
6 มี.ค. รู้เรื่อง? บอร์ดดีเอสไอพิจารณาคดี "ฮั้ว สว." รอคุย กกต. ก่อน
บอร์ดดีเอสไอเลื่อนพิจารณารับคดี "ฮั้ว สว." เป็นคดีพิเศษ ยืนยัน 6 มี.ค. รู้เรื่อง ขอรอคุย กกต. ก่อนให้ทำคดีทั้งหมดเองหรือไม่ลั่นเสร็จทันก่อนครบวาระ สว.67
25 ก.พ. 2568 ภายหลังการประชุมกรรมการบอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รมว.กลาโหม และในฐานะประธานกรรมการฯ โดยมีวาระสำคัญพิจารณารับคดีฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษหรือไม่
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า วันนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม นำเรื่องที่จะตรวจสอบประเด็นเรื่องสมาชิกวุฒิสภาในกระบวนการคัดสรรที่มีคำถามหรือตั้งคำถามจากสาธารณชน ซึ่งทางดีเอสไอได้รับเรื่องจากผู้มาร้องเรียนและได้ทำเรื่องประสานงานชี้แจงให้ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า จะดำเนินการอย่างไรบ้าง
ซึ่ง กกต. ส่งเรื่องมายังดีเอสไอ ขอให้รับไปดำเนินการ แต่ว่ามันเป็นการส่งมาในระดับเลขาฯ ไม่ใช่คณะกรรมการโดยตรง ดังนั้น ตอนที่เรารับเรื่องมา เราก็ไม่ได้ดูรายละเอียด นอกจากนี้เมื่อเขาขอให้เราดำเนินการ เราก็ดำเนินการ หลังจากเรามีการสืบสวนสอบสวนแล้ว คดีน่าจะมีมูล มีรูปธรรมความผิดที่คิดว่าน่าจะสืบสวนสอบสวนให้แน่ชัดให้เป็นที่ประจักษ์
หลังจากดำเนินการต่อเนื่องแล้วนั้น ได้ส่งเรื่องกลับไปยัง กกต. ว่า เราดำเนินการแบบนี้ ซึ่งทางสำนักเลขาธิการ กกต. ของนายแสวง บุญมี ก็แจ้งใหม่ว่า ทางเรายังไม่ได้รับเรื่อง ทั้งที่ตอนแรกมีการทำหนังสือมาให้เราได้พิจารณา และปกติเท่าที่ดูทาง กกต. จะรับเฉพาะคดีเลือกตั้ง ส่วนเรื่องคดีอาญา กกต. จะไม่ได้ดำเนินการ
หลังเสร็จสิ้นการประชุมครั้งนี้ ค่อนข้างมีความเห็นหลากหลายและเต็มที่ในการพิจารณาและอภิปรายในมุมต่างๆ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชม. แล้วก็คุยกัน ตนคิดว่าภายในที่ประชุมหลังจากได้รับฟังแล้ว ส่วนใหญ่เห็นว่า คดีนี้น่าจะมีเรื่องเกี่ยวข้องในทางอาญาในความผิดที่มีการระบุไว้ เกี่ยวกับฐานฟอกเงินและอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำเข้าข่ายข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ แต่มันก็ยังมีปัญหาที่เป็นข้อถกเถียงและอยากให้รอบคอบ คือมีเรื่องคดีเลือกตั้ง ซึ่งทาง กกต. ยังไม่แจ้งชัดนัก เพราะเป็นการแจ้งมายังฝ่ายเลขาธิการฯ และบอกเราว่า ยังไม่มีมติตรงนี้ ฉะนั้นจึงคิดว่าต้องมีการพูดคุยให้ชัดเจนมากขึ้น เพื่อให้เสร็จสิ้นข้อสงสัยไม่ต้องมีปัญหาที่จะมาชี้ว่ากระบวนการเป็นอย่างไร อีกประการ คือ คนที่แจ้งเรามาเป็นระดับเพียงเลขาธิการฯ ไม่ใช่ตัวแทนคณะกรรมการโดยตรง เราก็เกรงว่ามันอาจจะไม่รอบคอบและมีปัญหาได้ ที่ประชุมจึงขอให้ไปดำเนินการให้ครบถ้วน
ทั้งนี้ทาง พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการฯ พิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน ที่ต้องเข้าพิจารณา จึงได้มีเสียงโต้แย้งบางส่วนบอกว่ามันไม่ผ่านกระบวนการที่มีคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ซึ่งทางฝ่าย พ.ต.ต.ยุทธยา ชี้แจงแล้วว่าในฐานะกรรมการและในฐานะที่เป็นเลขานุการฯ ทางดีเอสไอก็มีอำนาจที่จะทำได้ตามมติ
นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เรื่องนี้มีความไม่ชัดเจนหลายเรื่องและเป็นคดีใหญ่ เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของประเทศ เป็นที่จับตาของพี่น้องประชาชนที่รู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้ รวมกับความเห็นต่างๆ จากผลโพล เราอยากทำเรื่องนี้ให้ชัดเจนโปร่งใสครบถ้วนและรวดเร็ว จึงมีมติให้ดำเนินการเอาเรื่องนี้ถอนไปให้คณะอนุกรรมการของดีเอสไอดำเนินการให้ครบถ้วนตามขั้นตอน จึงขอเวลา 1 อาทิตย์ เพื่อไม่ให้สังคมมองว่าเราเป็นการยืดเยื้อหรือไม่อยากทำ เพราะเราได้คุยกันตั้งแต่ต้นแล้วว่า จะทำเรื่องนี้โดยไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามา และไม่เป็นความรู้สึกดีหรือไม่ดีต่อกัน เราทำตามข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย
ในข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงอยากทำให้ครบถ้วน ทำให้ทุกท่านสบายใจ จึงเป็นเรื่องที่มอบไปยังคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง ให้ไปถามให้ถูกต้องตามกระบวนการ เพื่อให้จับสาระในประเด็นข้อโต้แย้งได้
ส่วนประเด็นที่ 2 คือ ประธาน กกต. ระบุว่าจะกลับมาวันที่ 5 มี.ค. ก็จะขอคุยด้วย อยากปรึกษา และหลังจากรับฟังครบถ้วนแล้ว เราจะใช้เวทีทั้งหมดในการประชุมอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค. รวมถึงจะมีการเชิญประธานกกต. หรือผู้แทน กกต. ที่มีอำนาจมาร่วมประชุมด้วย ซึ่งวันนั้นจะได้มีข้อยุติสิ้นสุด
นอกจากนี้ส่วนใหญ่แล้ว ตนในฐานะประธานกรรมการได้ฟังคดีเกี่ยวกับอั้งยี่ซ่องโจรหรือคดีอาญา มันเป็นอำนาจที่เราทำได้อยู่แล้ว ก็คิดว่าตรงนี้ไม่น่ามีปัญหา ส่วนคดีเลือกตั้งก็ให้เกิดความชัดเจนว่า กกต.จะทำหรือไม่ทำ เพราะที่ผ่านมาเท่าที่ทราบมีการถามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง คือ กกต. ทำเฉพาะเรื่องกฎหมายการเลือกตั้งเท่านั้น แต่กฎหมายอาญาที่เกี่ยวข้อง กกต. ยังไม่ได้ทำให้ครบถ้วน เราจึงต้องถามให้ชัดเจนว่า ท่านจะเอาเรื่องที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ของท่านไปทำ หรือท่านจะให้เราทำในคดีเลือกตั้งด้วยถือว่ามีความซับซ้อนและมันมีส่วนเกี่ยวพันกันทั้งหมด
หากจะให้เราทำเราพร้อมทำทั้งหมด หรือถ้าจะขอไปทำเอง เราก็จะทำเพียงแค่ในส่วนของคดีอาญาที่เกี่ยวข้อง ทุกอย่างจึงต้องยกไปวันที่ 6 มี.ค. ซึ่งหากวันดังกล่าว ประธานคณะกรรมการเลือกตั้งจะมาเอง เราก็จะเชิญท่านเข้าเป็น 1 ในที่ประชุมของบอร์ดทั้ง 22 คน เพื่อจะได้ตอบข้อซักถามให้ชัดเจน
ส่วนมองอย่างไรในกรณีท่าทีของเลขาธิการ กกต. ที่มีหนังสือสอบถามมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่กลับไม่รับนั้น ตนขอไม่ตอบ ก็ให้ไปพิจารณาเอง
ส่วนหนักใจหรือไม่ที่ท่าทีของสมาชิกวุฒิสภากลับตีความไปว่า เป็นเรื่องการเมือง เป็นการต่อรองระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ ตนขอย้ำว่าไม่มีเรื่องการเมือง เราพูดชัดเจนแม้กระทั่งในพรรคการเมืองร่วมกันว่าไม่ว่าสมาชิกของท่านใดที่ร่วมรัฐบาลหรือคนไหน ถ้าเกิดมีการกระทำที่เชื่อได้ว่า มีการกระทำผิดหรือมีแนวโน้มหรือมีข้อสงสัยก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ และการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลไม่ใช่ประเด็นสำคัญที่ทำให้เราต้องมาปกปิดความผิดที่เกิดขึ้น ใครทำอะไรก็ต้องรับผิดชอบไปตามนั้น
ส่วนประเด็นท่าทีของ สว. ที่ออกมาประกาศว่า จะมีการฟ้องร้อง ถือเป็นการกดดันการทำงานของคณะกรรมการคดีพิเศษหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยีนว่า ไม่เป็นการกดดัน เพราะอย่างที่เรียนว่า เราไม่ได้มุ่งไปแก้แค้นใคร หรือ ใช้อารมณ์ส่วนตัว ขณะนี้เราก็ยังไม่ได้ชี้ว่า มันผิดอย่างไร ที่จะเอาเป็นความผิดจริงๆ เพราะอำนาจอยู่ที่ศาล สิ่งที่เราทำคือการสอบสวนตามที่ปรากฏในข้อกฎหมาย การพิจารณาผิดถูกอย่างไรเป็นอำนาจของศาล เราทำตามหน้าที่ ตามกฎหมายกำหนด เพราะถ้าไม่ทำก็จะมีความผิดเช่นเดียวกัน
นายภูมิธรรม ยืนยันว่า จะเริ่มต้นจากข้อเท็จจริงและพิสูจน์ทราบได้ว่า มีแนวโน้มที่เป็นแบบนั้น จากการสอบสวนพร้อมข้อกฎหมายที่มี เมื่อเราเห็นว่า มันมีปัญหา ประชาชนสนใจและพอมีข้อมูลบ้างตามที่ดีเอสไอได้ดำเนินการมา ก็ต้องทำให้เกิดความชัดเจนพิสูจน์ทราบได้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับสถาบันหลักของชาติ สถาบันนิติบัญญัติ จึงต้องทำด้วยความระมัดระวัง ไม่ใช่เอาอำนาจบริหารไปแทรกแซง
นายภูมิธรรม ระบุด้วยว่า ต้องเรียนสมาชิกวุฒิสภาทุกท่านว่า เราในฐานะดีเอสไอและตนในฐานะประธานคณะกรรมการบอร์ด เมื่อมีผู้ร้องมาและมีหลักฐานบางส่วน ซึ่งเราได้เห็นนั้นก็คิดว่าน่าจะเอาเรื่องนี้ไปพิจารณา ส่วนจะถูกหรือผิดเราไม่มีดุลยพินิจในการตอบ ต้องให้ศาลเป็นผู้พิจารณา และอยากให้แยกเป็นคนละเรื่องกับกรณีที่วานนี้ (24 ก.พ.) ที่มีกระแสนัดเคลียร์ใจ คดีก็ส่วนคดี เรื่องใครจะนัดหมายกันอย่างไรตนไม่ทราบ ขอให้เป็นเรื่องของพรรคการเมืองที่จะไปคุยกัน ตนเชื่อว่า กรรมการทุกท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นอาจารย์ เป็นนักกฎหมาย เป็นผู้มีประสบการณ์ ผ่านการรับราชการระดับสูงมาแล้ว ก่อนที่จะเปิดประชุมก็มีการพูดคุยกันว่าอย่าให้เอาเรื่องการเมืองมาเกี่ยวข้อง
ส่วนข้อโต้แย้งที่สมาชิกวุฒิสภา ระบุว่า กกต. ดำเนินการสืบสวนอยู่ แต่ดีเอสไอกลับมาดำเนินการเรื่องนี้ โดยที่ไม่มีอำนาจหน้าที่ นายภูิธรรม ย้ำอีกครั้งเรื่องกฎหมาย เพราะไม่ใช่จู่ๆ ไปคุ้ย แต่เพราะมีผู้มาร้องเรียน ซึ่งทาง กกต. เองก็มีเรื่องร้องเรียน แต่ทาง กกต. ก็โยนเรื่องมาให้เราตั้งแต่ต้น แม้จะยังไม่ชัดเจนแต่ก็ขอให้มีการสรุปว่า มันเป็นเรื่องของเรา ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างกระบวนการพิจารณา ทั้งนี้คดีเลือกตั้งเป็นของ กกต. ดำเนินการไป แต่ถ้ามีการสรุปว่าเป็นคดีเกี่ยวกับทางอาญา เราก็จะดำเนินการ และที่ผ่านมาเราก็สามารถดำเนินการควบคู่กันได้อยู่แล้ว หรือต่างฝ่ายต่างดำเนินการ ทางเราก็พร้อม หากเป็นความผิดที่ปรากฏในสายตาเรา เราก็มีหน้าที่ในการรวบรวมพยานหลักฐาน แต่ถ้า กกต. บอกว่า คดีเลือกตั้งจะส่งให้เราด้วย เราก็ทำร่วมไปได้กับคดีอาญา
ส่วนสาเหตุที่ว่า ทำไมวันนี้ไม่มีการเดินหน้าลงมตินั้น ตามที่ตนบอกว่า คดีทั้งหมดที่จะเข้าที่ประชุมจะต้องเป็นคดีที่ผ่านตาคณะอนุกรรมการคัดกรองมา แต่ครั้งนี้เราไม่ได้ผ่านคณะอนุกรรมการคัดกรอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่เชื่อว่าในฐานะที่เป็นเลขานุการและเป็นกรรมการด้วย มีอำนาจหน้าที่ที่จะใช้ดุลพินิจว่า มันเป็นเรื่องเร่งด่วนและเอาเข้าได้ แต่มีกรรมการบางท่านสงสัยว่า "มันด่วนจริงหรือไม่ และด่วนแค่ไหน มันยังมีข้อสงสัย" เราจึงขยับเวลาออกไป 1 อาทิตย์ เพื่อทำให้ข้อสงสัยสิ้นกระแส จึงอยากให้มีความชัดเจนในการดำเนินการ
ส่วนจากพยานหลักฐานทั้งหมดที่มีตอนนี้ จะสอบสวนแล้วเสร็จ ทันกรอบการครบวาระของสมาชิกวุฒิสภาหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า เสร็จทัน ขอให้ชัดเจนว่าเราจะเดินหน้า และแม้จะเหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือน แต่เวลาทำคดีไม่ได้มีการมารอว่าอีก 4 เดือนเขาจะตายหรือจะป่วยหรือจะไม่อยู่ ถ้ามันมีความชัดเจนในเรื่องคดี มันก็ต้องทำหน้าที่ ไม่อย่างนั้นเราก็จะโดนร้องทุกข์กล่าวโทษการละเว้นปฏิบัติหน้าที่ มาตรา 157
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บอร์ดคณะกรรมการคดีพิเศษ มอบหมายให้ฝ่ายเลขานุการ คือ พ.ต.ต.ยุทธนา ในฐานะกรรมการและเลขานุการ ไปประชุมคณะอนุกรรมการฯ และหารือกับทาง กกต. เพื่อจะได้เสนอเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษอีกครั้งในวันที่ 6 มี.ค. เวลา 13.00 น. และจะมีการเชิญผู้แทนกรรมการ กกต. มาชี้แจงด้วย