
สุดเศร้า! พี่สาวเล่านาทีเก๋งดำ ชนน้องชายดับ พ่อสาหัสต่อหน้าต่อตา
สุดเศร้า! พี่สาวเล่านาทีเก๋งดำ ชนน้องชายดับ พ่อสาหัสต่อหน้าต่อตา ลั่นภาพยังติดตาอยู่เลย โชคดีคว้าน้องอีก 3 คนทัน ไม่งั้นอาจเจ็บทั้ง 5
5 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ณ.วัดท่ากระบาก ต.ท่าแยก อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นที่ตั้งศพของน้องแดน นักเรียนชั้น ป.5 ถูกรถชนเสียชีวิต หลังจากเดินทางมาถึง ผู้สื่อข่าวได้พบกับ น.ส.ธิษตยา (สงวนนามสกุล) อายุ 15 ปี ที่อยู่หมู่ 10 ต.ท่าแยก อ.เมือง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพี่สาวของน้องแดน ยังคงอยู่ในอาการตกใจ และเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ได้เล่าเหตุการณ์วินาทีช่วงที่พ่อ คือ นายชัยพร (สงวนนามสกุล) อายุ 52 ปี กับน้องแดน อายุ 11 ขวบ ซึ่งถูกรถคันดังกล่าวชนจนร่างกระเด็น ไปไกลกว่า 30-40 เมตร ต่อหน้าต่อตาตนและน้องๆ อีก 2 คน
โดยเผยว่า วันนั้นตนเอง พ่อ และน้องอีก 3 คนได้เดินทางไปที่ว่าการ อ.เมือง จ.สระแก้ว เพื่อที่จะไปทำการยื่นสิทธิ์ การรักษาพยาบาลและทำบัตรประชาชนเนื่องจากว่าน้องแดนผู้เสียชีวิต พึ่งย้ายกลับมาจากชลบุรี มาอยู่สระแก้วได้ 2 เดือน จึงต้องไปยืนยันตัวตน ที่อำเภอ เพื่อที่จะขอใช้สิทธิ์การรักษาพยาบาลที่จ.สระแก้ว
ขณะนั้นตนเอง พ่อกับน้องๆอีก 3 คน ได้นำรถไปจอดไว้ในโรงพยาบาล ด้านหลัง และเดินออกมา ทางด้านหน้าโรงพยาบาล เพื่อที่จะเดินข้ามทางม้าลายไปยังที่ว่าการอำเภอ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโรงพยาบาล ขณะที่ทุกคนกำลังจะเดินข้ามถนนนั้น พ่อได้ชะโงกหน้า ออกไปดูรถก่อนที่จะเดินข้าม ซึ่งพ่อกับน้องแดนเดินนำหน้าไปก่อน โดยรถคันอื่นๆ ต่างได้ชะลอรถให้แล้ว ซึ่งอีกแค่นิดเดียวพ่อกับแดนก็จะข้ามถึงเกาะกลาง แล้วจู่ๆ ก็มีรถเก๋งสีดำ พุ่งเข้าใส่ทั้งคู่อย่างแรง โชคดีที่ตนเองดึงน้องอีก 2 คนออกมาได้ทัน ไม่อย่างงั้นคงจะถูกรถคันดังกล่าวชน ไปด้วยกันหมดทั้ง 5 คน
ซึ่งภาพยังคงติดตาของตนอยู่เลย ร่างของพ่อและน้องกระเด็นลอยไปไกล ร่างตกกระแทก ลงพื้นถนนจนแน่นิ่ง ทุกคนต่างพากันร้องไห้ด้วยความตกใจ จากนั้น ก็มีคนวิ่งมาช่วยปั๊มหัวใจน้องชาย และรีบนำตัวส่งเข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ซึ่งจากเหตุการที่เกิดขึ้นมีบางกระแสบอกว่า สาเหตุเกิดจากการที่มีการนำป้ายโฆษณา หรือประชาสัมพันธ์ ขึ้นไปปักไว้บนเกาะกลางถนน" ทำให้บดบังทัศนวิสัย จนเกิดเหตุสลดนี้ ซึ่ง"น้องมด" และญาติๆ ต่างพากันยืนยันว่า ป้ายดังกล่าวนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น เพราะมันอยู่คนละฝั่งกัน มิได้มีการบดบังทัศนวิสัย แต่อย่างใดเลย "
