อุบัติเหตุหมู่! ผู้สูงอายุกลับจากดูลิเก รถเสียหลักชนเสาไฟฟ้าดับ 1 เจ็บอื้อ | คมชัดลึก

9 มี.ค. 2568 เวลาประมาณ 01.30 น. ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรกระทุ่มแบน รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนเสาไฟฟ้า ในซอยวิรุณราษฎร์ บริเวณทางโค้งปากทางเข้า อบต.ท่าไม้ หมู่ที่ 8 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก และมีผู้เสียชีวิต

 จึงแจ้งให้ ร.ต.อ.ประวิตร กรองศิริ รองสารวัตรสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน ไปตรวจสอบ พร้อมกับรีบประสานหน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลกระทุ่มแบน โรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย โรงพยาบาลมหาชัย 2 และ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าให้การช่วยเหลือเร่งด่วน 
 

โดยในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะแค็ป ยี่ห้ออีซูซุดีแมกซ์ สีบอร์นทอง ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง จนกระโปรงหน้ารถยุบพัง ส่วนผู้บาดเจ็บรวมทั้งหมด 9 คน เป็นหญิงสูงอายุ (มีอายุระหว่าง 55 – 70 ปี) จำนวน 7 คน ชายคนขับรถ 1 คน และเด็กชายอายุประมาณ 5 ขวบ อีก 1 คน โดยผู้บาดเจ็บทั้ง 9 คนนั้น ได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก กับแรงเหวี่ยงจนบางคนตกจากท้ายรถกระบะไปนอนอยู่บนพื้นถนน 

ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในขั้นปลอดภัย มีอาการทั้งเจ็บแน่นหน้าอก เป็นแผลตามร่างกาย ขาหัก แต่มีผู้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เจ้าหน้าที่ต้องทำการ CPR ก่อนนำตัวส่งเข้ารับการรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล จำแนกเป็น โรงพยาบาลกระทุ่มแบน 4 คน และ โรงพยาบาลวิชัยเวชอ้อมน้อย 5 คน 

ขณะที่ผู้เสียชีวิตเป็นหญิง นอนอยู่บริเวณท้ายรถกระบะ ทราบชื่อต่อมาคือ นางอำไพ (สงวนนามสกุล) อายุ 74 ปี เป็นชาวตำบลท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า รถยนต์กระบะคันดังกล่าวมีนายชูชาติ (สงวนนามสกุล) อายุ 63 ปี เป็นคนขับ โดยเป็นรถที่พาผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นเพื่อนผู้สูงอายุด้วยกันไปดูลิเกที่วัดวังเย็น จ.นครปฐม ขากลับก็ได้แวะส่งคนตามทางมาเรื่อยๆ มีจุดหมายปลายทางสุดท้ายอยู่แถวๆ วัดบางปิ้ง ต.นาดี อ.เมืองสมุทรสาคร 

ซึ่งขณะที่กำลังจะไปส่งคนในซอยแถวที่เกิดเหตุนั้น รถเกิดเสียหลักพุ่งไปชนกับเสาไฟฟ้าข้างทาง จนกลายเป็นอุบัติเหตุหมู่ ที่น่าสลดใจดังกล่าว ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจภายหลังจากที่ได้ทำการตรวจสอบ พร้อมกับเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุแล้ว ก็ได้ให้รถยกนำรถไปเก็บไว้ที่อู่เก็บของกลาง เพื่อรอการตรวจสอบพิสูจน์สภาพรถอีกครั้ง นอกจากนี้ยังได้จะทำการสอบปากคำคนขับรถกับผู้บาดเจ็บทั้งหมด และตรวจหากล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนของการเกิดอุบัติเหตุต่อไป