ข่าว

ผู้ประกอบการท่าข้ามฯ มอง "ไทย" บีบเค้น "เมียนมา" มากไป เสี่ยงเสียโอกาสการค้า

ผู้ประกอบการท่าข้ามฯ มอง "ไทย" บีบเค้น "เมียนมา" มากไป เสี่ยงเสียโอกาสการค้า

17 ก.พ. 2568

ผู้ประกอบการท่าข้ามฯ ยอมรับ นักธุรกิจจีนสั่งซื้อกระเบื้องจริง แต่ไม่รู้เอื้อแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ มองไทยบีบเค้นเมียนมามากไป เสี่ยงเสียโอกาสการค้า

17 ก.พ. 2568 คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร นำโดย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธาน กมธ. ลงพื้นที่ตรวจสอบท่าข้ามสินค้าหมายเลข34 (ท่าศาลเจ้า) บจก.ห้าแยกกรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นท่าข้ามเอกชนขนาดใหญ่ที่สุดใน อ.แม่สอด จ.ตาก และเป็น 1 ใน 3 ท่าที่มีศักยภาพในการส่งน้ำมันเชื้อเพลิงผ่านสายส่ง

 

โดยนายอุดม สุขสด กรรมการผู้จัดการบริษัท ห้าแยกกรุ๊ป จำกัด ผู้ประกอบการท่าข้ามศาลเจ้าที่ 34 กล่าวว่า สินค้าที่ส่งข้ามแดนจากฝั่งไทยไปฝั่งเมียนมา 95% เป็นสินค้าที่มาจากประเทศจีนบรรจุในตู้คอนเทรนเนอร์ ซึ่งส่วนของบริษัทตนเองขายสินค้าได้แค่ปูนซีเมนต์กับเหล็กเส้น คิดเป็นมูลค่า 1% ของการค้าขาย เพราะกลุ่มทุนจีนที่ทำถูกกฎหมายไม่ได้ซื้อสินค้ามาจากไทยเลย ไม่ว่าจะเป็น น้ำดื่ม หรือ กระเบื้อง แต่อาจจะมีบริษัทนักลงทุนจีนบางบริษัทที่สั่งซื้อสินค้า กระเบื้อง จากเรา เพื่อไปทำอาคาร 5 หลัง 10 หลัง แต่ตนเองไม่ทราบว่าตรงไหนจะเอาไปใช้ในขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เพราะหน้าที่ของตนเองคือทำธุรกิจ เสียภาษีให้ประเทศชาติอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
 

ผู้ประกอบการท่าข้ามฯ มอง \"ไทย\" บีบเค้น \"เมียนมา\" มากไป เสี่ยงเสียโอกาสการค้า

 

ดังนั้น รัฐบาลควรมาดูตามท่าต่างๆ เพราะทุกวันนี้สินค้าที่มาจากจีนบรรจุในตู้คอนเทรนเนอร์ผ่านแดนไปเท่าไร รัฐบาลควรต้องมีมาตรการอะไรบ้างมาดูแล เพื่อให้ผู้ประกอบการภายในประเทศอยู่ได้ จึงอยากเรียกร้องเท่านี้

    
นายอุดม ยืนยันว่า สินค้าวัสดุก่อสร้างที่ขายและส่งไปเมืองชเวก๊กโก ส่วนใหญ่ลูกค้าจะเป็นกระเหรี่ยง เนื่องจากจีนอาจจะเช่าพื้นที่กระเหรี่ยง แล้วมาซื้อวัสดุก่อสร้าง ทำโรงแรม ทำที่พักคนงาน และส่วนใหญ่ที่มาติดต่อซื้อวัสดุก่อสร้างจะเป็นนายหน้าคนเมียนมา ซื้อและนัดหมายจุดส่งของ ลูกค้าชาวจีนก็จะเป็นบริษัทที่อยู่ในกรุงเทพมหานคร ที่มาทำงานก่อสร้างที่เมียวดี ซึ่งเป็นบริษัทที่ถูกต้อง แต่อยู่ผิดที่

ส่วนธุรกิจสีเทาในเมืองชเวโก๊กโก่ หากเข้าไปดูจริงๆจะพบว่า จะมีเพียง 1-2% ที่พวกธุรกิจสีเทาแฝงตามอาคารตึกต่างๆ ไม่ใช่ทั้งหมดของเมือง หากรัฐบาลไทยจะแก้ปัญหา ควรเช็ตสัญญาณอินเตอร์เน็ตและไฟฟ้าแต่ละจุด จุดไหนมีการใช้ปริมาณมากให้ตัดเป็นจุดๆ ไม่ใช่ตัดทั้งหมด

 

นายอุดม อยากให้รัฐบาลไทยผูกสัมพันธ์ ขอความร่วมมือกับฝั่งเมียนมา มองว่า รัฐบาลไทยไม่ควรบีบเค้นมากไป ให้เขาได้ทำธุรกิจอื่นเป็นคู่ขนานแม่น้ำเมยไป เพราะจะเปรียบเสมือน "โคลนในมือ" บีบมากก็เล็ดลอดออกจากมือ

 

ผู้ประกอบการท่าข้ามฯ มอง \"ไทย\" บีบเค้น \"เมียนมา\" มากไป เสี่ยงเสียโอกาสการค้า

ผู้ประกอบการท่าข้ามฯ มอง \"ไทย\" บีบเค้น \"เมียนมา\" มากไป เสี่ยงเสียโอกาสการค้า

ผู้ประกอบการท่าข้ามฯ มอง \"ไทย\" บีบเค้น \"เมียนมา\" มากไป เสี่ยงเสียโอกาสการค้า