แต่จังหวะที่เดินข้ามไปนั้น เห็นรถหลายคันชะลอความเร็วให้แล้ว จึงมั่นใจเดินข้ามไป ปลอดภัยอย่างแน่นอน น้องมดกล่าว ซึ่ง"น้องมด"ยังได้เล่าถึงช่วง คืนก่อนที่จะเกิด เหตุการณ์ ดังกล่าวขึ้น ตนเองได้ฝันแบบแปลก คือเห็นพ่อนั่งอยู่หลังบ้าน จากนั้นก็มีคนนำพ่อส่งไปยังโรงพยาบาลห้องฉุกเฉิน รวมทั้งมีการปั๊มหัวใจ ซึ่งมันเหมือนจริงมากๆ ต่อมามีคนออกมาบอกว่าพ่อได้เสียชีวิตแล้ว " ซึ่งภาพในความฝันนั้น เหมือนจริงมาก พอรุ่งเช้า ก็มาเกิดเหตุกับพ่อกับและน้อง ถูกรถชนหน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช สระแก้ว ซึ่งตอนนี้พ่อยังคงอยู่ในห้อง ICU และยังไม่พ้นขีดอันตราย ถึงแม้จะมีการผ่าตัด ไปแล้วก็ตาม
น.ส.อรอุสา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี แม่ของน้องแดน และ นางวาสนา (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี ยาย หลังจากทราบข่าวได้รีบเดินทาง กลับมาจากชลบุรี ด้านแม่และยายเล่าทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกเสียใจ และตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาก ตนเชื่อว่าน้องแดนผู้เสียชีวิต ยังรอแม่และยาย เพราะว่ากว่าแม่และยายจะมาถึง ได้มีการปั๊มหัวใจไปแล้วถึง 2 ครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้ายที่หมอเดินออกมาแจ้งอาการของน้องแดน ซึ่งตนเองเห็นลูกชาย แล้วสงสารลูก อย่างมาก จึงได้บอกกับคุณหมอไปว่าแม่ยอมปล่อยน้องแล้วแม่ไม่อยากเห็นน้องทรมาน
จากนั้นได้เข้าไปกอดร่ำลาลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่น้องแดนจะสิ้นลมหายใจ ด้านคุณยายยังคงติดใจ ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งจุดที่เกิดเหตุนั้นเป็นแหล่งชุมชน และเป็นทางม้าลาย สำหรับคนข้ามถนน ซึ่งคนที่ใช้รถใช้ถนน ต้องเข้าใจว่าทางม้าลาย ต้องชะลอรถให้คนได้ข้ามถนน
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้มันคืออะไร ยายอยากทวงถาม ซึ่งป้ายที่ติดไว้บอกว่า ในเขตชุมชน ลดความเร็วไม่ควรเกิน 40- 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สิ่งที่เกิดขึ้น กับหลานชาย และสามีของตนนั้นมันคืออะไร
หลังจากเหตุการณ์นี้ ได้มีกระแสเสียงจากประชาชนส่วนใหญ่ ที่ได้เห็นเหตุการณ์ ได้ลุกขึ้นมาเรียกร้อง อยากให้มีสะพานลอย ตรงจุดดังกล่าวเนื่องจากเป็นจุดที่สำคัญ คือโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้ว ซึ่งคนก็จะเดินข้ามไปข้ามมา ณ จุด นี้กันจำนวนมาก และอยากให้เคสของน้องแดนเป็นเคสสุดท้าย
ส่วนทางด้านคู่กรณี แจ้งว่าจะมีการเดินทางมาร่วมงานขอเป็นเจ้าภาพ ในการสวดอภิธรรมศพ คืนนี้เป็นคืนแรก ส่วนร่างของน้องแดน จะมีการฌาปนกิจ ในวันเสาร์ ที่ 8 มีนาคม 2568 นี้ ล่าสุดด้าน พันตำรวจเอก สราวุธ เอี่ยมสำอาง ผู้กำกับ สภ.เมืองสระแก้ว ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา กับคู่กรณีเบื้องต้น ขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่น ถึงแก่ความตาย ส่วนจะมีการแจ้ง ข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ยังต้องดูอาการของผู้บาดเจ็บอีก 1 ราย ซึ่งยังรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ไอซียู โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชสระแก้วต่อไป