
คลิปครูทำร้ายเด็กโผล่หลังเงียบนาน 1 ปี ล่าสุดคำสั่งให้ออกจากพื้นที่
ครูศูนย์อนุบาลฯ ทำร้ายเด็ก คลิปเพิ่งโผล่หลังเงียบนาน 1 ปี ล่าสุดต้นสังกัดตั้งคณะกรรมการสอบ พร้อมให้ออกจากพื้นที่ก่อน
3 มี.ค. 2568 คลิปฉาวที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียลขณะนี้ เมื่อแม่ของเด็กชายวัย 4 ขวบ โพสต์คลิปเผยพฤติกรรมรุนแรงของครูศูนย์อนุบาลแห่งหนึ่งในอำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 2567 แต่ผู้ปกครองเพิ่งได้รับคลิปล่าสุดก่อนนำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.ทุ่งหว้า
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบว่า แม้เหตุการณ์จะเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก แต่ศูนย์อนุบาลยังเปิดการเรียนการสอนตามปกติ ขณะที่เด็กชายผู้เสียหายไม่ได้มาเรียน ส่วนครูคนนี้พบว่ามีประวัติ มีปากเสียงกับเพื่อนร่วมงาน จนถึงขั้นต้องไปโรงพัก เคยมีเรื่องฟ้องร้องกันมาแล้ว
นายกริชชัย ภู่ฉุน นายอำเภอทุ่งหว้า เร่งประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ประกอบด้วย ศึกษาธิการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และนายก อบต. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรงของครูผู้ก่อเหตุ
นายอำเภอทุ่งหว้า กล่าวว่า ตอนนี้แม้เรายังไม่ได้พูดคุยกับครูโดยตรง แต่มีข้อมูลว่า ครูน่าจะยอมรับในสิ่งที่ได้กระทำลงไป และครูยินดีย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ที่อื่นระหว่างที่มีการสอบสวน ขณะนี้มีผู้ปกครองรายอื่นเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมแล้วมากกว่าสองราย กำลังเตรียมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงทั้งกรณีนี้และกรณีอื่นที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้นายอำเภอทุ่งหว้ายังเปิดเผยถึงมาตรการดำเนินการกับครูผู้ก่อเหตุว่า เราได้ย้ายครูรายนี้ออกจากศูนย์อนุบาลเด็กเล็กแล้ว กำลังพิจารณาส่งตัวไปปฏิบัติหน้าที่นอกเขตพื้นที่ระหว่างการสอบสวน ส่วนทางคดี ตำรวจรับเรื่องไปดำเนินการแล้ว โดยจังหวัดสตูลได้แจ้งให้สถานีตำรวจภูธรทุ่งหว้าพิจารณาคดีอย่างเร่งด่วน
สำหรับการดูแลเด็กที่ได้รับผลกระทบ ทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล จะเข้าประเมินสภาพจิตใจของเด็ก เพื่อให้ความช่วยเหลือและติดตามผลกระทบทางจิตใจในระยะยาว ที่สำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยด้วยการติดตั้งกล้องวงจรปิดในทุกห้องเรียน เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับผู้ปกครอง
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน นายอำเภอทุ่งหว้า พร้อมด้วยนายก อบต. ศึกษาธิการจังหวัด และทีมงานพัฒนาสังคมฯ เดินทางไปเยี่ยมครอบครัวของเด็กผู้เสียหาย เพื่อเยียวยาจิตใจและประเมินสภาพเด็ก ซึ่งเบื้องต้นพบว่า เด็กยังมีสภาพจิตใจร่าเริง
ญาติของเด็ก เล่าว่า "หลานเราก็ซนตามประสาเด็กผู้ชาย แต่พอได้เห็นคลิป เราตกใจมาก ครูทำเกินกว่าเหตุ และไม่คิดว่าจะเกิดกับลูกหลานเราเอง"
สำหรับประวัติครูคนดังกล่าวมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตำแหน่ง "ชำนาญการพิเศษ" และเข้าทำงานที่ศูนย์อนุบาลแห่งนี้ตั้งแต่ปี 2563 โดยไม่เคยมีประวัติการร้องเรียนมาก่อน ทางศึกษาธิการจังหวัดแจ้งว่า จะต้องรอผลการสอบข้อเท็จจริงก่อนนำสำนวนไปประกอบการพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งเป็นอำนาจของคุรุสภา คดีนี้สะท้อนให้เห็นว่า การกระทำรุนแรงต่อเด็กสามารถเกิดขึ้นได้แม้ในสถานศึกษา ซึ่งควรเป็นสถานที่ปลอดภัยสำหรับเด็กๆ ทางการสัญญาว่าจะตรวจสอบอย่างเข้มงวดและวางมาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก