"บิ๊กโจ๊ก" กับฉายา "แมว 9 ชีวิต" บนเส้นทางข้าราชการตำรวจ 30 ปี | คมชัดลึก

กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งสำหรับ "บิ๊กโจ๊ก" หรือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ฉายา "แมว 9 ชีวิต"

 

บิ๊กโจ๊ก เกิดวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2513 (ปัจจุบันอายุ 54 ปี) เป็นชาวอำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา 

 

การศึกษา

จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา , ปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาอาชญาวิทยาและงานยุติธรรม มหาวิทยาลัยมหิดล , ปริญญาเอก ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย และ ปริญญาเอก สาขาวิชาอาชญาวิทยา การบริหารงานยุติธรรมและสังคม (ภาคพิเศษ) มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 47 และนักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 31 มีกำหนดเกษียณอายุราชการปี 2574

ผลงานเด่นๆ อาทิ คดีแอม ไซยาไนด์, คดีคนไทยรับจ้างอุ้มบุญ, คดีมูลนิธิคุ้มครองเด็ก (บ้านครูยุ่น) ทำร้ายเด็ก-บังคับไปทำงานรีสอร์ต, ทลายเครือข่ายขบวนการค้าน้ำมันเถื่อน, คดีทุนจีน, ปัญหาบุกรุกที่ดินเกาะหลีเป๊ะ

 

นอกจากนี้ยังรับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศพดส.ตร.) ซึ่งในส่วนงานนี้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้เคยระบุว่า ผลการประเมินของประเทศไทยจากองค์กรสากลขยับขึ้นในทิศทางที่ดีขึ้น

 

บิ๊กโจ๊ก ผลักดันการแก้ประวัติอาชญากร ปรับปรุงระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยประมวลระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 32 การพิมพ์ลายนิ้วมือ พ.ศ.2566
 

ก่อนหน้านี้ประชาชนจะรู้จัก บิ๊กโจ๊ก ตำรวจผู้ให้ความช่วยเหลือและสางคดีต่างๆที่มีผู้มาร้องเรียนโดยใช้พื้นที่สโมสรตำรวจ ถนนวิภาวดีรังสิต แต่ต่อมา 15 ส.ค. 2567 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจพ้นจากตำแหน่ง เนื่องจากถูกกล่าวหาว่า กระทำผิดวินัยอย่างร้ายแรงจนถูกตั้งกรรมการสอบสวน 

 

ล่าสุด 7 มี.ค. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ คณะกรรมการพิจารณาโทษที่มี พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) อาวุโสสูงสุด เป็นประธานการประชุม และมี รอง ผบ.ตร. ทุกคนเป็นกรรมการ 

"มีมติเอกฉันท์ไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ จากกรณีเกี่ยวข้องเว็บพนันออนไลน์" 

 

เส้นทางข้าราชการตำรวจ

บิ๊กโจ๊ก ปัจจุบันรับราชการมาแล้วประมาณ 30 ปี เริ่มตั้งแต่ช่วงปี 2537

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคำสั่งออกมาเช่นนี้ แต่พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ยังสามารถอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) ซึ่งหากยืนตามคณะกรรมการวินัย พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ก็สามารถใช้สิทธิฟ้องต่อศาลปกครองสูงสุดต่อไป หากศาลปกครองสูงสุดยืนตาม ก.พ.ค.ตร. ก็จะทำให้คดีวินัยถึงที่สุด ซึ่งจะเข้าสู่ขั้นตอนของการพิจารณาถอดยศตำรวจ