่อดังหลายรายการ 

น้องปลาทู เล่าว่า ช่วงนี้เจ็บจมูกบ่อยและมีเลือดกำเดาไหลบ่อยมาก สาเหตุเพราะโดนควันและฝุ่นเยอะ จึงทำให้โลกภูมิแพ้กำเริบบ่อย

จากการสอบถามนางสาวปอง แม่ของน้องปลาทู เปิดเผยว่า หมู่บ้านที่ตนอยู่มีการเผาอ้อยที่อยู่รอบๆเป็นประจำและทุกวัน ซึ่งคนในหมู่บ้านก็จะแจ้งใน LINE กลุ่มว่า มีการจุดเผาอ้อย ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบกันทั้งหมด แต่ครอบครัวของตนก็จะหนักหน่อย เพราะลูกสาวเป็นโรคภูมิแพ้และมีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เมื่อสูดควันและฝุ่นจำนวนมาก ก็ทำให้โลกกำเริบกำเดาไหล ช่วงนี้มีการเผาอ้อยทุกวัน ควันก็เข้ามาในบ้านจนแสบคอและจมูกหากมีการสูดดมเป็นจำนวนมาก ขณะตนติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้และเปิดตลอด ยังเอาไม่อยู่ ตอนกลางคืนสูดดมกลิ่นควันจากการเผาอ้อย เพราะตอนเช้าก็มีหิมะดำหรือเศษซางอ้อยกระจายเต็มทั่วหน้าบ้าน ตนต้องตื่นเช้ามาฉีดน้ำล้างออกและกวาดเป็นประจำ 
 

ซึ่งได้รับผลกระทบมาแบบนี้นานแล้ว ตนก็อยากฝากถึงผู้ประกอบการไร่อ้อย หากเป็นไปได้อยากขอความร่วมมือเข้าใจว่า ไร่อ้อยมาก่อนหมู่บ้าน ซึ่งหมู่บ้านมาสร้างทีหลัง แต่ในเมื่อมีหมู่บ้านขึ้นมาแล้ว ก็อยากให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ เช่น ใช้การตัดสดจะดีกว่าการเผา เพราะไม่สร้างมลพิษและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนอีกด้วย จะได้พึ่งพาอาศัยกัน อยู่ร่วมกันได้ด้วยดี ซึ่งลูกของตนว่างจาก งาน เรียน ก็รับงานถ่ายโฆษณาและแสดงหนังและภาพยนตร์ หากปล่อยมากก็มีผลกระทบต่องานก็จะมีการขาดรายได้ที่น้องรับงาน เมื่อก่อนจะเคยกินแต่ยา ระยะหลังมาต้องใช้เครื่องพ่นแล้ว เพราะอาการกำเริบหนัก ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังไร่อ้อยที่อยู่ข้างหมู่บ้านพบเจ้าหน้าที่ดับเพลิง มีทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ระดมกำลังเข้ามาฉีดน้ำดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ภายในไร่อ้อยที่อยู่ข้างหมู่บ้านอย่างรุนแรงพื้นที่กว่า 50 ไร่โดยประมาณ 

จากการสอบถามชาวบ้านที่ยืนอยู่บนบ้าน บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ได้รับผลกระทบเป็นประจำทุกวันและเดือดร้อนมาก เนื่องจากมีการเผาอ้อยอยู่รอบๆ ทุกวันมีทั้งควันที่เข้ามาในบ้าน ทำให้แสบคอและจมูก จากการสูดดมควัน พอเช้ามาก็ต้องมาเจอเศษซากสร้างอ้อยที่ถูกไฟไหม้แล้ว รอยโค้งกระจายเข้ามาในหมู่บ้าน มาติดเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ อยากฝากถึงผู้ประกอบการไร่อ้อย อยากให้มีการแก้ไขพฤติกรรมเก็บเกี่ยวจากการเผาให้เป็นตัดสดจะดีกว่า อีกทั้งอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยากให้ไปประชาสัมพันธ์หรือเอาผิดกับเจ้าของไร่อ้อย หากมีการเผาเพราะทางจังหวัดชลบุรีมีการประกาศเอาจริงแล้ว หากมีการเผาต้องมีการจับติดคุก อยากให้กฎหมายไทยเอาจริงจังและเข้มแข็งกว่านี้ เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างและเป็นบทเรียนให้คนเห็นจะได้ไม่กล้าทำแบบนี้อีก